วันที่ 29 ธ.ค.67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "เทพไท - คุยการเมือง" ระบุว่า...
ทักษิณ พบ อันวาร์
ไม่ใช่ดราม่า แต่เจตนาไม่สุจริต
มีการวิพากษ์วิจารณ์แสดงความเห็นเกี่ยวกับกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร พบกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย ในมุมมองที่แตกต่างกัน จนแกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคน ต้องเรียงหน้าออกมาปกป้องนายทักษิณ ว่าเป็นเจตนาดีต่อประเทศชาติ อย่ามองเป็นดราม่านั้น
ส่วนตัวเห็นว่า เมื่อนายทักษิณได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาของประธานอาเซียน คือนายอันวาร์ อิบราฮิมแล้ว ก็เป็นสิทธิ์ของประธานอาเซียน จะปรึกษาหารือกับที่ปรึกษาส่วนตัว เพียงแต่การพบกันควรจะพบกันในที่เปิดเผย ไม่ลับๆล่อๆ หรือทำตัวเป็นอีแอบให้สังคมสงสัยว่า มีลับลมคมในอะไรในการพบกัน และแอบตกลงในเรื่องอะไรกันแน่
ในเมื่อต่างฝ่ายต่างก็บริสุทธิ์ใจ ทำไมไม่พบกันในที่เปิดเผย ในลักษณะที่เป็นทางการ เว้นแต่การพบกันครั้งนี้เป็นการงุบงิบทำเรื่องที่ไม่ตรงไปตรงมา และไม่สามารถเปิดเผยต่อสาธารณะชนได้ ยิ่งทำให้ประชาชนสงสัย และตั้งข้อสังเกตมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อท่าทีและความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ที่ยังอยู่ในสถานะผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ศาลอาญาอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว แต่ไม่อนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ
ดังนั้นการพบกันระหว่างนายทักษิณกับนายอันวาร์ ได้ถูกสังคมตั้งคำถามว่า พบกันที่ไหน พบกันบนเรือยอร์ชจริงหรือไม่ พบกันในน่านน้ำสากล หรือน่านน้ำไทยกันแน่ ซึ่งข้อเท็จจริงของสถานที่ในการพบกัน มีผลต่อการกระทำผิดกฎหมาย ของนายทักษิณอย่างปฎิเสธไม่ได้
ผมคิดว่า ถ้านายทักษิณบริสุทธ์ใจจริงๆ ก็สามารถพบกับนายอันวาร์ได้ในทุกสถานที่ของประเทศไทย ซึ่งนายอันวาร์เอง ก็เคยเดินทางมาประเทศไทยอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ตหรือหาดใหญ่ ก็สามารถพบกันได้ และไม่มีใครไปขัดขวางการพบกันของนายทักษิณกับนายอันวาร์อย่างแน่นอน เพราะการเมืองไทยในตอนนี้ นายทักษิณคือผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐบาลชุดนี้ และศูนย์กลางอำนาจการเมืองไทย ที่ใครๆไม่สามารถปฏิเสธได้
จึงขอเรียกร้องให้นายทักษิณทำอะไรตรงไปตรงมา อย่าลับๆล่อๆ หรือทำตัวเป็นอีแอบเสียเอง จนทำให้สังคมเกิดความสงสัยได้