วันที่ 4 มกราคม นายสุรพงษ์  ทิพย์โอสถ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (ผอ.สนง.กกต.จ.) นครราชสีมา เปิดเผยว่า รับรายงานจากนายวุฒิชัย  วงค์ปัญโญ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา ในฐานะผู้อำนวยการคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำ (กกต.อบจ.) นครราชสีมา กรณีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.นครราชสีมา ได้ตัดสิทธินายวิวัฒนชัย  ธนวิบูลย์จิรัฐ ผู้สมัครเบอร์ 1 เขต 1 อ.สีคิ้ว นางสาววรวิกานต์  ฝ้ายตระกูล ผู้สมัคร เบอร์ 1 เขต อ.จักราช และนางสาวเกวลิน  อี้งสวัสดิ์ ผู้สมัคร เบอร์ 2 เขต อ.ชุมพวง

ทั้งนี้เนื่องจากข้อมูลของสำนักทะเบียน ทั้ง 3 คน ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งล่าสุด โดยเป็นการเลือกตั้งซ่อม ซึ่งอาจหลงลืมหรือติดภารกิจแล้วไม่ได้แจ้งเหตุ สรุปมีผู้สมัครนายก 4 คน ประกอบด้วย เบอร์ 1 นายทักษิณ  เขื่อนโคกสูง เบอร์ 2 นางยลดา  หวังศุภกิจโกศล อดีตนายกฯอบจ.สมัยที่ผ่านมา หัวหน้ากลุ่มเพื่อไทยโคราช เบอร์ 3 นายมารุต  ชุ่มขุนทด “กอฟท์  คลาสคาเฟ่” แกนนำฟังเสียงโคราช และเบอร์ 4 ร.ต.อ.นิติรักษ์  ฟักกระโทก ส่วนผู้สมัคร ส.อบจ.นครราชสีมา ทั้ง 48 เขต จาก 32 อำเภอ มีผู้สมัครจำนวนทั้งสิ้น 150 คน มี 3 เขตเลือกตั้ง มีผู้สมัครคนเดียวคือ เขต อ.วังน้ำเขียว เขต อ.จักราช และ เขต อ.ชุมพวง เงื่อนไขต้องมีผลรวมคะแนนมากกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดของเขตเลือกตั้งนั้นๆ และมากกว่าคะแนนโนโหวต  



โดย นายสุรพงษ์ กล่าวถึงกรณีนายสุนทร  แพงไพรี ชาวชุมชนสวนผักศาลาลอย เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา ได้ยื่นหนังสือร้องอดีตนายกฯอบจ.สมัคร นายก ฯ เบอร์ 2 ว่า เป็นการร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติในขณะดำรงตำแหน่งนายก อบจ.นครราชสีมา และเป็นฝ่ายบริหาร ในการประชุมสภาสมัยสามัญที่ 2 ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 ญัตติขออนุมัติโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ไปตั้งจ่ายเป็นรายการใหม่ ซึ่งมี ส.อบจ.ร่วมประชุม 39 คน ยกมือเห็นชอบตามที่ฝ่ายบริหารเสนอญัตติ จำนวน 36 คน และงดออกเสียง 3 คน ซึ่งผู้ร้องขอให้ตรวจสอบการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืนหรือไม่ หากข้อเท็จจริงพบมีมูลต้องมาพิจารณาอีกครั้งว่าเข้าข่ายลักษณะฝ่าฝืนหรือไม่ เพื่อให้ กกต.พิจารณาตามกระบวนการ