วันที่ 28 ธ.ค. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงคดีความต่างๆ ที่โดนร้องเรียนอยู่ในขณะนี้ ปลายทางจะสิ้นสุดในปี 2568 มองว่าจะทำให้รัฐบาลนี้อายุสั้นหรือไม่ว่า ยังไม่ทันทำอะไรเลย คิดว่ารัฐบาลนี้ผิดแล้วหรือ สิ่งที่ร้องเรียนมาไม่มีความผิดก็เยอะ ตนมองว่าอย่าด่วนตัดสินใจ และไปประเมินบนฐานที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงต้องให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไป และถึงแม้ว่าจะผิดหรือไม่นั้นก็มีทางทางออก
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สมมุติกระบวนการที่นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เผชิญ กลไกของรัฐธรรมนูญและประชาธิปไตยก็ยังทำงานได้ ซึ่งในส่วนของพรรคเพื่อไทย ยังมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ในบัญชีรายคนที่ 3 ถ้าหากเราโชคร้ายและเกิดกระบวนที่มีปัญหาหากมองว่าคนที่ 3 ไม่เหมาะสม พรรคการเมืองต่อไป คนที่ 1-2 ก็ยังทำหน้าที่ได้ เพราะกระบวนการประชาธิปไตยเราไม่ใช่เจ้าของสิทธิ์ เราเป็นเพียงเจ้าของสิทธิ์เพียงคน 3 คน ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้หากความร่วมมือในการแก้ปัญหายังไม่มีความขัดแย้งก็สามารถเดินต่อได้ เพราะประชาธิปไตยไม่ได้ผูกขาดไว้ที่ใคร
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ส่วนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาคู่ขนานช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียงเลือกตั้ง มองว่าในอนาคตอย่างไรบ้าง นายภูมิธรรม ระบุว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่านายทักษิณ มีความห่วงใย มีใจเชียร์ให้กับพรรคเพื่อไทยประสบความสำเร็จ การที่เคยเป็นบุคคลก่อตั้งพรรคไทยรักไทย และพัฒนาการมาเป็นพรรคเพื่อไทย ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าความสัมพันธ์ของคนในองค์กรรู้สึกดีต่อกัน หรือแม้กระทั่งประชาชนที่อยู่ข้างนอกยังชื่นชมในวิธีการจัดการปัญหาของนายทักษิณไม่น้อย
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ฉะนั้นถ้ากฎหมายเปิดให้มามีบทบาทหรือช่วยเหลือพรรคได้ ก็ถือว่าเป็นไปตามกระบวนการ แต่ถ้ากฎหมายไม่เปิดโอกาสก็ไม่สามารถมาร่วมได้ วันนี้ไม่ใช่เพียงแค่พรรคเพื่อไทย แต่พรรคประชาชนก็ยังมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยะบุตร แสงกนกกุล ก็เข้ามามีส่วนร่วมด้วย จึงอยากกราบเรียนว่า การเข้ามาของนายทักษิณ สามารถเข้ามาช่วยได้ในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่งตามกรอบกฎหมายที่อนุญาต และย้ำว่าการที่นายทักษิณ เข้ามาช่วยมีทั้งด้านบวก คือคนที่ศรัทธาเห็นชอบก็พร้อมที่จะสนับสนุนในสิ่งที่เขาสนับสนุนด้วย ส่วนด้านลบ หากไม่ชอบก็จะมีการคัดค้านซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว อย่ามองเกินไปว่าจะเกิดความไม่ดีไม่งามเกินไป