“เอกนัฏ” ชื่นชม 58 โรงงานน้ำตาล ขานรับมติบอร์ดอ้อยและน้ำตาลทราย หยุดรับอ้อยเข้าหีบช่วงเทศกาลปีใหม่ มอบของขวัญให้คนไทย “ฟ้าใส ไร้ฝุ่น PM 2.5”
 

เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.67 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) แจ้งโรงงานน้ำตาลทั่วประเทศ หยุดการรับอ้อยเข้าหีบฤดูการผลิตปี 2567/68 ช่วงเทศกาลปีใหม่ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 เวลา 00.01 น. ถึงวันที่ 2 มกราคม 2568 เวลา 23.59 น. เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนหรือความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินจากการเดินทาง และขนส่งอ้อยของรถบรรทุกอ้อยไปยังโรงงานน้ำตาล สอดคล้องมาตรการเฝ้าระวังความปลอดภัยบนท้องถนน (7 วันอันตราย) ของรัฐบาล

โดยข้อมูลจาก สอน ล่าสุด พบว่า โรงงานน้ำตาลที่เปิดหีบอ้อยแล้วทั้ง 58 โรงงาน ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับกระทรวงอุตสาหกรรมในการปฏิบัติตามมาตรการหยุดการรับอ้อยเข้าหีบฤดูการผลิตปี 2567/68 ช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำให้ลดความหนาแน่นของการจราจรบนท้องถนน อำนวยความสะดวกและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางให้กับประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ สร้างบรรยากาศที่ดีในการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและมีความสุข

“ผมต้องขอชื่นชมและขอเป็นตัวแทนพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ขอบคุณผ่านไปยังโรงงานน้ำตาลที่เปิดหีบอ้อยแล้วทั้ง 58 โรงงาน ที่ได้ให้ความร่วมมือในการปฎิบัติตามมาตรการหยุดรับอ้อยเข้าหีบในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ซึ่งถือเป็นของขวัญปีใหม่มอบให้กับคนไทย เพื่อได้ให้พี่น้องประชานชนเดินทางไปท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย ลดความหนาแน่นของรถบรรทุกอ้อยบนท้องถนน ลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ลดการลักลอบเผาอ้อย ลดปัญหาฝุ่นมลพิษ PM 2.5 อากาศก็จะสะอาดขึ้น ประชาชนได้รับอากาศบริสุทธิ์และมีความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งผลลัพธ์ของมาตรการดังกล่าวเป็นไปในทิศทางที่ดี สะท้อนได้จากค่า AQI หรือดัชนีคุณภาพอากาศ กลับมาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทั้งประเทศ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพฯ ที่มีค่า AQI อยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากมาตรการหยุดรับอ้อยช่วงปีใหม่ ลดการลักลอบเผาอ้อย จึงทำให้ปริมาณฝุ่น PM2.5 ลดลงอย่างรวดเร็วอย่างมีนัยสำคัญ” นายเอกนัฏฯ กล่าว

ทั้งนี้ มติคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ได้เห็นชอบให้โรงงานน้ำตาลเริ่มเปิดหีบอ้อยตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2567 ซึ่ง สอน. ได้รายงานสถานการณ์การผลิตอ้อย ฤดูการผลิตปี 2567/68 ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2567 พบว่า โรงงานน้ำตาลเปิดหีบอ้อยแล้ว 58 โรงงาน มีปริมาณอ้อยเข้าหีบ 15.74 ล้านตัน แบ่งเป็นอ้อยสด 12.26 ล้านตัน คิดเป็น 77.88% และอ้อยถูกลักลอบเผา 3.48 ล้านตัน คิดเป็น 22.12% จากปริมาณอ้อยที่ถูกลักลอบเผาดังกล่าว เปรียบเสมือนไฟไหม้ป่ากว่า 348,000 ไร่ สร้างผลกระทบต่อประชาชนและชุมชนในวงกว้าว ซึ่ง สอน. ได้คาดการณ์ปริมาณอ้อยเข้าหีบในฤดูการผลิตปี 2567/68 ที่ 93.17 ล้านตัน หากตัวเลขการลักลอบเผาอ้อยยังอยู่ในระดับคงที่อย่างต่อเนื่องจนปิดหีบอ้อย คาดว่าจะมีพื้นที่ปลูกอ้อยที่ถูกลักลอบเผากว่า 2.06 ล้านไร่ ซึ่งจะก่อให้เกิดควันและฝุ่น PM 2.5 สร้างมลพิษทางอากาศเป็นอย่างมาก 

“ผมได้กำชับให้กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งลงมือกำกับดูแลปัญหานี้อย่างจริงจังหยุดรับอ้อย ทำให้ฝุ่นลดลงอย่างรวดเร็ว เพื่อคืน “ฟ้าใส ไร้ฝุ่น PM2.5” ให้กับพี่น้องคนไทย ทั้งนี้ ผมเชื่อมั่นว่ามาตรการต่างๆ ที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดำเนินการมาแล้วนั้น จะเห็นผลสัมฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย ถ้าทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ประชาชน และเอกชน ตระหนักและยอมรับข้อเท็จจริง โดยร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขปัญหาในบริบทที่เกี่ยวข้องกับตนเองอย่างเต็มกำลังความสามารถ จะทำให้อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้แก่เกษตรกรชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาล บนพื้นฐานของการไม่สร้างผลกระทบต่อประชาชน สังคม และสิ่งแวดล้อม และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ได้คืน “ฟ้าใส ไร้ฝุ่น PM2.5” ให้แก่ประชานชนคนไทยอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ที่ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือเดินทางท่องเที่ยวเพื่อฉลองเทศกาลปีใหม่ ซึ่งพื้นที่ภาคกลางและภาคอีสานที่มีพื้นที่ปลูกอ้อยและมีโรงงานน้ำตาลทรายอยู่หนาแน่น ส่งผลกระทบจากปัญหาฝุ่นควันการเผาอ้อย ก็จะทุเลาลง มีอากาศที่สะอาด ไม่มีมลภาวะฝุ่น PM2.5 กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวเดินทางมากขึ้น ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวได้ลืมตาอ้าปาก มีโอกาสในการประกอธุรกิจในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญช่วงปีใหม่ อาทิเช่น เขาใหญ่ มอหินขาว ทุ่งดอกกระเจียว ภูผาม่าน เชียงคาน ภูกระดึง เป็นต้น เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศในช่วงเทศกาลปีใหม่มากขึ้นด้วย” นายเอกนัฏกล่าว

#เอกนัฏพร้อมพันธุ์ #โรงงานน้ำตาล #ปีใหม่ #PM25 #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์