วันที่ 6 ม.ค.68 เวลา 12.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์วิทยุ 191 ของตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ได้รับแจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้ฟางอัดก้อนที่เก็บเอาไว้ภายในโรงเก็บฟางโดยเหตุเกิดที่บ้านสว่าง ตำบลย่อ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร จึงได้แจ้งให้ร้อยเวรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคำเขื่อนแก้ว ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับประสานขอสนับสนุนรถน้ำดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุช่วยเข้าฉีดน้ำดับไฟ โดยในที่เกิดเหตุเป็นโรงเก็บฟางอัดก้อนซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างต่อเติมโครงหลังคาตั้งอยู่บริเวณด้านหลังหนึ่ง หมู่ 4 บ้านสว่าง ตำบลย่อ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร พบเปลวเพลิงกำลังลุกไหม้กองฟางอัดก้อนอย่างรุนแรงและมีกลุ่มควันจำนวนมากฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณโดยมีชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงขององค์การบริหารส่วนตำบลย่อ กำลังช่วยกันฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้ฟางพร้อมกับได้ช่วยกันขนย้ายฟางอัดก้อนอีกบางส่วนที่ยังไม่ถูกไฟไหม้ออกจากจุดเกิดเหตุไปไว้ในที่ปลอดภัยจึงทำให้ฟางอัดก้อนอีกจำนวนกว่า 300 ก้อน ถูกไฟไหม้จนได้รับความเสียหายทั้งหมดแต่ยังโชคดีที่เปลวเพลิงไม่ลุกลามไปติดตัวบ้านพักซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 5 เมตร เท่านั้น โดยต้องขอสนับสนุนรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.ย่อ และอบต.โพนทัน อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร จำนวน 2 คัน เข้าช่วยกันฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้ฟางอัดก้อนโดยต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถดับไฟเอาไว้ได้

จากการสอบถาม นายเลิศ อายุ 70 ปี เจ้าของฟางอัดก้อน บอกว่า ฟางอัดก้อนทั้งหมดเป็นของลูกเขยตนเองที่รับซื้อมาเพื่อกักตุนเอาไว้ให้กระบือกินโดยให้ตนเป็นคนดูแลให้และได้นำมากองรวมกันไว้ที่โรงเก็บฟางบริเวณด้านหลังบ้านพักของลูกเขยและก่อนเกิดเหตุตนได้ว่าจ้างช่างให้มาช่วยต่อเติมโครงหลังคาให้ใหม่โดยมีการเชื่อมเหล็กโครงหลังคาและก่อนที่จะมีการเชื่อมเหล็กตนก็ได้นำสังกะสีไปปิดทับฟางอัดก้อนเอาไว้แล้วบางส่วนแต่ในระหว่างที่ช่างกำลังเชื่อมเหล็กอยู่นั้นได้มีประกายไฟกระเด็นตกลงไปถูกฟางอัดก้อนที่อยู่ด้านล่างจนทำให้เกิดเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งตนกับช่างก็พยายามดับไฟแล้วแต่ก็ไม่สามารถที่จะดับได้จนทำให้เปลวไฟลุกลามไหม้ฟางอัดก้อนอย่างรุนแรงจนเข้าใกล้ไม่ได้ต้องขอสนับสนุนรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.ย่อ เข้าไปช่วยดับไฟดังกล่าว