รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ต้องขัง พร้อมมอบของขวัญปีใหม่เรือนจำอ่างทอง โดยให้ญาติเข้าเยี่ยมแบบใกล้ชิด ในวันที่ 24 ม.ค. 2568
วันที่ 31 ธ.ค. 67 เวลา 11.30 น.ที่บริเวณเรือนจำจังหวัดอ่างทอง พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยนายชวนินทร์ วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นายทัศนัย สุธาพจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นายไพบูลย์ ศุภบุญ ปลัดจังหวัด นายธิตินัย พาติกบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอ่างทอง นายรุ่ง ตาละอุปะละ ขนส่งจังหวัดอ่างทอง นายบรรจง โพธิวงค์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทอง
นายสหชัย แจ่มประสิทธิ์สกุล นายอำเภอเมืองอ่างทอง โดยเข้าพูดคุยแบบใกล้ชิดและเยี่ยมชมการทำกิจกรรมในเรือนจำ พร้อมส่งมอบของขวัญปีใหม่ด้วยกิจกรรม ซึ่งสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ก้าวพลาดจากญาติ ที่รอคอยการกลับมาเป็นคุณดีมีคุณภาพของสังคม จากการเปิดเยี่ยมญาติสำหรับผู้ต้องขังเรือนจำจังหวัดอ่างทอง และการเยี่ยมญาติอย่างใกล้ชิดในวันที่ 24 ม.ค. 2568 เพื่อให้ผู้ต้องขังและญาติได้รับความสุขอย่างใกล้ชิด
พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า ในช่วงเช้าได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมผู้ต้องขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งทางราชทัณฑ์ทุกแห่งจะจัดวันเยี่ยมไม่ตรงกัน เพราะว่าเวลากระทำผิดจะยึดที่เกิดเหตุในการกระทำผิด แต่ผู้กระทำผิดอาจจะอยู่ในหลายจังหวัด ทำให้ญาติกับผู้ต้องขังได้มีโอกาสใกล้ชิดกัน เพื่อเตรียมตัวออกไปอยู่ในสังคม รับรู้ข่าวความเคลื่อนไหว ไม่อยากให้คนข้างนอกห่วงคนข้างใน อย่างเช่นเวลาเกิดอุทกภัย ทางเรือนจำก็ส่งผู้ต้องขังออกไปช่วยพี่น้องประชาชน สำหรับสถานที่อยู่ของผู้ต้องขังที่แออัด ต้องยอมรับว่ายังขาดแคลนเรื่องงบประมาณ แต่จะดูตามสภาพของเรือนจำที่ทรุดโทรมเรียงกันไปในการปรับปรุง บางส่วนก็จะของบประมาณในการซ่อมแซม แต่ในอนาคตกฎหมายราชทัณฑ์จะส่งเสริมให้มีการคุมประพฤติ เป็นที่คุมขังอื่น เช่นสถานที่ราชการ ต้องเป็นโทษที่เหลืออายุไม่เกิน 4 ปี ซึ่งในระยะ 4 ปี ก็อาจจะให้ทางเรือนจำจัดให้มีการฝึกอาชีพ หรือเรียนเพิ่มเติม เพื่อออกมาอยู่ในสังคมใหม่ให้ดีขึ้น
สำหรับประเด็นทางการเมือง ถือว่าตนเองมีใจบริสุทธิ์ ซึ่งความขัดแย้งมีขึ้นเป็นธรรมดา เชื่อว่าจะสามารถชี้แจงได้ เพราะถือว่าเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง จะอย่างไรก็ตามก็ถือว่าประชาชนเป็นผู้ให้กำเนิดมา ส่วนมีหลายคนที่วิจารณ์การรับโทษของ นาย ทักษิณ ที่มีโทษ 5 ปี แต่กฎหมายมีโทษ 4 ปี ถือว่าเกินไปในเรื่องที่เกี่ยวกับพระมหากรุณาธิคุณ
