วันที่ 27 ธ.ค.67 "โบว์" ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Bow Nuttaa Mahattana ระบุว่า...

อ่านบันทึกกฤษฎีกาที่พยายามชักแม่น้ำทั้งเก้าเพื่อให้คุณกิตติรัตน์ขาดคุณสมบัติดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติแล้ว

จัดได้ว่าบัดซบ

เพราะในขณะที่พยายามทำให้กิตติรัตน์ขาดคุณสมบัตินั้น ก็ยังต้องพยายามแถให้สามารถรักษาเศรษฐพุฒิผู้เคยเป็นที่ปรึกษาของนายกเหมือนกัน ให้ไม่หลุดจากตำแหน่งไปด้วย

เรียกว่าเป็นโจทย์แบบ 2 in 1

การจะเขียนให้ได้ผลที่ต้องการจึงยากมาก และไม่สามารถเขียนให้ไม่ตลกได้เลย

ความตลกที่สุดของเรื่องนี้ คือการไปโยงเรื่องการทำกิจกรรมทางการเมืองต่างๆกับพรรคการเมืองเข้ามาด้วย เสมือนว่าการมีส่วนร่วมทางการเมืองเป็นความผิดบาป ทั้งที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายเรื่องคุณสมบัติ

ยังไม่นับว่าประเทศนี้เคยมีการตีความว่าหัวหน้าคสช.นั้น ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐหรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐมาแล้ว ทั้งที่ใช้อำนาจรัฐอย่างล้นฟ้า ใช้งบประมาณมหาศาล และกินเงินเดือนหลวง

ครั้งนั้นเป็นการตีความโดยนิตินัยอย่างเคร่งครัด ไม่มองพฤตินัยและเจตนารมณ์กฎหมายประกอบเลย ต่างจากครั้งนี้เหมือนไม่ได้อยู่ในประเทศเดียวกัน

ส่วนกลุ่มคนในคณะกรรมการกฤษฎีกาที่พยายามกีดกันกิตติรัตน์ออกจากการทำงานนี้นั้น หลายคนเคยมีตำแหน่งทางการเมืองรับใช้ผู้นำคณะรัฐประหารมาหลายปี แต่นั่นไม่เคยทำให้คนเหล่านี้ขาดคุณสมบัติใดๆในการดำรงตำแหน่งที่นั่งกันอยู่ในวันนี้เลย

กลับเป็นคนทำงานการเมือง คนที่ใช้สิทธิพลเมืองตามระบอบประชาธิปไตย ที่ถูกตั้งข้อรังเกียจจนต้องใช้ทุกต้นทุนพยายามทำลาย ฉีกทุกตำรา พังทุกหลักการ เพียงเพราะคนบางกลุ่มทนความร้อนจากการเห็นศัตรูทางการเมืองกลับมาไม่ได้

เป็นการเผาบ้านไล่หนู ในประเทศที่กลุ่มคนชั้นนำพยายามเฮือกสุดท้ายในการรักษาอำนาจไว้กับตัว

อำนาจที่มิได้ได้มาตามวิถีทางประชาธิปไตย