พ่อวัย 77 ไม่บินไปรับสามีชาวเกาหลีทำพิธีแล้วส่งอัฐิลูกสาวมาให้ เผยพิสูจน์ศพได้ง่ายสามีเล่าให้ฟังศพติดเก้าอี้กระเด็นออกจากตัวเครื่อง พรุ่งนี้จะนำร่างไปทำพิธีตามประเพณีของเกาหลี

วันนี้ (30 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากเหตุเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ของสายการบินเชจูแอร์ เที่ยวบิน 2216 บรรทุกผู้โดยสาร 175 คน รวมถึงชาวไทย 2 คน และพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน 6 คน เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ เหตุเกิดวันที่ 29 ธ.ค.67 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากก ในนั้นเป็นคนไทย 2 คนคือ น.ส.จงลักษ์ ดวงมณี อายุ 45 ปี ชาวบ้านบ้านหนองแสงหมู่ 6 ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานีและน.ส.ศิริธร จะอือ อายุ 22 ปี ชาวจ.เชียงราย ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติๆ โดยเฉพาะพ่อของน.ส.จงลักษ์ ดวงมณี คือนายบุญช่วย ดวงมณี อายุ 77 ปีร้องไห้จนไม่มีน้ำตาหลังจากสูญเสียลูกสาวคนเดียวไปอย่างไม่มีวันกลับ

โดยทางนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เดินทางลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจบิดาและญาติของ นางสาวจงลักษ์ ดวงมณี เบื้องต้นตรวจสแล้วพบว่า น.ส.จงรักษ์เป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 โดยทายาทผู้เสียชีวิตจะได้รับสิทธิประโยชน์ เป็นค่าทำศพ 50,000 บาท เงินสงเคราะห์กรณีตาย 28,800 บาท เงินบำเหน็จชราภาพ 109,751.28 บาท (ยังไม่รวมดอกผล) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 188,551.28 บาท ซึ่งทางสำนักงานประกันสังคมจังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวผู้ประกันตนที่เสียชีวิต พร้อมแจ้งข้อมูลและประสานอำนวยความสะดวกต่อทายาท ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ครบถ้วน ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

นายบุญช่วย เผยกับนักข่าวอีกครั้งว่า ตนเองคงไม่ได้บินไปรับศพลูกสาว เพราะทราบจากนายเจโฮ จัง สามีชาวเกาหลีใต้ที่จดทะเบียนสมรสกับลูกสาวแจ้งมาว่า จะทำพิธีศพตามประเพณีของชาวเกาหลีใต้ก่อน จากนั้นจะนำอัฐิส่งมามาให้ทางครอบครัวที่บ้านเกิดอุดร ส่วนจะเป็นวันไหนไม่ทราบ คงจะให้ทางสามีดำเนินการไปก่อน สามีของลูกสาวเล่าให้พ่อฟังอีกว่า พรุ่งนี้ทางสนามบินจะอนุญาตให้นำร่างของลูกสาวออกจากสนามบินเพื่อไปบำเพ็ญกุศลได้ สามีของลูกสาวเล่าอีกว่า ศพของลูกสาวนั่งติดเก้าอี้โดยร่างกระเด็นอออจากตัวเครื่องบิน ร่างไม่ถูกไฟไหม้แต่อย่างใด ทำให้พิสูจน์ได้ง่ายว่าเป็นใคร