หมายเหตุ : “ภิญโญ พงศ์เจริญ” นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ  ให้สัมภาษณ์พิเศษ “สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์” ตรวจดวงชะตาสถานการณ์บ้านเมือง ในปี 2568 ประชาชนคนไทยจะต้องเผชิญหน้าและรับมือกับเรื่องใดบ้าง ทั้งการเมือง สังคมและเศรษฐกิจ มีสาระที่น่าสนใจดังนี้

“ ดาวพฤหัสบดี(5)

ช่วงที่ 1 ดาวพฤหัสบดี(5) โคจรในราศีพฤษภภพที่ 2 ระหว่าง 1 มกราคม พ.ศ. 2568  ถึง 13  พฤษภาคม  2568

“พฤหัสบดีมฤตยูครูวิเศษ” ในราศีพฤษภเรือนชะตาที่ 2 ดาวพฤหัสบดี(5) เป็นดาวครู ดาวหมอ  ดาวความรู้ ส่วนดาวมฤตยู(0)  เป็นดาวแปลก, แตกต่าง,  เปลี่ยนแปลง,  ยอดเยี่ยม, พิเศษ, ล้ำเลิศ, เลิศลอย เมื่อมีการผสมกลมกลืนของพลังทั้งสองเข้าด้วยกัน  จึงมีการนำความรู้มาประยุกต์พลิกแพลงโดยใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงใหม่ๆ แปลกๆ อันยอดเยี่ยมพิสดาร น่าพิศวงงงงวย เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ของประเทศ ทำให้เกิดการแปรเปลี่ยนไปในแนวทางที่ดีขึ้น  สามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้

ในราศีพฤษภ มีจุดตั้งรับสำคัญอยู่ 2 จุด คือจุดพระเกตุ(๙) และจุดอังคาร(3)  ดาวอังคาร(3)ดาวประจำตัวของดวงเมือง เมื่อมีดาวพฤหัสบดี(5)มาทับดาวอังคาร(3)คู่สมพล ในดวงเมือง 

“นิติสงครามยังคงใช้ได้ผลอยู่และยังคงมีให้เห็นอีกบ่อยครั้ง มีความพยายามใช้ช่องทางต่างๆ ทางกฎหมายเพื่อขัดขวางเล่นงานทำลายฝ่ายตรงข้าม ในรูปแบบการดำเนินทางกฎหมายและทางสื่ออย่างกว้างขวาง เพื่อทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียหายจนอ่อนแอลง สูญเสียการสนับสนุนจากสาธารณชน และหมดพลังอำนาจในการต่อต้านอีก ท่านว่าจะมีโทษมาก เพราะประชาชนจะออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างรุนแรง  รุมกล่าวหารัฐบาลหรือกลุ่มการเมืองไปในทางที่ไม่ดี”

เช่น  ผิดสัญญา  ผิดกฎหมาย และนำมาซึ่งข้อขัดแย้ง เกิดคดีความต่างๆ ทำให้ประชาชนขาดความศรัทธาเลื่อมใสในรัฐบาลจนเกิดวิกฤติศรัทธาเกิดขึ้น 

ช่วงที่ 2 ดาวพฤหัสบดี(5) โคจรในราศีมิถุนภพที่ 3 ตั้งแต่ 13 พฤษภาคม  2568 ถึง 2  ตุลาคม 2568

ส่งผลให้การคมนาคม การเดินทางภายในประเทศและในภูมิภาค มีการขยายขอบเขตออกไปอย่างกว้างขวาง ทั้งทางบก  ทางน้ำและทางอากาศ การเดินทางราบรื่น สะดวกสบาย การศึกษาขั้นพื้นฐาน วรรณกรรม งานเขียน การสื่อสาร และวิทยาศาสตร์จะมีความเจริญก้าวหน้า ตลอดจนมหาวิทยาลัย และ สถานศึกษาต่างๆ ภายในประเทศจะมีการปรับปรุงพัฒนาไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ธุรกิจภายใต้การคุ้มครองของภพที่ 3  จะประสบความสำเร็จดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านราบรื่นดำเนินไปได้ด้วยดี

ดาวพฤหัสบดี(5)ในภพนี้ให้คุณดีถึงแม้จะอยู่ในตำแหน่งที่เสียทางราศี เช่น เป็นนิจ เป็นประ แต่ก็ยังทรงคุณอยู่บ้าง ดาวพฤหัสบดี(5)ให้คุณแรง  แต่จะให้คุณมากหรือน้อยอย่างไรให้ดูมุมสัมพันธ์จากดาวดวงอื่นประกอบด้วย 

หากดาวดวงอื่นๆ ให้คุณด้วยก็จะยิ่งส่งเสริม  หากให้โทษก็จะบั่นทอนคุณลงตามลำดับมาตรฐาน  แต่หากมีโยคเกณฑ์ร้ายจากดาวอื่น ก็จะไม่ให้ผลประโยชน์แต่ประการใด และจะเกิดความยุ่งยากเกิดขึ้นตามสภาพของภพนี้

ตลอดจนความยุ่งยากที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับวงการการศึกษา  การศาสนา และความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านตามความหมายของเรือนชะตา ในราศีมิถุนมีดาวมฤตยู(0) สถิตอยู่  ดาวพฤหัสบดี(5) ทับมฤตยู(0)ครูวิเศษ เมื่อมีการผสมกลมกลืนพลังทั้งสองเข้าด้วยกัน 

แปลความว่าจะมีการนำความรู้มาพลิกแพลงประยุกต์ใช้ไปในทางมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกง เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ของประเทศอย่างแยบยล ดูแล้วคล้ายๆ กับการแหกตาประชาชน ตามความหมายของดวงดาวและเรือนชะตาราศี

ดาวพฤหัสบดี(5) เป็นดาวครู ดาวหมอ  ดาวความรู้ ส่วนดาวมฤตยู(0)  เป็นดาวแปลก, แตกต่าง,  เปลี่ยนแปลง,  ยอดเยี่ยม, พิเศษ, ล้ำเลิศ, เลิศลอย จึงมีการนำเอาความรู้มาประยุกต์พลิกแพลงโดยใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงใหม่ๆ แปลกๆ อันยอดเยี่ยมพิสดาร น่าพิศวงงงงวย  เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ของประเทศ ทำให้เกิดการแปรเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น  สามารถแก้ไขปัญหาและอปสรรคต่างๆ ได้  ด้วยการแหกตาประชาชน

ช่วงที่ 3 ดาวพฤหัสบดี(5)โคจรในราศีกรกฎในภพที่ 4 ตั้งแต่วันที่  2  ตุลาคม 2568 ถึง 23  ธันวาคม  2568  

เป็นช่วงเวลาที่ดีเกี่ยวกับการพัฒนาเรื่องที่อยู่อาศัยอันอุดมสมบูรณ์  ซื้อง่ายขายคล่อง จะอำนวยผลประโยชน์อันดีให้กับประชาชน  รวมตลอดถึงรัฐบาลด้วย จะได้ปลูกบ้านสร้างเรือน มีการซื้อขายที่ดิน  บ้านเรือนที่อยู่อาศัย  และยวดยานพาหนะ  กิจการด้านอสังหาริมทรัพย์คล่องตัวดีขึ้น  กิจการเจริญก้าวหน้าดำเนินไปได้ด้วยดี  ปัญหาครอบครัวแตกแยกจะผ่อนคลายและเบาบางลง  การแตกแยกลดน้อยลง  ความรักใคร่สามัคคีในครอบครัวและวงศาคณาญาติจะดีขึ้น  พืชผลทางการเกษตรให้ผลงอกงามดี 

คนงานที่เกี่ยวกับดิน  เหมืองแร่  การก่อสร้าง  จะได้ผลประโยชน์งอกเงยมากขึ้น  ราคาที่ดินจะสูงขึ้น  และผลประโยชน์ที่ได้จากดินและพืชผลทางการเกษตรจะเพิ่มมากขึ้น   กฎหมายเกี่ยวกับที่ดิน สิ่งปลูกสร้างและมรดกสามารถสร้างประโยชน์ให้กับดวงเมืองอย่างมาก  แม้จะถูกโจมตีกล่าวหาว่า ขาย  ขาย  ขาย   เช่า  เช่า เช่า เปิดช่องทางให้กับต่างชาติเข้ามาซื้อ เช่าและครอบงำผืนแผ่นดินของประเทศด้วยวิธีการสุ่มเสี่ยงในอนาคต โดยมีการตั้งนอมินีตัวแทนเป็นคนไทย  สร้างภาระยุ่งยากให้ชนรุ่นหลังต้องรับบาปกรรมแบกภาระแก้ไขก็ตาม

ช่วงที่ 4 ดาวพฤหัสบดี(5)โคจรถอยหลังพักร์ราศีกลับเข้าสู่ในราศีมิถุน ภพที่ 3(สหัชชะ) 23  ธันวาคม  2568 ถึง 31 ธันวาคม 2568

ส่งผลให้อ่อนกำลังลง  ไม่เจริญก้าวหน้า  ไม่พัฒนา  จึงให้ความหมายไปในทางลบ  มีความล่าช้ากว่าปกติ การคมนาคม ขนส่ง  เดินทาง มีปัญหาล่าช้าผิดปกติ  ไม่มีการขยายขอบเขตออกไปหรือจะขยายตัวอย่างช้าๆ ไม่คืบหน้า ต้องรอคอย  การศึกษาขั้นพื้นฐาน  วรรณกรรม  งานเขียน  การสื่อสาร  และวิทยาศาสตร์จะไม่มีความเจริญก้าวหน้าเท่าที่ควรจะเป็น มหาวิทยาลัย และสถานศึกษาต่างๆ ภายในประเทศ ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเกี่ยวกับประเทศเพื่อนบ้านเย็นชา  ไม่ได้รับการตอบสนองที่ดี  การโคจรถอยหลังของดาวพฤหัสบดี(5) ทำให้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ  ทบทวน  เพื่อหาจุดบกพร่องเพื่อปรับปรุงแก้ไขความผิดพลาด

ในทางกลับกัน การโคจรถอยหลังของดาวพฤหัสบดี(5) แสดงว่าดาวพฤหัสบดี(5)โคจรเข้ามาใกล้โลก  อยู่ด้านเดียวกับโลก  ทำให้มีกำลังมากขึ้นในลักษณะวิปริตผิดปกติวิสัย  ดังปรากฏในคัมภีร์พระอภิธรรมอรรถสาลินี ที่ว่า “พฤหัสบดี(5) มนท์แพ้สมณพราหมณา” จะเกิดปัญหายุ่งยากขัดข้องวุ่นวายเสียหายในวงการศาสนา  คณะสงฆ์  วัดวาอาราม

มีการสูญเสียครั้งสำคัญในวงการศาสนา  วงการการศึกษา  มหาวิทยาลัย  วิทยาลัย  สถาบันการศึกษาต่างๆ  วงการแพทย์  การสาธารณสุข และวงการกฎหมาย  การยกร่าง  การแก้ไขปรับปรุงกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมาสำคัญบางฉบับไร้ผล  เป็นต้น

ราหู(8)

ช่วงที่ 1 ราหู(8)โคจรในราศีมีน  ระหว่าง1 มกราคม  2568 ถึงวันที่ 5  พฤษภาคม  2568 เวลา  09.44 น.

จึงควรระมัดระวังเรื่องลาภผล  รายได้ และผลประโยชน์ของชาติให้ดี  จะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับระเบียบวิธีการเรื่องการแสวงหารายได้และผลประโยชน์ มักจะใช้จ่ายทรัพย์สินเงินทอง งบประมาณให้สูญเสียหมดสิ้นไปอย่างรวดเร็ว  โดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์เท่าที่ควร  เก็บเงินไม่อยู่  ประชานิยมจ๋า

มีการลดแลกแจกแถมเพื่อหาเสียงทางการเมือง  มีการทุจริตคอร์รัปชั่นเกิดขึ้นมากมาย  จึงควรดูแลรักษาเงินงบประมาณ ทรัพย์สินเงินทองรายได้และผลประโยชน์ของประเทศไว้ให้ดี  เพราะอาจจะเกิดปัญหาอุปสรรคและสูญเสียโดยไร้ประโยชน์  อันจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงและทำให้เกิดความยุ่งยากติดตามมา  ควรระวังเรื่องการคบเพื่อน  ระวังเพื่อนฝูงจะเอาใจออกห่าง  จะมีเรื่องเสียใจเพราะมิตรสหาย  สัมพันธมิตรต่างประเทศจะเอาใจออกห่าง

ราหู(8)ในภพที่ 12 มีข้อควรระวัง คือ  จะมีเรื่องร้ายแรงที่ลึกลับซับซ้อนเกิดขึ้น  ราหู(8) คือเจ้าเรือนที่11(ลาภะ)โคจรมาสถิตในภพที่ 12(วินาศน์) ตำราว่า “ ราหู(8) สอง สี่ซ้ำแทรกซ้อนสิบสอง” เรียกว่า  “ทุระ ทุรา ลาภะ” เป็นห้วงเวลาที่ยังคงมีเรื่องทุกข์ๆ ยากๆ เกิดขึ้นอีกระยะหนึ่ง  มีปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับรายได้และผลประโยชน์  มีการแสวงหารายได้หรือกู้เงินจำนวนมากเพื่อมาลดแลกแจกแถม 

ดังนั้น จึงต้องระวังปัญหาและอุปสรรคเกี่ยวกับรายได้และผลประโยชน์ให้ดี  มิตรประเทศที่เคยผู้ให้ความร่วมมือสนับสนุนช่วยเหลือจะประสบปัญหาและอุปสรรคเช่นกัน  มีการการเปลี่ยนแปลงโยกย้าย  ไม่สามารถสนับสนุนช่วยเหลือได้เหมือนแต่ก่อน  ความสัมพันธ์กับประเทศสัมพันธมิตรเกิดการอ่อนไหววูบวาบ

ราหู(8)โคจรในภพที่ 12(วินาศน์) สำแดงถึงความเสียหาย  การปฏิบัติหน้าที่ในรัฐสภาจะเกิดปัญหายุ่งยาก  ทั้งรัฐบาลและรัฐสภาจะเกิดปัญหายุ่งยากเพราะขาดความนิยมศรัทธาเชื่อถือ  เกิดความไม่ไว้วางใจ  ไม่น่าเชื่อถือ  จะทำให้เกิดคดีอาชญากรรมสำคัญที่โด่งดังเป็นคดีลึกลับซับซ้อนเกิดขึ้นในโรงศาลตามอิทธิพลในความหมายของราหู(8) ภายใต้ภพที่ 12 (วินาศน์) ในทวิภาวะราศี  โดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ   การเงินการคลัง  การแสวงหารายได้และผลประโยชน์  จะเกิดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหรือมีการวางระเบียบใหม่ในโรงพยาบาล  องค์การกุศลต่างๆ  โรงงาน สถานที่ดัดสันดาน และกระบวนการยุติธรรม 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  ตำรวจ  ทนายความ  อัยการ  เรือนจำ  ราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับเรือนจำในกระบวนการยุติธรรม  กิจการในภพนี้จะได้รับการสนใจ เป็นที่เพ่งเล็งเป็นพิเศษ  มีการปรับปรุงแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบต่างๆ ให้เจริญก้าวหน้าดีขึ้น 

นอกจากนี้แล้วจะเกิดความยุ่งยากและความไม่พอใจอย่างหนักในเรือนจำ โรงพยาบาลและกระบวนการยุติธรรม จนเกิดความระส่ำระสายภายในประเทศ และจะเกิดลัทธิความเชื่อ  ศาสนาเร้นลับ ใหม่ๆ  แปลกๆ พิลึก  พิกล เกิดขึ้น  อีกทั้งจะมีศัตรูลับของประเทศทั้งภายในและภายนอก  เกิดปรากฏการณ์การปฏิบัติการของสมาคมหรือคณะพรรคลับเกิดขึ้น  มีขบวนการใต้ดินเกิดขึ้นมากมาย 

ราหู(8)แม้จะเป็นบาปเคราะห์แต่ก็เป็นเจ้าเรือนลาภะเมื่อโคจรในภพวินาศน์ จะให้คุณอยู่บ้างก็น่าจะเป็นเรื่องการค้นพบแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างมหาศาล  เช่น แหล่งก๊าซ  แหล่งน้ำมัน  แหล่งอัญมณี และทรัพยากรธรรมชาติต่างๆ อย่างคาดไม่ถึง หรือมีรายได้จากกิจการที่ปิดบัง ซ่อนเร้น  ไม่เปิดเผย  กิจการสีเทา  ใต้ดิน  ใต้น้ำ  ใต้ทะเล  เป็นต้น  อาจเป็นสาเหตุแห่งการกระทบกระทั่งด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศเพื่อนบ้าน

ช่วงที่ 2 ราหู(8) โคจรในราศีกุมภ์ภพที่ 11(ลาภะ)  5  พฤษภาคม  2568  ถึง 22  พฤศจิกายน  2569

ราหู(8)ภายใต้เรือนชะตาที่ 11(ลาภะ)  ส่งผลให้มีผลดีอยู่บ้างที่จะทำให้กิจการรัฐสภาดำเนินงานไปสู่ความก้าวหน้า  การบัญญัติกฎหมายดำเนินไปด้วยความราบรื่น  มีการตราพระราชบัญญัติสำคัญๆ ออกมาหลายฉบับ  มีการปฏิรูปประเทศหรือเปลี่ยนแปลงสำคัญบางอย่างที่ต้องใช้การพินิจพิจารณา ตามความหมายของเรือนชะตาที่ 11(ลาภะ) ประกอบ ดังกล่าวแล้ว 

แต่ในบางช่วงบางตอน  ถ้าราหู(8)สัมพันธ์กับบาปเคราะห์  ก็จะเกิดความผันแปรอันนำมาสู่ความยุ่งยากเกี่ยวแก่การบัญญัติกฎหมายหรือการปฏิรูปกฎหมาย  ทำให้การปฏิรูปกฎหมายบางฉบับอาจเสียผล  จะถูกการโจมตีโดยคะแนนเสียง  หากมีการเลือกตั้งซ่อมก็จะไร้ผลหรือพรรครัฐบาลจะประสบกับความพ่ายแพ้

ราหู(8)สถิตในพื้นที่ของราศีกุมภ์อยู่ด้านเดียวใกล้กับดาวเสาร์(7)(เรียกว่า กุมกันในราศีและกุมกันนอกราศี) และทำมุมฉากกับมฤตยู(0)และพฤหัสบดี(5)  โดยมีราหู(8)กุม(สวน)ดาวเสาร์(7) ในช่วงปี 2568 

ภาพปรากฎอย่างนี้ แสดงให้เห็นเหมือนมีการยึดรัฐสภาด้วยเสาร์(7) ราหู(8) คู่มิตร และมฤตยู(0)คู่แปลกแยก เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ โดยกลุ่มพรรคการเมือง  กลุ่มอิทธิพล  กลุ่มผลประโยชน์ เพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองอันสำคัญ  คือ การเปลี่ยนแปลงและการดำรงรักษาชาติบ้านเมือง

ดาวเสาร์(7)ราหู(8) เป็นคู่มิตรกัน  แสดงให้เห็นถึง “การฮั้ว” กัน  แสดงให้เห็นถึงการสมคบคิดกันในรัฐสภาของดาวคู่มิตรทั้งสอง  สมยอมกันในการเสนอกฎหมาย  การออกกฎหมาย  การแสวงหาผลประโยชน์  การตรวจสอบและการกำหนดนโยบายของชาติ ภายใต้การคุ้มครองของราศีกุมภ์เรือนชะตาที่ 11 อันหมายถึง รัฐสภา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  สภาสามัญ(สภาผู้แทนราษฎร)  สภาสูง(วุฒิสภา)  สภาการเมืองและท้องถิ่น(องค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น  เทศบาล  อบจ. อบต เป็นต้น)  การกำหนดนโยบายและความมุ่งหมายของชาติ  สัมพันธมิตรกับประเทศต่างๆ  การบัญญัติกฎหมายต่างๆ  การฮั้วกันในห้วงเวลาดังกล่าวเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นภายในประเทศ  โดยใช้พื้นที่ของราศีกุมภ์และภายใต้การคุ้มครองของภพที่ 11(ลาภะ)  รัฐสภาจึงเป็นเวทีแห่งการแสดงพลังของกลุ่มการเมือง กลุ่มผลประโยชน์เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ

ดาวเสาร์(7)

1.ช่วงที่ดาวเสาร์(7)โคจรในราศีกุมภ์ (ภพที่ 11)  ระหว่าง 1 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม  2568 และช่วง 23 สิงหาคม  2568 ถึง 13  กุมภาพันธ์  2569

ส่งผลถึงความเข้มแข็งในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารประเทศ มีการติดต่อสื่อสารสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน และกลุ่มความร่วมมืออื่นๆ  อาจมีการลงนามทำสนธิสัญญาบางอย่างเพื่อรักษาประโยชน์ของสมาชิกในกลุ่มแล้วแผ่ขยายออกไปสู่นานาชาติกลุ่มต่างๆ 

ด้วย เสาร์(7)ในภพนี้ ยังทำหน้าที่การบริหารประเทศให้เป็นไปตามครรลองของระเบียบและตัวบทกฎหมาย แต่คณะผู้บริหารราชการแผ่นดินยังจะต้องเผชิญกับฝ่ายค้านอย่างหนัก เกี่ยวกับงบประมาณ เพราะดาวมฤตยู(๐) ดาวแห่งภัยอาเภท  การขบถ การไม่ชอบสิ่งเก่าๆ ระเบียบกฎเกณฑ์วิธีการเก่าๆ ต้องการการเปลี่ยนแปลง ดาวมฤตยู(๐) จะโคจรในภพที่ 2 และทำมุมในเรือนเกณฑ์(ฉาก)กับดาวเสาร์(7) จึงทำให้ต้องมีการใช้จ่ายเงินมากมายเกินพอดีจนเกิดปัญหาเศรษฐกิจ  การเงิน  การคลัง  ต้องรีบแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

ในปี พ.ศ. 2568 “ดาวคู่แห่งการแตกหัก”  คู่ศัตรูของดาวเสาร์(7) คือ ดาวอังคาร(3)ส่งกระแสถึงกัน สัมพันธ์ราหู(8) มฤตยู(0)และอาทิตย์(1) ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุ  อุบัติภัยและภัยธรรมชาติอย่างรุนแรง เกิดอัคคีภัย ธรณีพิบัติ  วาตภัยและอุทกภัย  ตลอดจนภยันตรายที่มนุษย์สร้างขึ้น  สร้างความเสียหายสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก

ควรระมัดระวังเรื่องความเสียหายเกี่ยวกับสิ่งก่อสร้างถนนหนทาง  การคมนาคม การรถไฟ  รถไฟฟ้า  รถไฟบนดิน  รถใต้ดิน  แผ่นดินทรุด  แผ่นดินถล่ม  การทางพิเศษ  จะเกิดอุบัติเหตุ  ความชำรุดเสียหาย

2. ช่วงที่ดาวเสาร์(7)โคจรเดินหน้าและถอยหลังในราศีมีนภพที่ 12(วินาศน์)

ช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม-23 สิงหาคม  2568 ดาวเสาร์(7)โคจรเดินหน้าและถอยหลังในราศีมีน

เรือนพฤหัสบดีภายใต้ภพ 12(วินาศน์)ไม่ค่อยจะให้คุณเด่นชัดสักเท่าไร พยากรณ์ได้ว่า  การบริหารประเทศจะเกิดความผิดหวังหรือเกิดการผิดพลาดครั้งสำคัญ  ทำให้ประชาชนเกิดความเสื่อมศรัทธาในรัฐบาล  ประเทศชาติจะมีศัตรูลับ การเมืองภายในมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันอย่างชัดเจน 

โครงสร้างดวงดาวทำให้การเมืองโลก การเมืองระหว่างประเทศต้องปรับตัว  จำเป็นต้องมีการเลือกข้างกันชัดเจนขึ้นเป็นสามฝ่ายเหมือนจะก่อตัวก่อนเกิดสงครามใหญ่   ส่วนประชาชนคนเดินดินจะถูกกลั่นแกล้งจากผู้มีอิทธิพล  กลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ และมีผู้ใหญ่ที่ไร้คุณธรรม  ทำให้เกิดปัญหาบ้านแตกสาแหรกขาด  เกิดการพลัดพราก  จากพ่อแม่และบ้านเกิดเมืองนอน  ชีวิตต้องต่อสู้ฝ่าฟันกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ  มีคดีความเกิดขึ้นมากมายเต็มโรงศาล  การที่เรือนนี้เป็นเรือนพฤหัสบดี(5) ก็น่าจะพอคุ้มครองป้องกันทำให้ประชาชนสนใจเรื่องศีลธรรมและหลักธรรมคำสอนมากขึ้น

ดาวเสาร์(7) โคจรเข้าภพที่ 12(วินาศน์) ถึงแม้จะมีตำแหน่งดีทางราศี  ก็ยังสำแดงความเป็นศัตรูและความริษยาทางต่างประเทศ  เกิดภัยของการสูญเสียอำนาจ หรือความไม่นิยมเลื่อมใสศรัทธาในรัฐบาล  ข้าราชการหรือบุคคลสำคัญชั้นสูงในประเทศจะเกิดความยุ่งยาก  จะเกิดเรื่องยุ่งยากเกี่ยวกับเรือนจำ  ราชทัณฑ์  โรงพยาบาล  โรงงาน  โรงเรียนดัดสันดาน  ความไม่เชื่อฟัง  การปกครองที่บกพร่อง  เกิดอาชญากรรม  และความระส่ำระสายภายในประเทศ  จะมีโชคดีอยู่บ้างถ้ามีโยคเกณฑ์ดี  จะมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและการปกครองให้ดีขึ้น  ชนชั้นกรรมาชีพจะมีฐานะกระเตื้องดีขึ้น

ปีนี้ดาวเสาร์(7)โคจรมีระยะองศาเข้าใกล้ดาวศุกร์(6)คู่ศัตรู เจ้าเรือนชะตาที่ 2 และเจ้าเรือนชะตาที่ 7 ในเรือนชะตาที่ 12 ภายใต้ราศีมีน ดาวเสาร์(7)ทับศุกร์(6) เจ้าเรือนชะตาที่ 2 เศรษฐกิจ การเงิน การคลังของประเทศจะผกผัน  ได้รับการกระทบกระเทือน ธุรกิจการเงินการคลังของประเทศจะประสบปัญหายุ่งยาก  การภาษีอากรจะตกต่ำเกินความคาดหมาย  การเงินและธุรกิจของชาติจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก  เกิดความล้มเหลวทางการเงินครั้งสำคัญอาจเกิดขึ้น  ตลาดหุ้นส่วนและการลงทุนจะตกต่ำ  ธนาคารและสถาบันการเงินตกอยู่ในฐานะคับขัน เกิดความผันแปรทางภาษี  อาจมีการจัดเก็บภาษีอากรเพิ่มขึ้น  มีการควบรวมและเลิกกิจการสำคัญให้เห็นหลายราย

ดาวเสาร์(7)จรใกล้ทับศุกร์(6) เจ้าเรือนชะตาที่ 7 จะอำนวยความอับโชค สร้างความยุ่งยากให้กับการต่างประเทศ การต่างประเทศอาจถูกรบกวน  การเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศจะประสบปัญหาและอุปสรรค  เกิดความผันแปรในสัมพันธภาพระหว่างประเทศ  ความร่วมมือในโครงการต่างๆ ทางเศรษฐกิจ  การเงิน  การค้า  การติดต่อขอกู้เงินเกิดปัญหาพลิกผันจนเกิดความตึงเครียด  เย็นชา  อิจฉาริษยา  และอาจเกิดความขัดแย้งกับต่างประเทศ สัมพันธภาพอ่อนไหววูบวาบ

เหตุการณ์ทางการเมืองและการค้าถูกกระทบกระเทือน  ส่งผลให้เกิดความเสียผลกับการต่างประเทศ  การสมรสลดลง  ส่วนการหย่าร้างและอาชญากรรมเกี่ยวกับสตรีและเด็กจะมีเพิ่มมากขึ้น  สร้างความอับโชคแก่รัฐบาลหรือเกียรติภูมิของประเทศ

ดาวมฤตยูหรือยูเรนัส                                                                                                 

ในปี 2568  ดาวมฤตยู(0)โคจรเดินหน้าและถอยหลังในราศีพฤษภ ภพที่ 2(กดุมภะ) ตลอดทั้งปี 

การเงินของประเทศไม่สู้จะดี กำลังประสบปัญหาที่ยุ่งเหยิงสลับซับซ้อน มีความจำเป็นจะต้องมีการปฏิรูปทางการเงินอย่างขนานใหญ่ ทำให้เกิดการปรับปรุง  เปลี่ยนแปลงอย่างแปลกประหลาดในทางการเงินอย่างรวดเร็ว กะทันหัน รุนแรง  ชนิดคาดไม่ถึง

เกี่ยวกับระเบียบทางการเงิน การคลัง  การจัดเก็บภาษีอากรจะเพิ่มขึ้นเกินความคาดหมาย ตลอดจนการเงิน การคลังของประเทศด้วย  การบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงินการคลังจะประสบความยุ่งยากก่อนแล้วจึงจะได้ผล  ในภายหลัง  แต่ด้วยเหตุที่ดาวมฤตยู(0)เป็นบาปเคราะห์และได้รับโยคเกณฑ์ร้ายจากดาวเสาร์และอังคารจะทำให้เกิดปัญหาและอุปสรรคทางการเงินการคลังเกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

ระวังจะเกิดการสูญเสียในตลาดหุ้น หุ้นตกระเนระนาด สถาบันทางการเงิน การธนาคาร มีปัญหาผกผันอย่างรุนแรง ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขโดยเร่งด่วน การลงทุน ธุรกิจทางการเงินอาจจะก่อให้เกิดความยุ่งยากแก่รัฐสภา จะเกิดความเสียหายหรือการพลาดพลั้งทางการเงินโดยไม่รู้ตัว กระทบความเป็นอยู่ของประชาชน

มีเหตุผลที่น่าพิจารณาอีกประการหนึ่ง คือ ดาวมฤตยูเป็นดาวบาปเคราะห์ที่ปกครองราศีกุมภ์ซึ่งเป็นภพที่11(ลาภะ)ของดวงเมือง ในทางที่ดีน่าจะอ่านว่า  มฤตยู(0)เจ้าเรือนลาภะ-มาสถิตเรือนกดุมภะของดวงเมืองร่วมราศีกับดาวพฤหัสบดี(5) แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวโยกย้ายทางการเงินอย่างรุนแรง มีเงินสะพัดเข้าออกมากมายอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสายชนิดแปลกประหลาดคาดไม่ถึง  

ทำให้มีการหมุนทางการเงินในลักษณะแปลกๆพิกลๆ แต่ในทางที่กลับกันก็น่าจะอธิบายได้ว่า การเคลื่อนไหวโยกย้ายทางการเงินอย่างรุนแรงที่มากล้นจนเกินไป  จะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อจนเกินพอดีเช่นกัน  สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่การครองชีพจะมีราคาถีบตัวสูงขึ้นแบบแปลกประหลาดๆ ตามลักษณะนิสัยของมฤตยู(0) ดังนั้น ประชาชนจึงต้องมีความระมัดระวังและรอบคอบทางการเงินในการดำเนินชีวิตเป็นพิเศษ  

การเงินของประเทศจะเป็นอยู่เช่นนี้ไปจนกว่ามฤตยูจะย้ายออกไปจากราศีพฤษภ เรือนการเงินการคลังของประเทศ แต่ก็ยังโชคดีที่มีดาวพฤหัสบดี(5)ซึ่งเป็นดาวที่ให้คุณยังกุมกับดาวมฤตยูในเรือนการเงิน ประธานฝ่ายศุภเคราะห์กุมมฤตยู  เกิดการผสมกลมกลืนกันของพลังทั้งสองด้าน ดาวคู่นี้จึงยังพอให้คุณอยู่บ้าง ที่ตำราเรียกว่า “พฤหัส-มฤตยูครูวิเศษ” 

การเงินของประเทศจึงยังขึ้นๆ ลงๆ ต้องอาศัยเทคนิคกลวิธีที่พลิกแพลงมาปรับประยุกต์ใช้ เพื่อแหกตาประชาชน ก็พอจะแก้ไขปัญหาและอุปสรรคไปได้บ้าง ดาวพฤหัสบดี(5) เป็นดาวครู ดาวหมอ ดาวความรู้ ส่วนดาวมฤตยู(0) เป็นดาวแปลกแยกแตกต่าง,เปลี่ยนแปลง, ยอดเยี่ยม, พิเศษ, ล้ำเลิศ, เลิศลอย

เมื่อมีการผสมกลมกลืนของพลังทั้งสองด้านเข้าด้วยกัน  จึงมีการนำความรู้มาประยุกต์พลิกแพลงโดยใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงใหม่ๆ แปลกๆ อันยอดเยี่ยมพิสดาร น่าพิศวงงงงวย เพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ของประเทศ ทำให้เกิดการแปรเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น  ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ได้