ภูมิธรรมนั่งหัวโต๊ะ กบฉ. ไฟเขียวยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อ.ยะหา จ.ยะลา จาก 33 อำเภอ เหลือ17 อำเภอ พร้อมสั่งทบทวนยุทธศาสตร์แก้ปัญหาพื้นที่ หลัง 20 ปี ไฟใต้ ไม่ดับ
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 ม.ค.68 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งที่ 1/2568 ว่า ได้มีการประชุมโดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม โดยได้เห็นชอบให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ อ.ยะหา จ.ยะลา ออกจากพื้นที่ที่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ทำให้เดิมมีการประกาศในพื้นที่ 33 อำเภอ ซึ่งขณะนี้เหลือ17 อำเภอ
เหตุการณ์เกิดขึ้นมากกว่า 20 ปีแล้ว แต่ไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น อย่างที่ควรจะเป็น หากไม่มีการทบทวนหรือประเมินก็จะเป็นอยู่แบบเดิม ซึ่งได้สั่งให้ไปดูยุทธศาสตร์การทำงานในพื้นที่ว่าควรจะเป็นอย่างไร รวมถึงการตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขชายแดนภาคใต้ เพราะผมได้ย้ำว่ายุทธศาสตร์ต้องชัด จึงจะกำหนดยุทธวิธีในการขจัดปัญหา และกลุ่มบุคคลที่จะเข้ามาดำเนินการ ซึ่งภายในเดือนม.ค. นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) รับปากจะไปดำเนินการหาข้อสรุป และได้บอกว่าไม่ต้องเกรงใจกัน อีกทั้งอยากให้ทางสมช. ได้ฟังหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ หากตรงไหนมีความลำบากใจที่จะพูดคุย ก็ให้ส่งข้อมูลมาให้ผม หรือทางเลขาฯสมช.ก็ได้ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหา และทำให้มันดีขึ้น นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามต่อว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาของประธานอาเซียนนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายภูมิธรรม กล่าวว่า น่าจะเป็นผลดีต่อการแก้ไขปัญหาพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เพราะมีเรื่องมาเลเซียเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และทางนายกรัฐมนตรีมาเลเซียก็ปรารถนา อยากทำให้พื้นที่ ชายแดนของทั้ง 2 ประเทศสงบ และเป็นพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจ ความมุ่งหวังที่ตรงกัน และมีนายทักษิณเป็นที่ปรึกษา น่าจะทำให้ไทยได้ผลประโยชน์ และเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น
เมื่อถามว่า ทางการมาเลเซียจะเข้ามาสนับสนุนเรื่องการพูดคุยแก้ปัญหาในพื้นที่อย่างไรบ้างนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีท่าทีที่ดี แต่รายละเอียดไม่ขอพูดถึง ให้เป็นเรื่องของฝ่ายปฏิบัติ หากพูดอะไรมากไปจะเกิดความยากลำบากในการทำงาน
เมื่อถามว่า การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ จะทำให้เกิดความลำบากหรือไม่ เพราะคนในพื้นที่รู้สึกไม่ดีกับพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ความลำบากคืองานของเรา หากกลัวความลำบากก็ไม่ต้องมาเป็นรัฐบาล หากเราตั้งใจและทำให้เกิดความชัดเจน ทำในสิ่งที่คนส่วนใหญ่อยากได้ทุกคนก็จะต้อนรับ เปรียบเสมือนการแย่งชิงมวลชน หากเรามองมวลชนคือเป้าหมาย ที่จะไปให้ประโยชน์ แต่หากมีฝ่ายคัดค้านต่อต้าน หรือทำร้าย เราก็ต้องระมัดระวังป้องกันคนของเรา แต่เป็นภารกิจที่ต้องทำให้สำเร็จ ก็ไม่กังวลใจอะไร
หากตั้งยุทธศาสตร์ได้ และตกลงกันว่ายังคงเหมือนเดิม การจัดตั้งคณะพูดคุย ก็เดินหน้า ซึ่งตนก็ย้ำว่าให้เสร็จ ผมไม่อยากให้เราเดินไปตามเกม หรือวิธีการของฝ่ายตรงข้าม ผมต้องการให้การเจรจาถูกคน ซึ่งหากถูกคนสถานการณ์ก็ต้องคลี่คลาย หากไม่ถูกตัว ก็ต้องกลับมาทบทวน เพราะเราก็มีความตั้งใจที่จะทำให้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินไปข้างหน้าในทิศทางที่ดี นายภูมิธรรม กล่าว