สนามบินแตก! “คนเสื้อแดง” แห่รับ “ทักษิณ” ช่วย “สลักจฤฎดิ์” โกยคะแนนสู้ศึกนายก อบจ.เชียงราย พร้อมขึ้นเวทีปราศรัยจัดหนักพวกด่าเช้าด่าเย็น สงสัยอยากได้เชือก ลั่น ปี 68 ยาเสพติด-แก๊งคอลเซ็นเตอร์-ต้องเอาให้เกลี้ยง การผูกขาดทุกรูปแบบต้องเอาให้หมด สั่งทุบค่าไฟลงคาดได้ 3.70บาท สบถ “ไอ้ควาย” พวกถามรวยจากไหน ส่วน “วันชัย”ขีดเส้นรัฐบาล 3 เดือน 6 เดือนยังไร้ผลงาน ทำในสภาระอุ-นอกสภาระเบิดแน่
เมื่อเวลา 09.30 น. เมื่อวันที่ 5 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เบอร์ 2 ได้เดินทางถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยได้ใช้บริการสายการบินพาณิชย์ ก่อนที่จะเดินทางขึ้นเวทีปราศรัยด้วยรถตู้เล็กซัส สีดำ ทะเบียน ขย 111 กรุงเทพมหานคร จุดแรกช่วงเที่ยงจะไปที่โรงเรียนปล้องวิทยาคม อำเภอเทิง และโรงเรียนห้วยซ้อวิทยาคม อ.เชียงของ ในช่วงบ่าย จากนั้นในช่วงเย็น นายทักษิณจะขึ้นปราศรัยที่โรงเรียนแม่จันวิทยาคม
โดยทันทีที่มาถึง นายทักษิณ ได้เดินมาพบกับกลุ่มคนเสื้อแดงจังหวัดเชียงรายที่มารอให้การต้อนรับ โดย คนเสื้อแดงได้มอบพวงมาลัย ขอกอด และขอถ่ายรูปร่วมกับนายทักษิณ แน่นสนามบินแม่ฟ้าหลวง ช่วงหนึ่งได้มีพระสงฆ์มอบซองขาวให้กับนายทักษิณซึ่ง นายทักษิณได้ยกมือจบ
ส่วนที่โรงเรียนปล้องวิทยา นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ขึ้นเวลาปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของนางสลักจฤฎดิ์ ระบุว่า นายทักษิณ เป็นเจ้าของสถิติที่ไปจังหวัดไหนก็ชนะทุกที่ ไม่ว่าจะ จ.ปทุมธานี , อุดรธานี , อุบลราชธานี ก็ชนะมาหมด และมาที่เชียงราย เวทีไหนก็เวทีนั้นไม่เคยแพ้ และเวทีนี้นายทักษิณมาเอง และนายกฯที่มีผลงานและประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศไทย และเป็นคนเหนือ เป็นคนที่พูดภาษาเดียวกันกับพี่น้อง หลายคนถามตนขึ้นปีใหม่นายกฯจะไปรอดหรือไม่ ตนเลยตอบกลับไปว่า รัฐบาลอยู่ครบเทอมอีก 2 ปี จนถึงเลือกตั้ง แล้วก็กลับมาใหม่หลายคนบอกว่านายกฯต้องมีพ่อคอยสอนมีพ่อคอยแนะ ก็เขาเป็นพ่อลูกกัน แล้วพ่อก็เคยเป็นนายกฯมาก่อน ทำงานมีประสบการณ์มีผลงานมาก่อน จะแนะนำให้คำปรึกษาลูกมันแปลกตรงไหน หรือพวกคุณต้องการนายกที่พ่อแม่ไม่สั่งสอน ขนาดนายกฯมาเลเซียยังเชิญนายทักษิณไปเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน
“นับภาษาอะไรกับนายกฯแพทองธาร ที่เป็นลูกสาวจะขอคำชี้นำไม่ได้ ตนมองว่าเป็นกำไร เพราะนายกฯแพทองธารกำลังสดใหม่ บวกกับนายทักษิณ ก็เป็นนายกฯระดับโลก และการลงไปเจรจากับนานกฯมาเลเซียในเรือกลางทะเลซึ่งถือว่าเป็นการลงเรือลำเดียวกัน อาเซียนไปไหนไปด้วยกันและ ทุกนโยบายที่รัฐบาลประกาศกำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้ และพรรคเพื่อไทย ทำให้คนรวยทุกคนไม่ได้ แต่สร้างโอกาสให้ทุกคนได้ปลดหนี้ และต้นปีรัฐบาลจะประกาศการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับประชาชน”
ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของ นางสลักจฤฎดิ์ ที่โรงเรียนปล้องวิทยา ว่า วันนี้ตนใส่แว่นเพื่อปกปิดความแก่ จะได้ไม่รู้ว่าแก่ ตนอายุ 75 จะ 76 ปีแล้ว แต่ใจก็ยังนึกเป็นห่วงพี่น้อง วันนี้ได้มาเชียงรายอีกครั้ง ก็มาดูความเรียบร้อย วันนี้มาด้วย 3 เหตุผลเหตุผลที่ 1. คือ คิดถึงชาวเชียงราย ไม่ได้เจอกันมา 20 กว่าปี ที่มาที่นี่เพราะอยากจะมาหาชาวเชียงรายที่ไม่ได้เจอกันนาน เหตุผลที่ 2. คือ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นน้องรักของตน เป็นน้องที่สร้างพรรคมาด้วยกัน และตอนตนที่เป็นนายกฯ เขาก็เป็นเลขาธิการนายกฯ มาตลอด วันนี้ นายยงยุทธ ตัดสินใจ ว่าจะส่ง นางสลักจฤฎดิ์ ลงนายก อบจ. ที่มาก็คือมาสนับสนุน นางสลักจฤฎดิ์ ให้ชนะเลือกตั้ง และเหตุผลที่ 3. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นลูกสาวตน ตนก็มีหน้าที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นพรรคที่ตนสร้างมา วันนี้เลยตัดสินใจต้องมาเชียร์ นางสลักจฤฎดิ์ เต็มที่ และหวังว่าประชาชนชาวเชียงรายจะเลือกเบอร์ 2
นายทักษิณ กล่าวว่า ตนก็ไม่ได้สนใจกับการเมืองท้องถิ่น เพราะก่อนหน้านั้นเป็นรัฐบาลมาจากพรรคใหญ่ เรามีกลไกในทุกกระทรวง แต่วันนี้เราไม่ได้มี ส.ส. 200 เหมือนเมื่อก่อน ในการเลือกตั้งสมัยหน้าก็ขอให้คืน ส.ส. ให้กับพรรคเพื่อไทยให้หมด ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงมองว่า การเมืองท้องถิ่นเป็นกลไกสำคัญ และตอนที่ตนกลับมา มานั่งดูปัญหาทุกเรื่องสิ่งที่เคยแก้ไว้ในสมัยก่อน มันหาย หายไปหมด 17-18 ปีที่ตนไม่ได้อยู่ในประเทศไทยระบบเสียหายไปหลายอย่าง วันนี้เลยต้องมานั่งดูว่าจะทำอย่างไรบ้างที่จะทำให้ต่างจังหวัดฟื้นก่อนหากเศรษฐกิจในต่างจังหวัดฟื้นมีกินมีใช้ อย่างอีกหน่อยเศรษฐกิจประเทศก็จะดี
“หมู่คนแอฟริกา ดำก็ดำ จมูกก็แหมบ หายใจก็ยาก โดนเขาจ้างไปเป็นนางแบบ เดินแบบครั้งหนึ่งเป็นล้านบาท เด็กบ้านเรายังหน้าตาดีกว่า ไม่ต้องไปทำจมูก เสริมกราม ต่อไปนี้เราจะคัดคนบ้านเราที่เป็นชนชาติไทย คนดอย คนกระเหรี่ยง ที่สวยธรรมชาติ ไม่ต้องไปเสียเงินทำจมูก เสริมนม ใครบุคลิกดีก็ส่งไปเป็นนางแบบระดับโลก”
นายทักษิณ ได้ถามพี่น้องที่มาฟังปราศรัยว่าใครเล่นติ๊กต๊อกบ้าง 2-3 วันนี้ตนว่างวันหยุดก็เลยนั่งดูตามโซเชียล "ไอ้พวกนี้นะ ชีวิตมันอีกนิดเดียวก็จะผูกคอตาย เพราะมันมองโลกแย่ไปหมด ตื่นมาก็เห็นว่าโลกไม่ดีแล้ว อีกไม่กี่วันจะส่งเชือกให้ ตื่นเช้ามาก็ด่ารัฐบาล บ่ายมาก็ด่ารัฐบาล ด่าอยู่นั้น มีอยู่ 4-5 ตัวที่ด่า พวกนี้สงสัยคงอยากได้เชือก แต่มีอยู่ไม่กี่คนตื่นเช้ามาก็ด่ารัฐบาล เหลือแต่ด่าพ่อด่าแม่ตัวมัน รู้สึกสมเพชคนพวกนี้ อยากจะเอามาฝึกอาชีพ แต่ดูท่าแล้วจะเป็นคนไม่ขึ้นซ้าง ทำนองว่ามีหลักไว้ให้แต่ไม่เลื้อยขึ้น เลื้อยลงตลอด เราเอาคนไทยทั้งหมดอยากขึ้นซ้าง งั้นเรามาทำซ้างให้คนไทยขึ้น“
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลประกาศไว้เทคโนโลยีจะเสร็จเดือนมี.ค พอเสร็จแล้วเราก็จะโอนเงินให้คนที่มีอายุ 60 ลงมา ส่วนวันที่ 29 ม.ค. นี้ จะเป็นเงินให้สำหรับคนที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป และจะให้คนหนุ่มสาว เรียนรู้การใช้เทคโนโลยี เพราะอีกหน่อยการติดต่อกับรัฐบาลจะผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ตหมด เงินไม่ใช่ทุกอย่างแต่เป็นเกือบทุกอย่าง ถ้าไม่มีเงินไม่รู้จะทำอย่างไร ใช้เงินสร้างเศรษฐกิจ สร้างความสุขในครอบครัว ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีก็ลำบาก ตนได้ไปพบกับคนคนหนึ่ง เขามาหาตน บอกมีวันนี้ได้ เพราะสมัยที่ตนเป็นนายกฯ กลับมาวันนี้ตนเห็นประเทศทรุดไปมาก ถามว่าจะทำได้หรือไม่ ทำได้แต่อาจจะยากหน่อย
นายทักษิณ กล่าวว่าตนไปถามว่าคนในครอบครัวว่าใครจะอาสาเป็นนายกฯ นายกฯอิ๊งค์ลูกคนเล็ก ก็อาสาเพื่อจะเสียสละทำงานให้บ้านเมือง ที่ผ่านมามีคนไปกระท่อนกระแท่นว่าน.ส.แพทองธาร มีเครื่องแต่งตัวเยอะ เพราะนายกฯอิ๊งค์เป็นลูกคนสุดท้อง ตนเป็นคนหลงลูกสาว ตนจึงซื้อของแต่งตัวให้เยอะ มีอะไรก็ซื้อให้หมด ก็เลยมีของเยอะเพราะพ่อซื้อให้ ซื้อให้เอาใจแล้วปีนี้เลยต้องใช้งาน และมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของนายกฯแพทองธาร จะแก้ปัญหาประเทศรอบนี้ได้ ปีนี้ ปี 68 ประชาชนจะเห็นว่าเริ่มฝันได้ และปลายปีก็จะต้องฝันแล้วว่าปีหน้าเราจะทำอะไร ปี68 ต้องเป็นปีที่ทุกคนขยันทำงาน ทั้งรัฐบาลและองค์กรท้องถิ่น รวมถึงจะจัดการให้เรียบทั้งปัญหายาเสพติดและ Call Center
ช่วงหนึ่งมีมวลชนตะโกนขึ้นมาบอกว่าให้ นายทักษิณกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี นายทักษิณจึงตอบกลับว่า แก่แล้ว ขอสนับสนุนให้ลูกเป็น แล้วคอยส่งเสริมดีกว่า ได้ค่าช่วยหาเสียงวันละ 300 บาท วันนี้มา 3 เวทีได้เวทีละ 100 บาท มาลำบากก็ตอนแก่ เมื่อตอนไม่เล่นการเมืองก็สบาย มีเงินอยู่ 60,000 ล้านบาท พออยู่ไปอยู่มา ก็จนลงเพราะโดนยึดบ้าง โดนหาเรื่องบ้างสารพัดอย่าง " ไอ้พวกควายพวกนี้ หาว่าผมไปเอาตังค์ที่ไหนมา ก็กูรวยตั้งแต่ปี 35-36 แล้ว ตอนนั้นผมรวยที่สุดในประเทศ แต่ตอนนี้จนพอๆกับชาวเชียงราย"
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้ความคิดของคนไม่เหมือนกันตนมีความคิดแบบคนสมัยใหม่ คนรุ่นเก่าบางคนออกมาด่าตนสารพัด มีอยู่คนหนึ่งหาว่าตนสร้างความวุ่นวาย ตั้งแต่แพ้การเลือกตั้ง ตนเมื่อปี 44 ก็แค้นจนถึงทุกวันนี้ คนที่มาด่าตน เขตเลือกตั้งมี 450 คน เลือกเขาแค่ 47 คนแก่แล้วยังลงเลือกตั้งอยู่ แต่ตนพอแล้ว ไม่อยากอะไรแล้วช่วยประชาชนดีกว่าทำงานให้บ้านเมือง ไม่มีเงินก็ไม่เป็นไร ตอนตนเป็นชาวเกาะ แก่แล้วกลับมาเป็นชาวเกาะ เกาะเมียกิน ต้องยอมรับว่าตอนนี้บ้านเราหนี้ประชาชนสูง หนี้ประเทศสูง ขอเวลาอีก 2 ปี หนี้ประเทศจะลดลง
นายทักษิณ กล่าวว่า บ้านเรามีเสือนอนกิน มีทุกที่วงการ กำลังนั่งไล่ให้รัฐมนตรีไปพูดกับข้าราชการ ก็มีคำแก้ตัวสารพัด นายกฯก็ไปพูดกับรัฐมนตรีว่าต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้จะเปลี่ยนคนมาแทน รัฐมนตรีจึงจะกระเตื้อง อย่างเช่นเรื่องข้าว เรื่องไฟฟ้า ปีนี้ค่าไฟฟ้าจะต้องลงไปอยู่ที่เลข 3 ไม่ใช่เลข 4 ใจตนอยากให้เหลือ 3.50 บาท แต่คงได้แค่ 3.70 บาท กำลังให้เค้าช่วยทุบอยู่ ปีนี้ค่าไฟลงแน่เห็นตัวเลขแล้วทุบได้ ต่อไปค่าอาหารสัตว์ ค่าปุ๋ย ค่ายาก็จะให้ลง เรื่องนี้จะต้องทำให้เป็นจริงภายในปีนี้ให้หมดทุกอย่างถึงบอกว่าปีนี้รัฐบาลต้องทำงานหนัก 1. ยาเสพติด ต้องเอาให้เกลี้ยง 2. Call Center ต้องเอาให้เกลี้ยง 3. การผูกขาดทุกรูปแบบต้องเอาให้หมด เพื่อให้พี่น้องมีค่าใช้จ่ายในชีวิตต่ำลง ทำรายได้ให้ดีขึ้น มีโอกาสดีขึ้น ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในปี 68
จากนั้นได้มีชาวบ้านตะโกนขึ้นมาบอกนายทักษิณให้ช่วยเหลือเรื่องที่ดินทำกิน นายทักษิณ จึงตอบกลับไปว่า ส่วนเรื่องโฉนดที่ดินทำกินทั้งหลาย กำลังคุยกันอยู่อย่างที่ดินสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) จะให้เป็นแค่โฉนดส.ป.ก.ไม่ได้ แต่ต้องเปลี่ยนเป็นโฉนดจริง ที่สามารถทำมาหากินได้ ส่วนที่ถูกนายทุนยึดไป ถ้ายึดไปได้ก็ยึดคืนมา แต่ถ้าเขาเอาไปสร้างสิ่งปลูกสร้างแล้ว ก็ต้องให้เขาเสียค่าเช่า เพราะเจตนารมณ์ของสปก เพื่อที่จะช่วยชาวบ้านที่ไม่มีที่ทำกินและไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่แน่นอน
ทั้งนี้เชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาประเทศได้ไม่เกินมือ แต่ยาก เมื่อก่อนต่างจังหวัดบ้านเรายังโอเคมันพังแค่ที่กรุงเทพฯแต่ตอนนี้มันพังทั้งประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมวลชนที่เดินทางมาร่วม ฟังนายทักษิณปราศรัยในเวทีนี้ มีกว่า 10,000 คน โดยเดินทางมาจาก 4 อำเภอ คือ อำเภอเทิง อำเภอพญาเม็งราย อำเภอขุนตาล และอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย
ขณะที่ นายวันชัย สอนศิริ อดีตสว. โพสต์ข้อความเรื่อง “ปีนี้..ชี้ชะตาเพื่อไทย” ว่า ปีใหม่นี้เห็นมีอยู่ 2 เรื่อง ที่รัฐบาลและฝ่ายค้านกำลังทำ คือ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ และเรื่องแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน
เฉพาะเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ดูแล้วทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลยังเห็นไม่ตรงกัน ฝ่ายค้านต้องการแก้ทั้งหมดทั้งฉบับ เห็นว่าเป็นซากเดนของเผด็จการไม่ควรที่จะให้มีอยู่อีกต่อไป เอาของใหม่ที่มาจากประชาชนจะดีกว่า แต่ฝ่ายรัฐบาลเห็นว่าไม่ควรไปรื้อหมดทั้งฉบับ อาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง และในที่สุดก็ไม่อาจจะแก้ได้ ควรเดินสายกลางอะไรทำได้ก็ทำ อะไรที่ทำแล้วจะก่อให้เกิดความขัดแย้งก็อย่าไปทำ
“ดูแล้วทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลอาจจะมีแนวทางไปคนละทิศคนละมุม ไม่แน่ใจว่าหมดวาระของสภาชุดนี้แล้วจะได้เริ่มแก้กันหรือยัง”นายวันชัย ระบุ
นายวันชัย ระบุอีกว่า เรื่องแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านน่าจะเห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องเร่งเครื่องอย่างเต็มที่เต็มกำลัง เป็นรัฐบาลมาเกือบ 2 ปี มีแต่นโยบายแผนงานและราคาคุย เนื้องานที่ออกมาแล้วทำให้ลืมตาอ้าปากได้จริงๆ ยังไม่เห็น ทั้งฝ่ายค้านและประชาชนก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยอยู่
“ดังนั้น ภายใน 3 เดือน 6 เดือนนี้ ถ้ายังไม่มีอะไร ในสภาก็คงระอุ นอกสภาก็คงจะระเบิด พรรคเพื่อไทยจะชนะพรรคประชาชนได้หรือไม่ ก็วัดกันที่ผลงานในเรื่องนี้นี่แหละ เพราะประชาชนเขาให้โอกาสรัฐบาลมานานแล้ว ต่อแต่นี้เป็นการชี้ชะตาและเป็นความเป็นความตายของรัฐบาลและฝ่ายค้านว่าใครจะอยู่ยงคงกระพันกว่ากัน” นายวันชัย ระบุ
นายวันชัย ระบุว่า เรื่องแก้รัฐธรรมนูญจะสาละวันรำวงไปอย่างไรก็ได้ แต่เรื่องปากเรื่อ