วันที่ 5 ม.ค.68 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปปราศรัยหาเสียงที่ จ.เชียงราย หลายเวที เพื่อช่วยนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ในนามพรรคเพื่อไทย โดยช่วงสายไปปราศรัยที่เวทีตรงโรงเรียนปล้องวิทยาคม ต.ปล้อง อ.เทิง และช่วงบ่ายที่สนามโรงเรียนบ้านห้วยซ้อวิทยาคม อ.เชียงของ และเวทีสุดท้ายช่วงเย็นที่สนามโรงเรียนแม่จันวิทยาคม อ.แม่จัน มีประชาชนไปฟังปราศรัยเวทีละประมาณ 10,000 คน

 

โดยการปราศรัยได้มีผู้สนับสนุนหลายคนปราศรัย เช่น นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎ (ส.ส.) พรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิก อบจ.เชียงราย ฯลฯ โดยมีเนื้อหาทำนองว่า นายทักษิณเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งสืบทอดมาถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐนตรีคนปัจจุบัน ถ้าเลือกตั้งท้องถิ่นจะเชื่อมกับรัฐบาลได้ 

ขณะที่นายทักษิณได้ปราศรัยบนเวทีโดยพูดเป็นภาษาภาคเหนือนานประมาณ 40 นาที มีเนื้อหาว่าตนคิดถึงพี่่น้องชาวเชียงรายเพราะห่างหายไปกว่า 17 ปี และมีนายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่เป็นน้องรักของตนอยู่แล้วโดยเคยร่วมกันสร้างพรรคและเมื่อครั้นตนเป็นนายกรัฐมนตรีก็ให้เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอยู่ด้วยจนต่อมาได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นเมื่อได้ส่งนางสลักจฤฎดิ์ ลงสมัครตนจึงต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่ อีกประการคือลูกสาวตนเป็นนายกรัฐมนตรีขณะที่ผู้สมัครก็ลงเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทยด้วย

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า เดิมตนไม่ค่อยเท่าไหร่กับการเมืองท้องถิ่น เพราะเดิมเคยเป็นรัฐบาลจากพรรคการเมืองใหญ่ แต่เมื่อได้กลับมาก็มุ่งจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างอาชีพและรายได้ให้ประชาชนจึงอยากให้ประชาชนเลือกนางสลักจฤฎดิ์ให้เข้าไปทำงานประสานกับนายกรัฐมนตรี โดยในส่วนของรัฐบาลจะมีการจ่ายเงินให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปทั่วประเทศประมาณ 3 ล้านคนๆละ 10,000 บาทในวันที่ 29 ม.ค.นี้ ใช้งบประมาณ 30,000 ล้านบาทเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จากนั้นยังอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างการผ่อนบ้านและรถอยู่ด้วย

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนไม่อยู่บ้านนานถึง 17-18 ปี เมื่อกลับมาพบว่าระบบที่เคยทำไว้เสียหายหมด จึงกลับมาคิดว่าจะทำอย่างไรและเห็นว่าการฟื้นเศรษฐกิจต่างจังหวัดสำคัญ ถ้าชาวบ้านมีกินมีใช้เศรษฐกิจประเทศก็จะเดินหน้า เพราะทุกวันนี้ประชาชนไม่มีเงินใช้ขาดสภาพคล่อง ร้านค้าปลีกต่างจังหวัดก็แย่เพราะมีแต่ห้างสรรพสินค้าหรือร้านใหญ่ที่มาจากกรุงเทพฯ เงินก็ไหลเข้าสู่ส่วนกลางหมด สินค้าเกษตรขายไม่ได้ ฯลฯ ดังนั้นตนตั้งใจในการแก้ไขปัญหาโดยพัฒนาในสิ่งที่ชาวบ้านเก่งอยู่แล้ว เช่น งานหัตถกรรม ดนตรี เกษตรกรรม ฯลฯ รัฐบาลจะนำมหาวิทยาลัยเชื่อมกับ อบจ.ในการสร้างงานสร้างรายได้ จะมีการเจียระไนหานไทยที่เก่งๆ ทั่วประเทศ ทั้งที่มีบุคลักเป็นนางแบบ ทำอาหารเก่ง เป็นนักศิลปะ มีฝีมือหัตถกรรม ฯลฯ สิ่งนี้เกิดขึ้นในปีนี้ ปี 2568 นี้ กลไกสำคัญอยู่ที่ อบจ.จึงขอให้เลือกนางสลักจฤฎดิ์ เพื่อให้ค้นหาเพชรเม็ดงามในเชียงรายต่อไป

นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า ยามว่างได้เข้าไปดูสื่อสาธารณะ หรือ โซเซียลมีเดียได้เห็นบางคนชีวิตน่าจะเหลือน้อยลงไปทุกที เดี๋ยวก็จะแขวนคอตายแล้วเพราะชีวิตมองโลกแย่หมด อีกไม่กี่วันตนจะเอาเชือกไปให้มัน เพราะเช้าและสายก็ด่ารัฐบาลหมด มีอยู่แค่ 4-5 ตัว พวกนี้สงสัยอยากได้เชือก 

อย่างไรก็ตามเราจะทำในสิ่งสร้างสรรค์มากกว่าโดยใช้โซเซียลอย่างติ๊กต๊อกมาขายของให้ชาวบ้าน โซเซียลจึงควรใช้ในทางสร้างสรรค์ แต่มีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่เข้ามาแล้วก็ด่าอย่างเดียว ทำไมไม่ด่าพ่อแม่มันบ้าง ตนจึงรู้สึกสมเพชเพราะลักษณะพวกนี้เหมือน "แตงไม่ขึ้นซ้าง"

นายทักษิณ ยังได้กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า เมื่อครั้นตนยังไม่เล่นการเมืองตนก็สบายดีอยู่ กระทั่งปี 2536 ตนก็มีเงินถึง 6 หมื่นล้านแล้ว พอเล่นการเมืองจึงหมดไปเรื่อยๆ พวกควายยังมาด่าตนอีก พ่อมึงไม่รู้หรือไง ตนรวยมาตั้งแต่ปี 2535-36 แล้ว ตนคิดแบบคนสมัยใหม่แต่ตนรุ่นเก่ากลับด่าตนสารพัด มีอยู่คนบอกว่าตนสร้างความวุ่นวายเพราะแค้นตนมาตั้งแต่ปี 44 ที่บ้านของเขาหน่วยเลือกตั้งมี 450 คน เลือกเขาเพียงแค่ 47 คน ประชาชนยังไม่เลือกเลย 

นายทักษิณ กล่าวด้วยว่า ตนได้ตั้งตำแหน่งให้ตัวเองคือ “ สท.” หมายถึง “เสือกทุกเรื่อง” เมื่อไปพบปัญหาที่ไหนก็จะส่งให้รัฐบาล พอดีมีนายกรัฐมนตรีที่เคยตามตนมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ขณะหาเสียงตอนตั้งพรรคไทยรักไทยก็ยังยืนดูตนอยู่ ตอนไปประชุมเอเปคที่ประเทศชิลีก็ไปด้วย จึงซึมซับการเมืองและรักพี่น้องประชาชน จึงเข้ามาทำงานทั้งๆ ที่เขาก็สบายอยู่แล้ว ตนจึงมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยโดยการนำของ “นายกฯ อุ้งอิ้ง” จะแก้ไขปัญหาประเทศได้ โดยตั้งเป้าว่าปี 2568 หุกฝ่ายจะทำงานให้หนักและเศรษฐกิจดีขึ้น และปี 2569 เปรียบเหมือนเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ต่อไป จากนั้นขอเวลาอีก 2 ปีหนี้ประเทศจะลดลง 

นายทักษิณ กล่าวยังได้กล้าวถึงเรื่องยาเสพติด ว่าเกิดจากในประเทศเมียนมามีการสู้รบกัน บางกลุ่มจึงขายยาสพติดเพื่อนำเงินไปซื้ออาวุธและมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่แล้ว ดังนั้นในปี 2568 นี้จะจัดการให้เรียบ ส่วนเรื่องการพนันออนไลน์นั้นมีคนเข้าไปเล่นมากมาย บางครั้งหลายล้านคนซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าคนเหล่านี้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีหรือไม่ ดังนั้นจึงถึงเวลาจะเอาสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ขึ้นมาบนดิน เพราะถ้าถูกกฎหมายจะเก็บภาษีได้ โกงไม่ได้ อายุต่ำกว่า 20 ปีเล่นไม่ได้ คนที่ติดงอมแงมก็ส่งให้หมอบำบัดได้ นอกจากนี้ปัญหายาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ การผูกขาด ต้องเอาให้เกลี้ยงหมด นอกจากนี้ยังพูดถึงการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนมีโฉนดที่ดินเพื่อให้ประชาชนมีอนาคตที่ดี

นายทักษิณ พูดถึงเรื่องการใช้พลังงานไฟฟ้าว่าในปี 2568 นี้จะต้องเอาตัวเลขการใช้ไฟให้เหลือเลข 3 ดูแล้วน่าจะให้ 3.70 น่าจะได้ ขณะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กผฟ.) เป็นองค์กรผลิตไฟฟ้าเพื่อขายเอากำไรส่วนหนึ่ง และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และเอกชน ก็จะนำมาจ่ายต่อสุดท้ายประชาชนก็ตายกันพอดี จึงต้องแก้ไขปัญหาและยืนยันให้ค่าไฟฟ้าลดลง เมื่อนั้นสินค้าอื่นๆ ก็จะลดลงตาม เพราะธุรกิจย่อมหวังผลกำไรแต่ไม่ใช่ได้กำไรแล้วอยู่อย่างสุขสบาย สุดท้ายขอให้ประชาชนได้เลือกนางสลักจฤฎดิ์เป็นนายก อบจ.เชียงราย และไปบอกคนอื่นๆ ว่าตนขอให้ช่วยเลือกด้วย.