จเรตำรวจยันไม่ใช่ลักพาตัว พบแล้ว ซิงซิงดาราจีน นายกฯสั่งดำเนินการให้ดี ไม่ให้กระทบการท่องเที่ยว

นายกฯแถลงพบตัว ซิงซิง ดาราจีน หลังหายตัวปริศนา ยัน ตร.ภูธรภาค6 รอรับตัว สั่งดำเนินการให้ดี ไม่ให้กระทบท่องเที่ยว ด้าน จเรตำรวจย้ำรอรับที่แม่สอด ไม่ปรากฏว่าถูกลักพาตัวแต่มีคนมารับผ่านช่องทางธรรมชาติ กำชับทำคดีให้ชัดหลังพฤติการณ์คล้ายขบวนการค้ามนุษย์ ส่วน ภูมิธรรม จ่อเรียกประชุมทุกฝ่าย หารือปัญหาชายแดน เอาจริงปราบค้ามนุษย์-ยาเสพติด-คอลเซ็นเตอร์ ตั้งเป้า 6 เดือนให้สมัครใจย้ายออกหากไม่เห็นผล
        
 ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 ม.ค.68 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตครี เปิดเผยว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ครั้งแรกของปี 2568 นายกฯ มีข้อสั่งการจากกรณีที่ Mr. Xing Xing ดาราชายชาวจีน เดินทางมาประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 ม.ค.68 และหายตัวไปที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพราะถือเป็นเหตุการณ์สะเทือนขวัญ และกระทบต่อการท่อง เที่ยวอย่างยิ่ง โดยขอให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กระทรวงการต่างประเทศ เร่งติดตามคลี่คลายคดีหาตัวผู้สูญหายโดยด่วนที่สุด และให้ กระทรวงท่องเที่ยวฯ ติดตามกระแสข่าว และแก้ไขข่าวด้านลบโดยเฉพาะในประเทศไทย และจีนอย่างใกล้ชิด
         
ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ว่า มีการพบตัว Mr. Xing Xing เรียบร้อยแล้ว โดยมีการส่งตัวจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 6 รอรับตัวอยู่ ทั้งนี้เราต้องทำเรื่องนี้ให้ดี เพื่อไม่ให้กระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย เพราะมีทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นและเรื่องที่เป็นข่าวลือเยอะ และถูกนำไปขยายผลในโซเชียลมีเดียว่าประเทศไทยมีความน่ากลัวอย่างนั้นอย่างนี้ ในส่วนของเราก็พยายามอย่างเต็มที่ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ก็ต้องช่วยดูด้วยในเรื่องการปล่อยข่าวลือที่ไม่จริง หรือมีสถานการณ์อะไรที่ไม่ใช่เรื่องจริง เราก็ได้เน้นย้ำเรื่องนี้เพราะไม่อยากให้กระทบต่อการท่องเที่ยวของไทย
       
  เมื่อถามว่า เราจะดำเนินการอย่างไรกับคนจีนที่เข้ามาดำเนินการไม่ถูกต้อง จนกระทบภาพลักษณ์ประเทศ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตอนนี้เราได้มีการประสานไปยังทูตจีนแล้ว ซึ่งทั้งไทยและจีนได้คุยกันถึงเรื่องนี้อย่างเข้มข้น และช่วงที่ตนเดินทางไปประชุมต่างประเทศ ได้มีโอกาสพบผู้นำก็ได้พูดคุยเน้นย้ำถึงเรื่องนี้เช่นเดียวกัน เพราะเรื่องนี้นอกจากจะกระทบการท่องเที่ยวแล้ว ก็ยังมีการพูดคุยถึงเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการใช้สื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ บางครั้งการฉ้อโกง การหลอกลวง แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สองประเทศเน้นย้ำเป็นอย่างมาก และไม่ใช่แค่จีนกับไทย ประเทศเพื่อนบ้านและอื่นๆก็ประสบปัญหาเดียวกับเรา เพราะฉะนั้นการดูแลอย่างใกล้ชิดสำคัญมาก เราใช้กลไกของรัฐมนตรีต่างประเทศพูดคุยกันอยู่แล้ว และเมื่อเรามีมาตรการหรือข้อสั่งการใดๆ ที่ต้องเพิ่มเติมมากขึ้น เราก็จะติดต่อกับประเทศนั้นทันที ซึ่งก็ได้มีการติดต่อกันมาโดยตลอด และครั้งนี้ก็ได้ติดต่อกับทูตจีนเรียบร้อยแล้ว
     
    เมื่อถามว่า กรณีที่ฝ่ายค้านเสนอทบทวนนโยบายฟรีวีซ่าคนจีน โดยจัดโซนนิ่ง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เดี๋ยวก็ต้องรอคุยกันดูระหว่างสองประเทศ ว่าจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน เพราะนโยบายฟรีวีซ่ารัฐบาลสนับสนุนมาโดยตลอด ก็อยู่ที่การจัดลำดับความสำคัญและการตกลงระหว่างประเทศ อะไรที่เป็นข้อเสนอที่ดีก็ต้องรับฟัง
         
ส่วน พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และ พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมคณะ ลงพื้นที่ด่วนไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีการหายตัวของ นายซิงซิง หรือ หวังซิง นักแสดงสัญชาติจีน จากรายงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เจ้าหน้าที่ได้นำรูปของนักแสดงคนดังกล่าวเข้าตรวจสอบในระบบไบโอเมติกซ์ทำให้ยืนยันได้ว่า นายหวังซิง เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. เป็นการเดินทางจากสนามบินผู่ตง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ซึ่งไม่ได้แจ้งรายละเอียดที่พัก
         
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการยืนยันว่าพบตัว นาย ซิงซิง แล้ว ซึ่งได้เดินทางมารับตัวที่ อ.แม่สอด ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวชายที่ขับรถตู้ไปรับตัวนายซิงซิงที่สนามบิน มาสอบปากคำแล้ว เบื้องต้นไม่ปรากฏว่า นายซิงซิง อยู่ในลักษณะถูกบังคับหรือลักพาตัว โดยเมื่อนำตัวไปส่งที่ชายแดน อ.แม่สอด แล้ว ได้มีคนมารับช่วงต่อไปยังจุดหมายทางช่องทางธรรมชาติ ทั้งนี้ ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ และทำให้เรื่องดังกล่าวกระจ่างมากที่สุดเนื่องจากลักษณะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใกล้เคียงกับขบวนการค้ามนุษย์
         
วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ในวันที่ 27 ม.ค.นี้ จะมีการเรียกประชุมนายอำเภอ ผู้กำกับทุกฝ่าย ใน 14 จังหวัด 51 อำเภอ 76 สถานีตำรวจ รวมถึงแม่ทัพภาคทุกภาค โดยการดูแลพื้นที่ชายแดนนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายทหาร ที่จะดูแลในเรื่องของกรมกิจการชายแดนแต่เรื่องนี้ก็ควบคุมยากเนื่องจากเราคุมเส้นทางหลักแต่เส้นทางธรรมชาติของชายแดนไทยนั้นยาว ส่วนนี้จึงเป็นปัญหา ตนจึงคิดว่าอำเภอทั้งหมดที่อยู่รอบชายแดนทุกด้านจะมีการซีลชายแดนทั้งหมดซึ่งการซีลชายแดนนี้จะได้ทั้งเรื่องของปัญหายาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้ามนุษย์ ซึ่งจะมีการหารือกันเพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ โดยตนตั้งเป้าไว้ว่าภายใน 6 เดือนต้องเห็นผลในการที่จะสามารถจัดการอะไรต่างๆ ได้ และหาก 6 เดือนไม่สามารถทำให้เห็นได้ว่าดีขึ้น หรือมีลักษณะที่ลดลง ก็ต้องให้มีการสมัครใจย้าย แต่หากทำดีก็จะมีการพิจารณาถึงความดีความชอบ นี่คงถือเป็นมาตรการที่เอาจริงเอาจัง และเป็นกรอบนอกที่ป้องกันไม่ให้มีการเข้าออกได้อย่างง่ายๆ และสามารถสกัดในพื้นที่นอกเหนือจากเขตเคลื่อนไหวที่ข้ามต่างไปได้ ซึ่งหากเราไม่ทำเช่นนี้ก็จะมีการเข้ามาทางธรรมชาติ ฉะนั้นในส่วนของอำเภอและสถานีตำรวจก็ต้องทำงานอย่างเต็มที่ ตนคิดว่านี่คือมาตรการแรกที่กำลังจะเกิดขึ้นแต่จากนี้ไปก็ต้องมาดูเฉพาะราย เฉพาะเรื่องว่าจะจัดการอย่างไร เนื่องจากแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน
      
   โดยขณะนี้ ตนดำเนินการเรื่องดังกล่าวควบคู่ไปกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และจะดำเนินการเรื่องปราบผู้มีอิทธิพลด้วย ซึ่งจะอยู่ในกระบวนการเดียวกันทั้งหมด โดยมองว่าเรื่องของผู้มีอิทธิพลเป็นสิ่งที่กังวลไปถึงการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้ ฉะนั้นเราก็ได้เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรีแล้ว ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกัน