ครบ 22 ปีวันสถาปนากรมสอบสวนคดีพิเศษ "มุ่งมั่นปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ที่พึ่งประขาชน "กวันที่ 3 ต.ค.ของทุกๆปี ดำรงตนตามเจตนารมณ์ 
“เกียรติศักดิ์ เชี่ยวชาญ ซื่อสัตย์” "สืบเนื่องจากสถานการณ์ของโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วการพัฒนาด้านเทคโนโลยีส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคมการเมืองวัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม ตลอดถึงการก่ออาชญากรรม ซึ่งพัฒนาจากการใช้ความรุนแรง เป็นอาชญากรรมที่ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจที่มีมูลค่ามหาศาล ส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก การใช้เทคโนโลยีคุณภาพสูงและช่องว่างของกฎหมายปิดบังความผิดของตน มีอิทธิพลและเครืองข่ายองค์กร โยงใยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ทำให้ยากต่อการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดี จึงต้องมีการจัดตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษขึ้นโดยอยู่ภายใต้สังกัดกระทรวงยุติธรรม ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2545 ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2545 ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า “DEPARTMENT OF SPECIAL INVESTIGATION” มีชื่อย่อว่า “DSI” ซึ่งมีบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญในด้านต่าง ๆ พัฒนารูป แบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพ เป็นองค์กรหนึ่งซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ในการปฏิรูประบบราชการ ทำให้ประชาชนและประเทศชาติได้รับความเป็นธรรมและประโยชน์สูงสุด  
 หน่วยงานในสังกัดสำนักงานเลขานุการกรม-กองกฎหมาย-กองกิจการต่างประเทศและคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ-กองคดีการค้ามนุษย์ กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน-กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ-กองคดีความมั่นคง-กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค-กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม-กองคดีทรัพย์สินทางปัญญา-กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ-กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ-กองคดีภาษีอากร-กองเทคโนโลยีและศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ-กองนโยบายและยุทธศาสตร์-กองบริหารคดีพิเศษ-กองปฏิบัติการคดีพิเศษภาค-กองปฏิบัติการพิเศษ และ กองพัฒนาและสนับสนุนคดีพิเศษ ​​​​​​​
  ครบรอบ 22 ปีวันสถาปนากรมสอบสวนคดีพิเศษ "มุ่งมั่นปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ที่พึ่งประขาชน "ทุกวันที่ 3 ต.ค.ของทุกๆปี โดยในปีนี้ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะผู้บริหาร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกันทำบุญถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ จำนวน 11 รูป เพื่อความเป็นศิริมงคล เนื่องในวันครบรอบวันสถาปนากรมสอบสวนคดีพิเศษ ปีที่ 22  และได้ปฏิญาณตน “ข้าราชการและบุคลากร DSI ไร้ทุจริต” โดยประกาศคำมั่นสัญญา และแสดงเจตนารมณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความ “ซื่อสัตย์ สุจริต” มุ่งมั่นในการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ  พร้อมยืนหยัดเคียงข้างพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษอำนวยความยุติธรรม ปกป้องผลประโยชน์และความผาสุกของสังคมโดยรวม และดำรงตนตามเจตนารมณ์ “เกียรติศักดิ์ เชี่ยวชาญ ซื่อสัตย์”
 สำหรับหรับงานครบรอบ 22 ปีวันสถาปนากรมสอบสวนคดีพิเศษ ปีนี้ได้รับเกียรติจาก พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอบต. ผู้บริหารระดับกระทรวง อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม และอดีตผู้บริหารของกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าร่วมแสดงความยินดีด้วย และร่วมบริจาคเงินมอบให้กองทุนสวัสดิการกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ด้านสวัสดิการแก่เจ้าหน้าที่
 พันตำรวจตรี ยุทธนา  กล่าวว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2545 ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พุทธศักราช 2545 มีชื่อภาษาอังกฤษว่า “DEPARTMENT OF SPECIAL INVESTIGATION” หรือ “DSI” นับตั้งแต่การจัดตั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษจนถึงปัจจุบัน ได้ปฏิบัติหน้าที่อันเป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติ สามารถปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญาที่เป็นคดีพิเศษ อำนวยความยุติธรรมอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จนมีผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ จำนวน 204 คดี มูลค่าความเสียหายและผลประโยชน์ที่สามารถรักษาเรียกคืนแก่รัฐ ประชาชนและเอกชน รวมทั้งสิ้นกว่าห้าหมื่นแปดพันล้านบาท  ​​​​​​​
 มีการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งมีคดีที่สำคัญ อาทิ การลักลอบนำเข้ารถยนต์หรูเลี่ยงภาษีและรถถูกโจรกรรมจากต่างประเทศ มูลค่าความเสียหาย 1,800 ล้านบาท ส่งรถที่ถูกโจรกรรมคืน จำนวน 31 คัน ขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย (หมูเถื่อน) มูลค่าความเสียหาย 460 ล้านบาท ดำเนินคดีกับหน่วยงานเอกชนและเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 12 คดี คดีทุจริตของกรรมการบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มูลค่าความเสียหาย 14,778 ล้านบาท ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 11 ราย บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) มูลค่าความเสียหาย 800 ล้านบาท ฉ้อโกงประชาชนโดยการเทรดเงินตราต่างประเทศผ่านโบรกเกอร์ UAG Trade ลงทุนผ่านบริษัท ลีโอไนน์ โกลบอล จำกัด มูลค่าความเสียหาย 225 ล้านบาท บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนางและป่าหางนาค จำนวน 4 คดี บุกรุกพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขากมลา มูลค่าความเสียหาย 100 ล้านบาท ขบวนการลักลอบจัดหาหญิงไทยเพื่อรับจ้างตั้งครรภ์แทน (อุ้มบุญ) โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย การดำเนินคดีกับ 8 ตำรวจ สภ.สระแก้ว กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ (ลุงเปี๊ยก) เป็นต้น... ​​​​​​​
 กรมสอบสวนคดีพิเศษพร้อมปกป้องผลประโยชน์และความผาสุกของสังคมโดยรวม และดำรงตนตามเจตนารมณ์ “เกียรติศักดิ์ เชี่ยวชาญ ซื่อสัตย์” .
 ภักดี วีระรัตน์