วันที่ 30 ธ.ค.2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงการทำงานของกระทรวงมหาดไทยตลอด1ปีที่ผ่านมา จะสลายขั้วอำนาจเดิมในกระทรวงได้หรือไม่ว่า ตนยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหากับใคร อาจมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่งานไม่เคยเสีย ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา ต่อให้มีความเห็นไม่ตรงกัน ระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายประจำ แต่งานบริการประชาชนยังร้อยเปอร์เซ็นต์ ตรงนี้อย่าไปกังวล ระบบดีเราทำงานที่ระบบไม่ใช่ตัวบุคคล ตนตอบอย่างนี้ไม่พอใจหรือไม่
เมื่อถามย้ำถึงการสลายขั้วอำนาจเก่าในกระทรวงมหาดไทย ได้ทำแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวย้อนถามว่า อำนาจเก่าคืออะไร สื่อจึงตอบกลับว่า อำนาจเก่า คนเก่า นโยบายเก่า ที่วางไว้ อย่าง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมต่างๆ ในขณะนี้ ก็เป็นคนเก่าในกระทรวงมหาดไทยทั้งหมด เพียงแต่ต่อให้เป็นปลัดเก่าหรือปลัดใหม่ ถ้าตนสั่งการ หรือมีนโยบายที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ไม่ต้องทำ แต่ถ้าชอบด้วยกฎหมายที่เป็นประโยชน์ ก็ต้องทำ ใครไม่ทำก็ต้องมีความผิด
เมื่อถามว่า ในยุคต่อไปจะไม่เกิดเหตุการณ์ผู้ว่าราชการจังหวัดทำงานแบบเกียร์ว่างอีกใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบกลับทันทีว่า ตอนนี้ เข้าเกียร์ 5 คว้าเกียร์ 6 ยกเกียร์ 7 เสร็จเกียร์ 8 เกียร์ 9 เข้าเกียร์ 10 ทุกอย่างมีความชัดเจน เวลาที่ผ่านไปทุกคนพิสูจน์ให้สังคมเห็น ว่าเข้ามาร่วมกันทำงานให้กับประชาชนและประเทศชาติ ไม่มีตรงไหนที่ทำให้ตัวเองความเชื่อถือ การยอมรับ ความผูกพัน ที่สร้างขึ้นมา ทุกๆ วันออกมาในเรื่องของการทำงาน คือผลของการทำงานที่ดีวันนี้เราครบหมดแล้ว ทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด ปฏิบัติตามข้อเสนอของปลัดกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเมื่อเสนอมา ตนก็เห็นว่าเหมาะสม มีคละเคล้ากันไปทั้งอาวุโสและความสามารถ มีเวลาในการทำงาน ถ้าจะกำหนดเป็นค่า KPI ก็กำหนดได้ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่าการทำงานของกระทรวงมหาดไทยจะไม่มีแตกแถวใช่หรือไม่และหากแตกแถวจะทำอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า มันจะไม่มี ด้วยวิธีการทำงานของตน มีแต่คนมาเข้าแถวเพิ่มมากขึ้น เพราะว่าสนุกและเห็นๆ อยู่ว่า ตนไม่ได้สนุกคนเดียว แต่ทุกคนสนุกไปด้วย ทุกคนได้เห็นชาวบ้าน ได้เห็นประชาชน ได้เห็นความทุกข์ ได้เห็นความสุข ได้เห็นน้ำตา ได้เห็นรอยยิ้ม ของพวกนี้เวลาทำงานไปเรื่อยๆ ก็จะเข้าไปในจิตสำนึกของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทุกคน กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงที่ราชการระดับสูงต้องลงพื้นที่ สุมหัวลงพื้นที่ด้วยกัน เวลาตนลงพื้นที่ต้องมีปลัดกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีไปด้วย จะได้ไม่ต้องสั่งการด้วยตนเอง จะมีการดำเนินการสั่งการในสายงาน ไปด้วยความเรียบร้อย จะมีผลงานออกมาตลอด ดังนั้นเรื่องของคำว่า แตกแถว นับจากวันนี้เป็นต้นไปก็คงไม่มีและคงไม่น่าจะกล้าด้วย
เมื่อถามว่าจะมีวิธีการจัดการอย่างไร หากไม่สนองงานรัฐมนตรีอย่างเช่นยุคที่ผ่านมา รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย กล่าวว่า ไม่ต้องห่วงเพราะมีวิธีร้อยแปดพันเก้า แต่เชื่อว่าจะไม่มี จนกว่าตนจะไปจากตำแหน่งนี้