วันที่ 3 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนางวนิดา สังข์ฤทธิ์ หรือ แม่แบงค์ เลสเตอร์ นายธนาคาร คันธี อายุ 27 ปี ที่เสียชีวิตหลังจากดื่มเหล้าแลกเงินหมื่น เดินทางเข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือหางานให้ทำหลังถูกบริษัท รปภ. ให้ออกจากงานทำให้ไม่มีรายได้ ก่อนหน้านี้ ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (3 ม.ค.68) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 73 ม.13 บ้านผักบุ้ง ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานีอีกครั้ง เพื่อสอบถามคุยกับคุณยายและพ่อของแบงค์เลสเตอร์ และน้าเทพ นายพันธุ์เทพ สังข์ฤทธิ์ น้องชายแม่ของแบงค์ เลสเตอร์

โดย นางพรทิพย์ สังข์ฤทธิ์ หรือยายเล็ก อายุ 80 ปี คุณยายแบงค์เลสเตอร์ เล่าว่า กรณีลูกสาวตกงานนั้นตนก็เพิ่งรู้จากนักข่าว ลูกสาวตกงานเสียใจอยากจะถามเขาว่าตกงานเพราะอะไร เป็นเพราะที่หยุดงานไปงานศพลูก 4-5 วัน หรือเปล่าถึงต้องตกงาน ฝากถึงวนิดาฯ หากได้ยินข่าวอยากจะถามว่าได้งานหรือยังตกงานเพราะอะไร อยากให้ลูกสาวมีเวลามาเยี่ยมบ้าง หากลูกยังไม่มีงานทำก็อยากจะแบ่งงเงินไปช่วยเหลือรายเดือน เดือนละ 2,000-3,000 บาทพอได้ประทังชีวิต และหากลูกสาวอยากจะมาอยู่และทำงานที่อุดรธานีตนก็ยินดี สำหรับนิสัยของลูกสาววนิดาฯ ก็เป็นคนดี ตอนที่ตอนอยู่กับเขาที่กรุงเทพฯเขาก็ดูแลแม่ดีเขาก็ไม่เคยกตัญญู รู้คุณเหมือนหลานแบงค์เลย

 

ซึ่งคุณยายได้กล่าวต่อหน้ารูปและเถ้ากระดูกแบงค์ว่า แบงค์ช่วยหางานให้แม่ด้วย ตอนนี้แม่เขาตกงานอยู่ถูกไล่ออก ขอให้แบงค์ ช่วยแม่ได้งานดีๆ ให้เจ้านายเขารักใคร่ ถ้าแบงค์ไม่ช่วยแม่ก็คงจะไม่มีเงินมาส่งค่าน้ำค่าไฟ ภายในวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้

ด้านนายประเสริฐ คันธี หรือเสริฐ อายุ 58 ปี พ่อแบงค์เลสเตอร์ บอกว่า จากกรณีนางวนิดาฯ ไปร้องเพจสายไหมต้องรอดกรณีตกงาน ฟังดูก็รู้สึกเห็นใจเพราะเขาอยู่ตัวคนเดียว ส่วนตัวแล้วก็ยังไม่ได้คุยกับเขา ตอนเขามางานศพน้องแบงค์ก็จะคุยกับแค่น้องชายเขาเท่านั้น ก่อนหน้าที่เขาจะตกงานเขาก็โทรมาบอกนะว่า ไม่มีเงินค่าใช้จ่าย ซึ่งน้าเขาก็โอนเงินให้ 3,000 บาท เมื่อวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้การช่วยเหลือหลังตกงาน ก็ขึ้นอยู่กับคุณยายหรือแม่เขาว่าจะช่วยเหลือลูกสาวอย่างไร คุณยายว่ายังไงตนก็ว่าอย่างนั้น ทั้งนี้กระแสสังคมที่มุ่งไปที่คุณแม่ก็คิดว่าน่าจะมีส่วนที่ทำให้เขาต้องออกจากงาน และตกงาน ฝากถึงคุณนางวนิดาอดีตภรรยาว่า หากได้งานก็ขอให้ตั้งใจทำงานและหากมีเวลาก็มาเยี่ยมแม่บ้าง ส่วนผมแม้เราจะเลิกกันเราก็คุยเป็นเพื่อนกันก็ได้เหมือนเดิม

ส่วนน้าเทพ เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวานนี้ ประชุมหารือเรื่องการบริหารจัดการเงิน บริจาคและเงินช่วยเหลือรายเดือนของคุณยายวันนี้ทางพม. ได้มาชี้แจงและพาไปลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ซึ่งการบริหารจัดการที่ทางพมให้แนวทางมาตนก็รู้สึกว่าเป็นระเบียบรัดกุม ยอมรับได้ไม่ได้ติดขัดอะไร สำหรับเงินที่ทุกท่านให้มาคนยืนยันจะใช้จ่ายให้เหมาะสม

ทั้งนี้ในกรณีพี่สาวตกงานนั้นส่วนตัวก็ทราบแล้วแต่ก็ยังรู้สึกกังวลว่าพี่สาวจะได้งานตอนไหนเร็วไหม เพราะว่า ตอนนี้ตน ไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพฯจึงไม่สามารถช่วยเหลือได้ สาเหตุที่สังคมโจมตีดราม่าแม่น้องแบงค์อยู่ก็อาจเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้พี่สาวตกงาน ฝากถึงพี่สาวถ้าดูข่าว อยากจะบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงเดี๋ยวจะดูแลแม่ให้ เรื่องทุกอย่าง จะช่วยคลี่คลายปัญหาให้ ยืนยันว่าพี่สาวส่งเงินมาให้แม่ทุกเดือนโดยผ่านบัญชีตน และส่งมาหลายปีแล้ว และบ้านหลังเก่าที่อยู่ริมคลอง แม่แบงค์ก็เป็นคนหาเงินมาสร้าง รีโนเวลให้ใหม่ เป็นเงิน 100,000 บาท ทำให้แม่อยู่ ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ใหม่ แม่แบงค์ก็เป็นคนจัดการ รวมถึงเงินค่าฌาปนากิจแม่ พี่สาวก็เป็นคนจ่ายทั้งหมด ทั้งนี้ตนเคยตกลงเรื่องเงินที่คนช่วยเหลือร่วมทำบุญให้แบงค์ หลังเสียชีวิต แต่แม่แบงค์ไม่รับ โดยตนจะแบ่งให้ 5,000 บาท และตอนนี้โอนให้ไปแล้ว 3,000 บาท เหลืออีก 2,000 บาท จะโอนให้แต่เขาไม่รับ ถามว่าแม่แบงค์ดื่มเหล้า ดื่มเบียร์มั้ย ตนขอปฎิเสธว่า แม่ของแบงค์เขาไม่ได้ดื่ม และไม่ได้ติดพนันเหมือนที่เป็นข่าวด้วย ส่วนเรื่องแม่น้องแบงค์เอาเงิน 1 แสนบาทรีโนเวทบ้านที่อยู่ริมคลอง ตอนนี้เล่าให้แม่ฟังแล้ว และแม่ก็เข้าใจ

ขณะเดียวกันวันนี้ นายจรูญ บุหิรัญ นายอำเภอบ้านผือ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปให้กำลังใจ ยายแบงค์ พร้อมกับมอบกระเช้าของขวัญให้คุณยายที่บ้านพัก ซึ่งเป็นบ้านพ่อของแบงค์  คุณยาย บอกว่า สุดดีใจที่ท่านนายอำเภอมาเยี่ยม และพูดคุยกับนายอำเภออย่างเป็นกันเอง ทางด้านเจ้าหน้าที่จากทางเทศบาลตำบลกลางใหญ่ ได้มาพูดคุยเกี่ยวกับการอนุญาตการสร้างบ้าน ซึ่งตอนนี้ยังสร้างไม่ได้ เพราะว่าชื่อเป็นของลูกเขยของยาย แต่คนที่ประสงค์จะสร้างให้คือนายเอ็ม เอกชาติ จะสร้างให้เป็นบ้านยาย ก็ต้องโอนชื่อยายมาอยู่ทะเบียนบ้านที่อุดรธานีก่อน