"ประเสริฐ" มั่นใจ เงิน 10,000 เฟส 3 เสร็จทัน มี.ค.นี้ ระบุได้บริษัทจัดทำแอปพลิเคชันแล้ว ทดลองระบบ 1 เดือน แย้ม เฟส 3 เป็นรอบสุดท้าย ด้าน รัฐบาล ลุยช่วยรากหญ้า ผ่านโครงการ คุณสู้ เราช่วย" เปิดลงทะเบียนแล้ว ผ่าน ธอส. คาดปลดหนี้ ปชช. กว่า 3 แสนล้านบาท

         ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 ม.ค.68 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดทำระบบดิจิทัลวอลเล็ต หรือเงิน 10,000 บาทเฟส 3 หลังจาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประกาศว่าจะเสร็จช่วงเดือน มี.ค.68 ว่า จะเสร็จประมาณช่วงเดือนมี.ค. ซึ่งในเรื่องตัวของระบบดังกล่าวไม่มีปัญหา เพราะขณะนี้ได้ตัวผู้มาดำเนินการจัดทำระบบแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อตัวบริษัทได้ ส่วนความคืบหน้าของระบบใกล้เสร็จแล้ว โดยจะมีการทดลองระบบประมาณ 1 เดือน คาดว่า 3 เดือนจะแล้วเสร็จ ประมาณช่วงเดือนมี.ค. พร้อมเชื่อมั่นว่าระบบจะไม่มีปัญหา และสามารถรองรับการใช้งานผู้ที่ลงทะเบียนกว่า 30 ล้านคนได้
        
 ตอนนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการเงิน 10,000 เฟส 2 สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งกระทรวงการคลัง กำลังพิจารณาเรื่องวันและเวลาที่ชัดเจน ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และหลังจากนั้นจะเหลือรอบสุดท้าย ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยในระบบกระเป๋าเงินดิจิทัล
        
 ผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงเรื่องที่บอกว่าหลังจากนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ฉะนั้นเฟสที่ 3 จะเป็นเฟสสุดท้าย และหลังจากนี้จะไม่มีเฟสต่อไป หรือจบโครงการแล้วใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เดิมรัฐบาลตั้งเป้าไว้ที่ 50 ล้านคน แต่ภายหลังมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม ซึ่งรอบสุดท้ายจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็ครบตามที่รัฐบาลได้พูดเอาไว้
        
 เมื่อถามย้ำอีกว่าหลังจากนี้จะไม่มีเฟส 4 จะจบที่เฟส 3 ใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เฟส 3 ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร เพราะไม่ได้เป็นการให้เงินสดโดยตรง ซึ่งจุดประสงค์เพื่อต้องการให้มีการจับจ่ายใช้สอยบริโภคสินค้า ดังนั้น ขั้นตอนอาจจะมีความหลากหลายกว่า
        
 ด้าน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กระทรวงการคลัง ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนของประชาชนผ่านโครงการคุณสู้ เราช่วย เพื่อช่วยบรรเทาภาระหนี้สินของประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจ พร้อมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนและผู้ประกอบการสามารถกลับมาตั้งตัวได้และยืนหยัดได้ในระยะยาว โดยโครงการคุณสู้ เราช่วย เป็นมาตรการแก้ไขหนี้ โดยเปิดให้ลูกค้าของธนาคารที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 5 ล้านบาท ที่ทำสัญญาก่อนวันที่ 1 ม.ค. 2567 และมีสถานะค้างชำระเกิน 30 วัน แต่ไม่เกิน 365 วัน หรือมีสถานะค้างชำระไม่เกิน 30 วัน ที่เคยปรับโครงสร้างหนี้และเคยค้างชำระมากกว่า 30 วัน ระหว่างปี 2565  2567 (สถานะดังกล่าวนับ ณ วันที่ 31 ต.ค.2567) 
       
  ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่าน Application : GHB ALL GEN หรือ Application : GHB ALL Bfriend โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ 6 ม.ค.  28 ก.พ. 2568 และเพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารให้สามารถรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)ได้แบ่งการดำเนินการให้การช่วยเหลือออกเป็น 2 มาตรการ ประกอบด้วย มาตรการจ่ายตรง คงทรัพย์ และ มาตรการจ่าย ปิด จบ โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ 
       
รัฐบาลพร้อมขับเคลื่อนนโยบายเพื่อลดภาระทางการเงินให้แก่พี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาในการชำระหนี้ ให้สามารถประคองตัว รักษาสภาพคล่องและสินทรัพย์สำคัญ ผ่านโครงการคุณสู้ เราช่วย โดยคาดว่าจะมีลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้คุณสู้ เราช่วย ในวงเงินประมาณ 300,000 ล้านบาท จากวงเงินของธนาคารเฉพาะกิจที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 450,000 ล้านบาท นางสาวศศิกานต์ กล่าว