นครพนม ขับเคี่ยวหนัก ศึกเลือกตั้ง อบจ.นครพนม เพื่อไทย ส่ง อนุชิต หงษาดี ผู้สมัคร นายก อบจ.ตัวเต็งการเมืองท้องถิ่น ประกาศล้มแชมป์ ลูกสาวสหายแสง นายกขวัญ ศุภพานี โพธิ์สุ อดีตนายก อบจ.นครพนม แชมป์เก่า เปิดศึกวัดบารมี ชี้อนาคต ครอบครัวโพธิ์สุ ฝ่าวิบากกรรม ที่ดินป่าดงพะทาย แกนนำครอบครัวภูมิใจไทย ชนกับเพื่อไทย ท้าพิสูจน์ผลงานแชมป์เก่า 4 ปี หากไม่ชัด โอกาสเสียแชมป์สูง
ต้องบอกว่า ขับเคี่ยวกันหนักสำหรับศึกเลือกตั้ง อบจ.นครพนม มีเพียงสองขั้วการเมือง เท่านั้นที่มีโอกาสคว้าเก้าอี้ นายก อบจ.นครพนม ถึงแม้จะมีผู้สมัคร นายก อบจ.มากถึง 8 ราย แต่เชื่อว่า มีเพียงขั้วแชมป์เก่า กับขั้วพรรคเพื่อไทย เท่านั้นที่มีโอกาสชิงชัยชนะได้ ด้วยปัจจัยพื้นฐาน และบารมีทางการเมือง สุดท้ายหนีไม่พ้น ศึกวัดบารมี แกนนำภูมิใจไทย กับพรรคเพื่อไทย ถึงแม้ นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ อดีตนายกขวัญแชมป์เก่า ผู้สมัคร นายก อบจ.หมายเลข 2 จะไม่ส่งในนามพรรค แต่ในฐานะลูกสาว สหายแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีต ส.ส.เขต 1 นครพนม พรรคภูมิใจไทย จึงหนีไม่พ้นถูกมองว่า เป็นฐานคะแนน ภูมิใจไทย
นอกจากนี้การเลือกตั้ง ศึก อบจ.นครพนม เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า มีส่วน ที่ อดีตนายกขวัญ แชมป์เก่า ได้ฐานการเมือง จากพ่อ คือ สหายแสง ยังมีตำแหน่ง เป็น ส.ส.เขต 1 พรรคภูมิใจไทย และยังได้ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง เสริมทัพด้วย นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ ส.ส.เขต 3 นครพนม พรรคภูมิใจไทย รวมถึง นายชูกัน กุลวงษา ส.ส.เขต 4 นครพนม พรรคภูมิใจไทย เคยมาเสริมเป็นทีมบริหาร รองนายก อบจ.นครพนม ในช่วงที่ว่างจากตำแหน่ง และลาออกหลังชนะการเลือกตั้ง อบจ.นครพนม มาลงสมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ภายหลัง ทำให้มีการเปลี่ยนตัวรองนายก อบจ.นครพนม มาตลอด
ส่วนขั้วเพื่อไทย รอบนี้เอาจริง ส่ง นายอนุชิต หงษาดี หรือเบียร์ อดีตนายก อบต.โพนสวรรค์ อดีต ส.อบจ. ถือเป็นตัวแทนการเมืองท้องถิ่น ครอบครัวเพื่อไทย ที่อาสามาลงสมัคร ชิง นายก อบจ.นครพนม ได้เบอร์ 8 ในนาม ทีมฮักนครพนม อีกทั้งยัง มีทีมบริหารไม่ธรรมดา คือ นายดนัย สิทธิวัชระชัย หรือนายกโว่ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านแพง 3 สมัย รวมถึง นายชาญชัย คำจำปา อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลพระซอง อ.นาแก มาร่วมทีม สำคัญที่สุด ยังมี นางมนพร เจริญศรี ส.ส.เดือน รมช.คมนาคม ส.ศ.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย เป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย คอยผลักดันสนับสนุน สร้างฐานคะแนนการเมือง มาตลอด จนต้องบอกว่า เป็นศึกวัดบารมี พรรคเพื่อไทย กับ พรรคภูมิใจไทย
หากพูดถึงเรื่องคะแนนนิยม ทั้งคนทั้งพรรค ต้องยอมว่า ทีมฮักนครพนม พรรคเพื่อไทย มีความได้เปรียบ เพราะเป็นตัวแทนรัฐบาล อีกทั้ง นครพนม เคยเป็นฐานที่มั่น ของพรรคเพื่อไทย มาตลอด แค่มาเสียเก้าอี้ หลังมีการปฏิวัติรัฐประหาร และมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ล่าสุดเมื่อปี 2566 จนเกิดปรากฏการณ์ เลือดไหลไม่หยุด ทำให้พื้นที่เลือกตั้ง นครพนม 4 เขต มี ผู้แทน พรรคเพื่อไทย 2 เขต และ ภูมิใจไทย อีก 2 เขต
ย้อนไปถึงศึกวัดบารมี พรรคเพื่อไทย กับ พรรคภูมิใจไทย เมื่อปี 2566 ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ผ่านมา เกิดศึกศักดิ์ศรีครั้งใหญ่ ระหว่าง สหายแสง นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีต ส.ส.เขต 1 นครพนม พรรคภูมิใจไทย หวังสร้างฐานอำนาจข้ามเขต มาลงชิงชัย กับแชมป์เก่า ในพื้นที่ เขต 2 คือ นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ส.ส.เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย และ ส่งภรรยา คือ ครูพูนสุข โพธิ์สุ ลงแทน ในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 หวังควบสองเขต สร้างบ้านใหญ่ภูมิใจไทย แต่ สหายแสง พลาดท่าพ่ายการเลือกตั้ง ทั้งสองคน แต่ยังโชคดี ได้เก้าอี้ ส.ส.ภูมิใจไทย ในเขตเลือกตั้งที่ 3 กับ 4 ส่วน พรรคเพื่อไทย เสียแชมป์
กลับมาดูการเลือกตั้ง ศึก อบจ.นครพนม ครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการวัดบารมี ของพรรคเพื่อไทย กับพรรคภูมิใจไทย อีกทั้งยังเป็นการชี้อนาคตการเมืองของ สหายแสง รวมถึงครอบครัวโพธิ์สุ นอกจากไม่มีตำแหน่งทางการเมือง อีกทั้งยังเจอวิบากกรม ปมการครอบครอง ป่าดงพะทาย พ่นพิษ ปปช.ชี้มูลมีความผิดเกี่ยวกับปัญหาการครอบครองที่ดิน อยู่ระหว่างขบวนการของกฎหมาย ยังไม่รู้ชะตากรรม มีเพียงลูกสาว เท่านั้น ที่เป็นความหวัง หากผลงาน นายก อบจ.แชมป์เก่า ไม่ชัดเจน โอกาสที่เสียตำแหน่ง ให้พรรคเพื่อไทย สูง เพราะ มีทั้งบารมี กระแสความนิยมพรรค ที่สำคัญอาจเป็นแรงจูงใจ ให้ประชาชน อยากได้คนของพรรคเพื่อไทย มานั่ง นายก อบจ.นครพนม เพื่อสานต่อนโยบายรัฐบาล กลางเพื่อไทย กับรัฐบาลท้องถิ่น