"องคมนตรี" เชิญสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่ผู้ปฏิบัติงานและราษฎร พร้อมติดตามการดำเนินงานโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงฯ ในพื้นที่จังหวัดน่าน เป็นวันที่สอง

เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2568 เวลาประมาณ 10.30 น. นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมด้วย นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปยังโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ภูพยัคฆ์ ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน เพื่อเชิญสิ่งของพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปมอบแก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เป็นวันที่สอง ประกอบด้วย เสื้อกันหนาวเด็ก มอบให้แก่เด็กในโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงฯ ภูพยัคฆ์ จำนวน 39 ตัว และโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงฯ บ้านสะจุก - สะเกี้ยง จำนวน 107 ตัว ถุงพระราชทาน มอบให้แก่ราษฎรและผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงฯ ภูพยัคฆ์ จำนวน 274 ถุง และโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงฯ บ้านสะจุก - สะเกี้ยง จำนวน 316 ถุง

โอกาสนี้ องคมนตรี มอบถุงพระราชทานให้แก่ผู้ปฏิบัติงานหน่วยความมั่นคง จำนวน 3 หน่วยงาน ได้แก่ ฐานปฏิบัติการตำรวจตระเวนชายแดนบ้านสบมาง ตำบลภูฟ้า อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน ฐานปฏิบัติการตำรวจตระเวนชายแดนบ้านนาขวาง ตำบลบ่อเกลือใต้ อำเภอบ่อเกลือ จังหวัดน่าน และฐานปฏิบัติการตำรวจตระเวนชายแดนบ้านสะเกี้ยง ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน พร้อมกับรับฟังบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานด้านความมั่นคง โดยผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 325 จากนั้น ร่วมกิจกรรมสาธิตการทำปุ๋ยหมักชีวภาพ พบปะกลุ่มราษฎรผู้ปลูกหม่อนรับซื้อและขายหม่อนผลสด ชุมชนบ้านน้ำรีพัฒนา และร่วมกิจกรรมกระบวนการรับซื้อหม่อนผลสด ต่อจากนั้น เยี่ยมชมกลุ่มเยาวชนผู้ปลูกกาแฟและแปรรูปกาแฟชุมชนบ้านน้ำรีพัฒนา รวมถึงร่วมกิจกรรมคัดเมล็ดกาแฟ

การนี้ รับฟังบรรยายสรุปผลการดำเนินงานโครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงฯ ภูพยัคฆ์ ในการสนองพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ซึ่งมีพระราชประสงค์ให้ราษฎรชาวไทยภูเขาได้มีอาชีพการเกษตรตามหลักวิชาการแผนใหม่ ทดแทนการทำไร่เลื่อนลอย ดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้คนอยู่กับป่าอย่างยั่งยืน และเห็นความสำคัญของทรัพยากรป่าไม้มีจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูพัฒนาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ให้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่มีคุณภาพและมีป่าไม้ที่สมบูรณ์ตลอดไป ทั้งนี้โครงการได้ส่งเสริมให้ราษฎรทำการเกษตรแบบวนเกษตรปลูกพืชผักเมืองหนาว และปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่นปลูกกาแฟ อโวคาโด โกโก้ และพลับ โดยจัดหาพันธุ์กล้าให้แก่ราษฎรมีผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการ 252 ครัวเรือน จำนวน 1,007 คน มีพื้นที่ได้รับประโยชน์พื้นที่ป่า จำนวน 10,000 ไร่ พื้นที่การเกษตร จำนวน 2,500 ไร่ จากการดำเนินงานตามแนวพระราชดำริส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติมีความอุดมสมบูรณ์ทั้งดิน น้ำ ป่าไม้และเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าได้มากขึ้น รวมทั้งราษฎรมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

 

กองประชาสัมพันธ์สำนักงาน กปร.