เผยแชทสุดท้ายสาวอุดรวัย 45 คุยกับหลานสาวนั่งเครื่องกลับยังเกาหลี แม่กลับก่อนเด้อก่อนติดต่อไม่ได้ หลานสาวบอกสุดเป็นห่วงสุดท้ายรู้ข่าวร้ายเครื่องบินที่อานั่งไปไถลรันเวย์จนเสียชีวิต ผู้ว่าฯ เป็นห่วงรุดให้กำลังใจครอบครัว
วันนี้ (29 ธ.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากโศกนาฏกรรม สายการบิน “เจจูแอร์” ไถลออกนอกรันเวย์และระเบิด ที่สนามบินมูอัน ภาคตะวันตกเฉียงใต้ ของเกาหลีใต้ เบื้องต้นลูกเรือชายและหญิง 2 คน รอดชีวิต ส่วนผู้โดยสาร 175 คน เสียชีวิต ในจำนวนนี้มีคนไทย 2 รายที่เสียชีวิต คือ น.ส.ศิริธร หรือ “น้องเหมย” อายุ 22 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งกำลังเดินทางไปเยี่ยมแม่ที่ประเทศเกาหลีใต้ และ น.ส.จงลักษณ์ ชาวบ้านหนองแสง ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ที่กำลังเดินทางไปทำงานที่เกาหลีใต้หลังจากไปส่งสามีชาวเกาหลีใต้กลับก่อน แต่สุดท้ายเกิดแหตุสลดเสียชีวิตพร้อมกับผู้โดยสาร 175 ราย
น.ส.บุญสิตา หรือ นาง อายุ 18 ปีหลานสาวของน.ส.จงลักษ์ ได้นำข้อความแชททางเฟสบุ๊คที่ น.ส.จงลักษ์ ซึ่งเป็นอาให้ผู้สื่อข่าวดู เป็นช่วงเวลา 23.50 น. โดย น.ส.จงลักษ์ ได้ทักมาหาน.ส.บุญสิตา มีข้อความว่า นอนหรือยัง แม่กลับก่อนเด้อ โดยหลานสาวได้ตอบกลับไปว่า กำลังสินอนมื่ออื่นเฮ้ดโรงทาน เดินทางปลอดภัยจ้า ต่อมาวันนี้เวลา 10.23 น.น.ส.บุญสิตาได้ทักไปกลับไปว่า ฮอดไป่แม่จง เขาคือว่าเครื่องบินระเบิด และหลานสาวพยายามโทรหาแต่ก็ไม่มีใครรับสาย
โดยหลานสาว เปิดเผยกับนักข่าวด้วยน้ำตาคลอ บอกว่า เมื่อคืนอาทักเฟสมาบอกว่า แม่กลับก่อนเด้อ ตอนเช้าไม่เห็นติดต่อกลับมา หนูก็เลยเอะใจ จึงโทรไปหาแต่ไม่มีการตอบกลับ จึงรู้ว่าอาเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตในเครื่องบินลำที่ลื่นไถลรันเวย์ หนูกับคุณอาสนิทกันมาก โทรคุยกันทุกวัน โดยอาก็อยากจะวนไปทำงานด้วยแต่หนูเพิ่งอายุ 18 ปี พวกหนูญาติๆ ก็อยากได้ศพอามาบำเพ็ญที่บ้านเกิด ผู้เป็นหลานพูดไปก็น้ำตาคลอเบ้า
ขณะเดียวกัน นายราชันย์ ซุนฮั้ว ผวจ.อุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.สรายุทธ ฉ่ำผิว ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ฝ่ายอำเภอและเจ้าหน้าที่พมจ.อุดรธานี ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านการช่วยเหลือเยียวยาและประสานนำศพกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านตามความประสงค์ของญาติ