วันที่ 31 ธ.ค. 67 นายบัญญัติ บรรทัดฐาน  สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาข้อขัดแย้งกรณี MOU 44 ระหว่างไทยกับกัมพูชาแม้รัฐบาลพยายามจะอธิบายว่า เป็นข้อตกลงที่ทำร่วมกัน เพื่อทำให้ไทยและกัมพูชามีการเจรจา สิ่งที่น่าห่วงคือ คำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่บอกว่า หากการปักปันหรือแบ่งเขตพื้นที่ทับซ้อนยังมีปัญหาก็ให้ไปตกลงแบ่งผลประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติใต้ทะเลกันเสียก่อน ยิ่งถ้าทิ้งเวลาไว้นานก็จะยิ่งไร้คุณค่า ถ้าในอนาคตคนหันไปให้พลังงานบริสุทธิ์มากขึ้น และหากจะให้ไปแบ่งผลประโยชน์แบบ 50:50 ตนมองว่าทำไม่ได้ 

 

นายบัญญัติ กล่าวว่า ส่วนฝ่ายที่ออกมาต่อต้านเรื่องนี้ก็มีเหตุผล เพราะเขาเรียกร้องให้จัดการพื้นที่เขตทับซ้อนบริเวณไหล่ทวีปให้เสร็จเสียก่อน ที่จะไปแบ่งผลประโยชน์ทรัพยากรทางทะเล และถ้าแบ่งเขตพื้นที่ได้อย่างตรงไปตรงมา ตนเชื่อว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของทรัพยากรในพื้นที่นี้จะเป็นของไทย แต่ถ้าจะแบ่งกันแบบ 50:50 หรือ 60:40 สังคมก็จะคัดค้าน และที่หนักกว่านั้น หากไปตกลงแบ่งทรัพยากรกันก่อน ก็เหมือนว่าเรายอมรับการอ้างสิทธิ์ของฝ่ายกัมพูชาว่ามีมูล หลายคนเกรงว่าหากปล่อยไว้นานไทยจะเจอกฎหมายปิดปากแบบคดีเขาพระวิหาร 

 

“เรื่องการตั้งคณะกรรมการเจทีซี ตามเอ็มโอยูที่ยังคาราคาซัง ผมมองว่าการที่รัฐมนตรีเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่ครบ จนทำให้นายทักษิณ อารมณ์เสีย ไปอาละวาดข้างนอก เพราะรัฐมนตรีกลัวเรื่องนี้ วันนั้นรัฐมนตรีหลายคนกลัวอยู่สองเรื่องคือ การแต่งตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติกับการแต่งตั้งคณะกรรมการเจทีซี เขาจึงไม่อยากไปรับรู้ด้วย” นายบัญญัติ กล่าว