จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท. บุกจับ นายธีระวัฒน์ ศรีรอด อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 6437/2567 ลง 27 ธันวาคม 2567 ข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ชึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้” กรณีนำคลิปที่มีน้องแบงค์ เลสเตอร์ ในลักษณะลามกไปเผยแพร่ในโลโซเชียล ซึ่งถูกจับกุมได้ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งใน ต. ธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ช่วงบ่ายวานนี้ ก่อนถูกนำมาฝากควบคุมตัวที่สน.ทุ่งสองห้อง
ความคืบหน้าที่สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อช่วงเช้าตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ได้คุมตัวนายธีระวัฒน์ ศรีรอด หรือ ‘เบิร์ด วันว่างว่าง’ ออกจาก สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ หลังจากมีข้อมูลและปรากฎคลิปว่า นายเบิร์ด วันว่างว่าง ถูกทำร้ายร่างกายเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 27 ธ.ค. ก่อนที่จะถูกตำรวจจับกุมตัวช่วงบ่ายวันที่ 28 ธ.ค. ซึ่งถือเป็นการตรวจร่างกายตามขั้นตอนก่อนที่ในวันพรุ่งนี้จะคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาและหลังตรวจร่างกายเสร็จสิ้น ตำรวจก็พากลับเข้าห้องขังที่ สน.ทุ่งสองห้องทันที
ต่อมามีเพื่อนของ ‘นายเบิร์ด วันว่างว่าง’ 2 คน เดินทางเข้ามาขอเข้าเยี่ยมนายเบิร์ด และได้ซื้อข้าวมันไก่มาให้ ซึ่งใช้เวลาเข้าเยี่ยมประมาณ 10นาที จากนั้นเมื่อหมดเวลาเยี่ยมทั้งสองคนเดินทางกลับ นักข่าวพยายามสอบถามว่ามีการพูดคุยอะไรกับนายเบิร์ดบ้าง ได้พูดถึงเรื่องที่ถูกทำรัายร่างกายหรือไม่ โดยเพื่อนนายเบิร์ด บอกเพียงสั้นๆว่าต้องคุยกับเบิร์ดเอง ส่วนเจ็บตรงไหนหรือไม่ ตนเองไม่รู้เลย แต่เห็นในข่าวว่า แล้วเขาก็บอกว่าโดนจริง ซึ่งตนเองรู้หรือไม่ว่าใคร เพื่อนนายเบิร์ดบอกไม่รู้ว่าใคร เท่าที่คุบกันเบิร์ดก็ไม่ได้เป็นห่วงอะไร และไม่ได้ฝากอะไรเป็นพิเศษ ส่วนจะประกันตัวหรือไม่ให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เขาคุยกัน
ทั้งนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมามีเอฟซีของนายเบิร์ด วันว่างๆ ซึ่งเป็นไรเดอร์ ได้ซื้อข้าวผัดหมูกรอบมาให้นายเบิร์ดจำนวน 1 กล่อง แต่มีคนแนะนำนายเบิร์ดไว้ว่า ‘อะไรที่ไม่ใช่ของเพื่อนหรือญาติอย่ากิน’ ทำให้ นายเบิร์ดไม่ได้กินข้าวผัด ที่เอฟซีซื้อมาให้ เจ้าหน้าที่จึงได้นำมาวางไว้นอกห้องควบคุม
ต่อมาเวลา 12.35 น. ตำรวจได้นำตัวเบิร์ด ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อไปตรวจร่างกายอีกครั้งซึ่งรอบนี้ นายเบิร์ด ตอบคำถามนักข่าวถึงความกังวลใจเรื่องงานบวชให้กับน้องแบงค์ โดยบอกว่า มีความตั้งใจที่จะบวชให้น้องแบงค์เหมือนเดิม เพราะรับปากแม่กับยายของน้องแบงค์ไว้แล้ว และไม่ได้กังวลเรื่องอะไร อยากจะบวชให้น้องแบงค์อย่างเดียว
ส่วนกังวลหรือไม่ว่าจะบวชไม่ทันงานศพของน้องแบงค์ นั้นมองว่า ก็ขึ้นอยู่กับทางศาลว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ซึ่งถ้าศาลไม่ให้ประกันตัว ก็ตั้งใจว่าหากได้ประกันตัววันไหนหรือได้ออกมา ก็จะบวชให้น้องภายหลังทันที โดยยืนยันว่าจะบวชให้อย่างแน่นอน แต่มาโดนตำรวจจับก่อน ซึ่งตนเองไม่ได้มีเจตนาที่จะหนี รับปากอะไรไว้จะทำให้แน่นอน “ใครไม่มีมาอยู่ตรงนี้ ก็ไม่รู้หรอกว่าผมไม่สามารถออกไปทำในสิ่งที่ตั้งใจได้”
ทั้งนี้ส่วนตัวอยากให้ กัน จอมพลัง เป็นคนกลาง ในการประสานกับวัด เพื่อเตรียมพร้อมให้ตนเองได้บวชหากได้รับการประกันตัวออกมาทันในวันพรุ่งนี้ และไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร เราไปบวชด้วยเจตนาที่ตั้งใจไว้
ส่วนเรื่องเงินเยียวยาครอบครัวน้องแบงค์ นายเบิร์ด บอกว่า มีผู้ใหญ่แนะนำว่าไม่ต้องไปกังวลเรื่องการช่วยเหลือ เพราะมีคนคอยซัพพอร์ตอยู่แล้ว ทำให้ตนเองพุ่งเป้ามาในสิ่งที่รับปากไว้คือเรื่องการบวชมากกว่า
ส่วนประเด็นที่ถูกทำร้าย นายเบิร์ด บอกว่า ‘ผมไม่อยากพูดถึง ให้มันผ่านไป เพราะได้รับผิดในสิ่งที่ทำแล้ว’ ส่วนเรื่องคดีที่ถูกตำรวจไซเบอร์จับนั้น ตนเองได้ให้ปากคำกับตำรวจไปหมดแล้ว ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ทั้งนี้นายเบิร์ด ยอมรับว่า ยังไม่รู้จะประกันตัวยังไงเพราะส่วนตัวไม่มีญาติพี่น้อง อยู่ตัวคนเดียว
ขณะเดียวกันช่วงบ่าย เพื่อนรุ่นน้องที่สนิทกับนายเบิร์ด ได้นำอาหารเที่ยงเป็นไก่ทอด และเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนชุด ซึ่งทางตำรวจได้ทำการตรวจสอบเสื้อผ้าโดยละเอียดตามขั้นตอน ก่อนจะนำไปให้กับผู้ต้องหาด้วย เพื่อป้องกันอาวุธหรือสิ่งของต้องห้ามต่างๆ
โดยนายว่าน เพื่อนรุ่นน้องของนายเบิร์ด บอกว่า วันนี้ตั้งใจมาเยี่ยมและนำเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน และเอามาเผื่อไว้ให้ 3ชุด ส่วนตัวสนิทกับนายเบิร์ด อยู่แล้วเพราะนายเบิร์ดให้กุญแจบ้านของเขาไว้ ตนเองสามารถเข้าออกบ้านได้ ทั้งนี้ยอมรับว่า ก็เป็นห่วงนายเบิร์ดปกติ เพราะเขาเจอแบบนี้ก็คงรู้สึกแย่ และเขาอยู่ตัวคนเดียว ไม่ได้มีใคร มีแค่เพื่อนๆเท่านั้น ส่วนเรื่องการประกันตัว ยังไม่ได้คุยกันเพราะนายเบิร์ดไม่มีใคร ส่วนใครจะเข้ามาข่วยเรื่องประกันตัว ก็คงต้องดูอีกที หากจำเป็นต้องประกันตัว ก็คงจะต้องยื่นประกัน แต่คงต้องคุยกับนายเบิร์ดถึงรายละเอียดต่างๆก่อน
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นยังไม่ได้คุยกัน และตนเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ตามที่ปรากฎเป็นคลิปเลยสักครั้ง ส่วนที่โดยทำร้ายร่างกาย ตนเองก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ และนายเบิร์ด ก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง แต่ก็เป็นห่วงและต้องรอดูอีกทีว่าพี่จะเป็นยังไงบ้าง
ขณะที่ ร.ต.ท.อุทัย แก้วสมบัติ รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่สิบเวรห้องควบคุมผู้ต้องหา ได้นำกล่องอาหารของนายเบิร์ด ที่มีเอฟซีนำมาให้ตอนเข้า ออกมาจากห้องขังเนื่องจากนายเบิร์ด ไม่ได้กิน โดย ร.ต.ท.อุทัย บอกว่า เขาคงไม่กล้ากินเพราะมีคนบอกไว้ว่าให้กินของเพื่อนเท่านั้น ซึ่งคนที่นำอาหารมาให้ เขาบอกแค่ว่าเป็นเอฟซี ของนายเบิร์ด และนำอาหารมาให้อย่างเดียวซึ่งก็ไม่ได้ให้เข้าเยี่ยมเนื่องจากคนที่จะเข้าเยี่ยมได้จะมีแค่ญาติกับเพื่อนเท่านั้นที่ผู้ถูกควบคุมอนุญาติเท่านั้น