เงินบาทอ่อนค่า/หุ้นไทยร่วงหลุดแนว 1,400 จุด สัปดาห์หน้าจับตาเงินเฟ้อไทย-เงินทุนต่างชาติ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาทรอบสัปดาห์ เงินบาทอ่อนค่าลง ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์เรื่องดอกเบี้ยเฟดและผลกระทบจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ทั้งนี้เงินบาทปรับตัวในกรอบแคบๆ ช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนจะพลิกอ่อนค่ากลับมาตามทิศทางการอ่อนค่าของสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคและเงินหยวน ซึ่งเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนถัดไปของสหรัฐฯ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากข้อมูลด้านตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ซึ่งสนับสนุนการคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มการชะลอจังหวะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ [จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 211,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา vs. ตลาดคาดที่ 222,000 ราย] ทั้งนี้ เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องในช่วงท้ายสัปดาห์ไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ที่ 34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติในระหว่างสัปดาห์
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 6-10 ม.ค.2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.90-34.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. ของไทย สัญญาณเงินทุนต่างชาติ ทิศทางเงินหยวนและราคาทองคำในตลาดโลก ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนธ.ค. 2567 ของสหรัฐฯ บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 17-18 ธ.ค. 2567 PMI ภาคบริการเดือนธ.ค. 2567 ของสหรัฐฯ จีน ยูโรโซน และอังกฤษ อัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. 2567 ของยูโรโซน รวมถึงสัญญาณเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศของนายโดนัลด์ ทรัมป์
ขณะที่ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยรอบสัปดาห์ ตลาดหุ้นไทยร่วงหลุดแนว 1,400 จุดในสัปดาห์แรกของปี จากประเด็น Global Minimum Tax ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยย่อตัวลงเล็กน้อยในช่วงต้นสัปดาห์ซึ่งเป็นวันทำการสุดท้ายของปี 2567 ขณะที่ นักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนก่อนวันหยุดปีใหม่เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นตลาด ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงแรงต่อเนื่องหลังตลาดกลับมาเปิดทำการวันแรกของปี 2568 ท่ามกลางแรงขาย โดยเฉพาะในหุ้นบิ๊กแคปรายตัวของบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และบริษัทผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงานจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำทั่วโลก (Global Minimum Tax) ที่ระดับ 15% ซึ่งเริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ม.ค. 2568 อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากแรงซื้อคืนหุ้นที่ร่วงลงแรงก่อนหน้านี้ อนึ่งหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวขึ้นสวนทางภาพรวมตลาดท่ามกลางแรงซื้อเก็งกำไรก่อนประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/2567
สัปดาห์ที่ 6-10 ม.ค. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,375 และ 1,360 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,410 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนธ.ค. 2567 ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนธ.ค. 2567 ของสหรัฐฯ บันทึกการประชุมเฟด ดัชนี PMI ภาคการบริการเดือนธ.ค. 2567 ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน และยูโรโซน รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธ.ค. 2567 (เบื้องต้น) ของยูโรโซน
#เงินบาท #หุ้นไทย #ข่าววันนี้ #เงินตรา #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์