วันที่ 2 เม.ย.2568 ที่ป.ป.ช. นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่าที่ประชุม  ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดนายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ขณะดำรงตำแหน่งสส. เขต 7 จังหวัดสงขลา พรรคภูมิใจไทย กรณีถูกกล่าวหารับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากบุคคล เนื่องจากยอมให้บุคคลอื่นชำระค่ารักษาพยาบาลแทนให้แก่ตนเอง 

ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่านายณัฏฐ์ชนน  เข้ารับการรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลพญาไท 2   ระหว่างวันที่ 19-21 กันยายน 2562 และวันที่ 23 กันยายน -วันที่ 18 ตุลาคม 2562    มีค่ารักษาพยาบาลรวมทั้งสิ้น 1,449,223 บาท โดยได้ยอมให้บุคคลอื่นชำระค่ารักษาพยาบาลให้แก่โรงพยาบาลแทนตนเอง   รวมเป็นเงิน 1,335,778 บาท  และได้นำใบเสร็จรับเงินค่ารักษาไปเบิกค่ารักษาพยาบาลจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 495,409.50 บาท มีส่วนที่เกินไม่สามารถเบิกจ่ายได้เป็นเงินจำนวน 953,813.50 บาท ซึ่งต่อมานายณัฏฐ์ชนน ได้เสนอแต่งตั้ง  1 ใน 3 ราย ที่ชำระค่ารักษาพยาบาลแทนตนเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ตามคำสั่งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่ 2455/2563 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2563 การกระทำของนายณัฏฐ์ชนน จึงเป็นการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด  อันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากผู้อื่นนอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย  กฎหรือข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย

คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเห็นว่าการกระทำดังกล่าวมีมูลความผิดอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169 และมีมนต์ความผิดฐานฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระรวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ข้อ 9 ข้อ 10 และข้อ 17 ประกอบข้อ 3 และข้อ 27 โดยส่งรายงานจำนวนการไต่สวนเอกสารพยานหลักฐานและความเห็นพร้อมสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง   และให้เสนอเรื่องกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมอย่างร้ายแรงต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยต่อไป