ลานบ้านกลางเมือง/บูรพา โชติช่วง
รับศักราชใหม่ 2568 ด้วย “บุญเดือน 3 นมัสการพระธาตุพนม” มรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรม เป็นหนึ่งใน 10 รายการที่ขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรมของชาติ ประจำปี 2567 โดยกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) กรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (ICH) ครั้งที่ 3/2567 ได้มีการประกาศรายการขึ้นบัญชีดังกล่าวไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมรายการที่ประกาศขึ้นบัญชีได้ที่ www.culture.go.th (เครดิตภาพ สวธ.) ทั้งนี้วธ.ได้ประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรมของชาติมาตั้งแต่ปี 2552 จนถึงปัจจุบันรวมทั้งหมด 396 รายการ
บุญเดือน 3 นมัสการพระธาตุพนม ลักษณะแนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และงานเทศกาล และคุณค่า จากข้อมูลจ.นครพนม ผู้เสนอขึ้นบัญชีฯ สังเขป จัดเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน โดยผู้คนจากทั่วสารทิศจะมารวมกันในวันเพ็ญเดือน 3 ซึ่งจะตรงกับวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คือ วันมาฆะบูชา เพื่อจะไหว้พระธาตุพนมตามความเชื่อของตน บุญพิธีดังกล่าวเกิดจากความเชื่อที่ว่า พระธาตุพนมเป็นที่บรรจุพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้า และเปรียบเสมือนตัวแทนของพระพุทธเจ้าด้วย ดังเมื่อถึงวันเพ็ญเดือน 3 ของทุกปี พระภิกษุสงฆ์จะนาพาอุบาสก อุบาสิกา เดินทางมาเพื่อที่ประกอบพิธีมาฆะบูชา ปัจจุบันบุญเดือน 3 นมัสการพระธาตุพนมได้มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องยาวนานจนเกิดเป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมขนาดใหญ่ ผู้คนทั้งภาคอีสานรวมถึงสาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวต่างมุ่งหมายที่จะมาร่วมบุญพิธีดังกล่าว ประกอบด้วยกิจกรรม ดังนี้
พิธีกรรมอัญเชิญพระอุปคุต จัดเป็นพิธีกรรมอัญเชิญพระอุปคุตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งเป็นวันที่บรรดาข้าโอกาสพระธาตุพนมจะมารวมตัวกันเพื่อทาพิธีกรรมโบราณ คือ การเสียค่าหัวและถวายข้าวพีชภาค ในการอัญเชิญพระอุปคุตขึ้นมารักษาความสงบเรียบร้อยของงาน จะมีขบวนแห่อัญเชิญพระอุปคุตซึ่งเป็นการจัดขบวนที่มีเอกลักษณ์ จะมารวมตัวกันในวันขึ้น 8 ค่า เดือน 3 ของทุกปี จะมีผู้เฒ่าผู้แก่ประจำชุมชนเป็นผู้อันเชิญ เวลาในการอัญเชิญจะต้องเงียบ หรือก่อนพระอาทิตย์ขึ้นช่วงเวลา 04.00 น. ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นเวลา 07.00 น. โดยห้ามส่งเสียงดัง หรือมีคนเมาเดินสวนเด็ดขาด ห้ามหยอกล้อเล่นกัน เครื่องอัญเชิญประกอบด้วยขัน 5 ขัน 8 บาตรเก่า ธรรมกก ร่มเก่า ชุดไตรจีวรเก่า เชือกหนังประกา 1 เส้น ส่วนขบวนแห่ประกอบด้วยกลองตุ้ม กลองเลง พังฮาด ฆ้อง เมื่อเดินถึงท่าน้าโขงจะให้นางเทียมเจ้าเฮือนสามพระองค์เป็นผู้บอกกล่าวผีที่รักษาแม่น้าโขงก่อน จากนั้นผู้เป็นมรรคนายกจะประกอบพิธีกล่าวอัญเชิญพระอุปคุต
การถวายข้าวพีชภาคและบุญเสียค่าหัว เป็นประเพณีเฉพาะของกลุ่มข้าโอกาสพระธาตุพนมที่ทำหน้าที่ดูแลวัด โดยเฉพาะในช่วงงานบุญประเพณี กลุ่มข้าโอกาสจะต้องนำผลผลิต พืชพรรณ ข้าวสาร เพื่อมาถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ ครั้งโบราณกำหนดให้ถวายในวันแรม 1 ค่า เดือน 3 หลังจากเสร็จงานนมัสการพระธาตุพนมประจาปีแล้ว ต่อมาทางวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร (สมัยพระธรรมปริยัติมุนี เป็นเจ้าอาวาส ได้กำหนดให้กลุ่มข้าโอกาสถวายเงินค่าหัวพร้อมกับถวายข้าวพีชภาค ในวันขึ้น 8 ค่า เดือน 3) เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมของชาวบ้าน ปัจจุบันกลุ่มข้าโอกาสในประเทศลาวไม่ได้รับอนุญาตจากทางการลาวให้ถวายเงินค่าหัวและข้าวพีชภาคเหมือนสมัยอดีต
นอกจากนี้มีกิจกรรมพิธีแห่กองบุญบูชาพระธาตุพนม เกิดขึ้นในงานนมัสการพระธาตุพนม โดยเป็นกิจกรรมการทำบุญอย่างหนึ่งที่ผู้คนที่เคารพศรัทธาได้นำกองบุญมาร่วมถวายองค์พระธาตุพนม พิธีตักบาตรเงินคู่อายุบูชาพระธาตุพนม เป็นพิธีกรรม “ให้” ถวายพระเพื่อลดความตระหนี่ ความยึดมั่น เสียดาย ห่วงหา พิธีเวียนเทียนบูชาพระธาตุพนม
ด้านคุณค่าของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม งานบุญเดือน 3 ไหว้พระธาตุพนม มีผู้คนหลั่งไหลมาจาริกแสวงบุญตั้งแต่เมื่อครั้งอดีต ซึ่งสันนิษฐานว่า การรับรู้เรื่องราวองค์พรพระธาตุพนมและเกิดความเลื่อมใสศรัทธาน่าจะเกิดขึ้นพร้อมกับ การแพร่กระจายของตานานอุรังคธาตุนิทาน