"สรท." คาดส่งออกปี 67 โต 4-4.5% ด้านปี 68 เกาะติดสงครามการค้า-ขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์โจทย์ยาก

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ขนส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า คาดส่งออกของไทยในเดือน ธ.ค.67 ขยายตัวได้กว่า 4.5% ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการผลักดันการส่งออกในช่วงโค้งสุดท้าย ส่งผลให้การส่งออกทั้งปี 2567 ขยายตัวได้ 4.5-5% เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนหน้านี้

สำหรับเป้าหมายการส่งออกในปี 2568 กำหนดไว้กว้างๆว่าจะขยายตัว 1-3% เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงมาก ทั้งปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ความรุนแรงเรื่องสงครามการค้า ซึ่งต้องจับตาดูท่าทีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่หากต้องการให้ยอดส่งออกปี 2568 ขยายตัวได้ 2-3% ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องทำงานร่วมกันมากขึ้น โดยปี 2567 ถือว่าสอบผ่าน แต่ปี 2568 โจทย์ยากมากขึ้น ต้องทำงานร่วมกันอย่างหนักมากขึ้น สรท.ได้นำเสนอให้ รมว.พาณิชย์ รับไปพิจารณาแล้ว

สำหรับปัจจัยเสี่ยงสำคัญในปี 68 ที่ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่องได้แก่ 1.Trade War (Trump 2.0) ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าซึ่งอาจส่งผลทั้งด้านบวกและลบต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงไทย มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ดึงนักลงทุนกลับประเทศและมาตรการลดภาษีเงินได้นิติบุคคล อาจส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความร้อนแรง มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อ ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐปรับประมาณการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจาก 4 ครั้งเหลือ 2 ครั้งในปีหน้า แนวทางการลด/ยกเลิกความเข้มงวดของมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมทุกรูปแบบ 2.ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ เรื่องของการอ้างสิทธิเหนือน่านน้ำซึ่งนำไปสู่การเผชิญหน้าทางทหารในทะเลจีนใต้ ประกอบกับสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลาง และรัสเซีย-ยูเครนที่ยังหาข้อยุติไม่ได้ 3.ค่าเงินบาทยังคงมีความผันผวน จากปัจจัยภายในรวมถึงเงินเฟ้อและนโยบายการค้าประธานาธิบดีสหรัฐฯ

4.ต้นทุนของผู้ส่งออกเพิ่มขึ้น การปรับขึ้นค่าแรงงาน ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการผลิตสินค้าและการขนส่ง ทิศทางราคาน้ำมันและต้นทุนพลังงานในตลาดโลกมีความผันผวนจากความเสี่ยงหลายประการ 5.สถานการณ์การขนส่งทางทะเล สถานการณ์ค่าระวางมีการปรับตัวสูงขึ้น จากการเร่งส่งออกตลาดไปยังสหรัฐฯ และปัญหาทะเลแดงที่ยังมีอิทธิพลต่อการส่งออกไปสหภาพยุโรปและตะวันออกกลาง

ทั้งนี้ สรท.มีข้อเสนอแนะที่สำคัญต่อภาครัฐดังนี้ 1.ผลักดันให้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคเอกชน กระทรวงพาณิชย์ (กรอ.พณ.) รายไตรมาส เพื่อติดตามสถานการณ์ความผันผวนการค้าระหว่างประเทศ 2.เพิ่มเติมงบประมาณด้านการกิจกรรมการค้าระหว่างประเทศมากขึ้น ทั้งในประเทศคู่ค้าหลักและตลาดเกิดใหม่ เพื่อกระจายความเสี่ยงทางการค้า รองรับการบิดเบือนตลาดจากมาตรการทางการค้าของสหรัฐอเมริกา เพื่อบรรลุเป้าหมายส่งออก 2-3% ในปี 2568 การหวังกินบุญเก่าจากตลาดเดิมคงจะไม่ได้ ต้องเร่งหาตลาดใหม่ พร้อมๆไปกับการรักษาตลาดเดิมไว้ เพราะปัญหามีความซ้ำซ้อนเพิ่มมากขึ้น มีอุปสรรคจากการออกกฎระเบียบใหม่ที่ไม่ใช่เรื่องของภาษี

โดยภาวะการส่งออกในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 น่าจะยังได้รับแรงส่งต่อจากช่วงไตรมาส 4 ของปี 2567 อย่างน้อยน่าจะมีมูลค่าราว 7.2 ล้านดอลลาร์ ขยายตัวเพิ่มขึ้น 1-2% แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงด้วย ซึ่งไม่รู้ว่าสถานการณ์หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้วจะเป็นอย่างไร ช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.68 ก็ต้องเร่งส่งออก เพื่อให้ทันกับเทศกาลตรุษจีน และช่วงถือศีลอดที่มาเร็ว โดยมีสินค้าหมวดอาหารและชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์เป็นสินค้าหลัก เมื่อผลงานออกมาดี ภาครัฐควรจัดสรรงบประมาณมาดำเนินการเรื่องการส่งเสริมการส่งออกให้มากขึ้น

#สรท #ส่งออก #สงครามการค้า #ข่าววันนี้ #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์