ศึกเลือกตั้งสภา อบจ.ระยอง ต้องบอกว่า มันหยดติ๋งดุเดือดแน่นอน ผู้สมัครพรรคประชาชน เปิดศึกขอท้าชนบ้านใหญ่อดีตนายก อบจ.ระยอง 3 สมัย แถมมีอดีตนักการเมืองท้องถิ่นที่เคยลงสนามเลือกตั้งนายก อบจ.ระยองครั้งที่แล้วได้คะแนนถึง 9 หมื่นคะแนนลงสู้หวังเป็นตัวสอดแทรกหวังเข้าวินด้วย โดยเที่ยวนี้ มีผู้สมัครนายก อบจ.ระยอง 3 คน ประกอบด้วย เบอร์ 1 นายปิยะ ปิตุเตชะ อดีตนายก อบจ.ระยอง 3 สมัย ดำรงตำแหน่งยาวนาน 17 ปี ชู"ขอเป็นนายก อบจ.อีกสมัย เพื่อสานงานที่ค้างคาให้แล้วเสร็จ" ขนลูกทีมลงรับสมัคร ส.อบจ.ครบทั้ง 8 อำเภอ 30 เขต เบอร์ 2 นายสุวิทย์ เหล่าฤทธิไกร อดีตนักการเมืองท้องถิ่น เคยลงสนามเลือกตั้งนายก อบจ. ครั้งที่ผ่านมาได้คะแนนถึง 9 หมื่นกว่าคะแนน ขอตั้งใจทำงานเพื่อคนระยองบ้าง และเบอร์ 3 ดร.ทรงธรรม สุขสว่าง อดีตอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-เกาะเสม็ด ,อดีตผู้ทรงคุณวุฒิด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พรรคประชาชนส่งลงท้าชนชิงนายก อบจ. พร้อมส่งผู้สมัคร ส.อบจ.ครบ 30 เขต เช่นเดียวกัน ชูการหาเสียงหวัง"เปลี่ยนแปลงระยอง เปลี่ยนเพื่อสิ่งดีกว่า"
นายปิยะ เปิดใจว่า ที่ผ่านมาตนพัฒนา จ.ระยอง ไว้มาก ทั้งด้านการศึกษา ท่องเที่ยว และสาธารณสุข และยังมีบางเรื่อง บางโครงการที่ยังทำไม่เสร็จ จึงอยากจะสานต่อเพื่อให้มันแล้วเสร็จ ซึ่งโครงการต่างๆ ที่ทำก็เพื่อการพัฒนาจังหวัด ทำให้พี่น้องประชาชนชาว จ.ระยอง ก็อยากจะขอโอกาสพี่น้องประชาชนอีกสมัย ซึ่งเป็นสมัยสุดท้าย ตามกฏหมายเลือกตั้งที่จะลงรับสมัครเลือกตั้งได้ ขอโอกาสเข้าไปอีกสมัย เพื่อทำสิ่งที่ทำไว้ต่อ ไม่ต้องไปเปลี่ยนอะไร หรือเริ่มต้นใหม่ เพื่อทำให้จบ จึงขอโอกาสพี่น้องด้วย
ด้าน ดร.ทรงธรรม เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางพรรคประชาชน มีแกนนำ และทีมงานในพื้นที่ใกล้ชิดประชาชน มีกระบวนการทำงานที่ชัดเจน โดยได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของประชาชนมาอย่างต่อเนื่องเกือบ 2 ปีแล้ว จะนำเอาปัญหามาทำเป็นนโยบายของพรรค เพื่อให้การแก้ไขปัญหาของประชาชนได้ตรงจุดที่สุด ทั้งนี้ในส่วนที่อยากจะพัฒนา จ.ระยอง เนื่องจากที่ผ่านมา จ.ระยอง มีการเปลี่ยนแปลงน้อยมาก และมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นช่วงที่มี สส.ของพรรค ทั้งเรื่องกฎหมายประมง และปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ได้รับการแก้ไขดีขึ้นมาก ซึ่งหากพี่น้องประชาชนให้โอกาสพรรค ทำงานในระดับท้องถิ่น คิดว่าจะสามารถทำงานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้มากขึ้น
ทางด้านนายสุวิทย์ เปิดเผยว่า เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน เนื่องจากตนเป็นคนตั้งใจทำงาน หากได้รับเลือกสิ่งแรกที่จะพัฒนาคือ วางระบบโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งเรื่องการศึกษา และสาธารณสุข
สนามเลือกตั้งท้องถิ่นของ จ.ระยอง ครั้งนี้ ผู้สันทัดกรณีมองว่าสู้กันดุเดือดแน่นอน วัดกันที่การลงพื้นที่หาเสียง และนโยบายจะโดนใจประชาชนหรือไม่ วันที่ 1 ก.พ.68 นี้ จะได้รู้คำตอบว่าใครจะเข้าวิน
