ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการ “จับปลิงดูด OnlyFans” พบสมาชิกกลุ่มลับกว่า 16,000 Subscribers และเงินหมุนเวียนหลายแสนบาท
 
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโลยี (บก.ปอท.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ประดิษฐ์ เปการี
รอง ผบก.ปอท., พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์  ไหวดี  ผกก.3 บก.ปอท., พ.ต.ท.สัญญา นิลนพคุณ, พ.ต.ท.เสริมศักดิ์
น้อยหัวหาด รอง ผกก.3 บก.ปอท.
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. นำโดย พ.ต.ท.อิสรพงศ์ ทิพย์อาภากุล รอง ผกก.3 บก.ปอท., พ.ต.ท.ภูบดี เอมประณีตร์ สว.กก.3 บก.ปอท., พ.ต.ท.นวพล พัฒนิบูลย์ สว.(สอบสวน) กก.3 บก.ปอท.,พ.ต.ต.เปตอง ด่านปรีดา สว.กก.3 บก.ปอท., ร.ต.อ.ธนกร ทิพย์ประทุม รอง สว.กก.3 บก.ปอท.,จ.ส.ต.ภานุวัฒน์ ขันคำ ผบ.หมู่ กก.3 บก.ปอท., และ ส.ต.ท.เนติภูมิ สินพูล ผบ.หมู่ กก.3 บก.ปอท. ได้ทำการตรวจค้นนายอิทธิพัทธ์ฯ สัญชาติไทย อายุ 27 ปี กระทำความผิกฐาน “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า เผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก และประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้”


 
สถานที่ตรวจค้น อาคารแห่งหนึ่ง ประชาชื่น-พงษ์เพชร 2 ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
 
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. ได้ทำการตรวจสอบเครือข่ายการเผยแพร่ภาพลามกอนาจารที่เผยแพร่เป็นสาธารณะบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ และพบว่าบัญชี Vk บัญชีหนึ่ง มีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอท. จึงได้ทำการโอนเงินไปยังบัญชีทรูมันนี่ ชื่อบัญชีอิทธิพัทธ์ฯ เมื่อทำการโอนเงินค่าเข้ากลุ่มลับแล้ว ได้ทำการแจ้งไปยังกลุ่ม หลังจากแจ้งนั้น Admin จะให้ Link Telegram มาเพื่อทำการเพิ่มเพื่อนเพื่อสนทนากับ ผู้ใช้ชื่อ John และผู้ใช้บัญชี Telegram ดังกล่าวจะให้ทำการขอเข้าร่วมกลุ่ม Telegram ที่เป็นกลุ่มลับอีกครั้งหนึ่ง พร้อมให้สิทธิ์ในการเข้าชมเนื้อหาภายในบัญชีกลุ่มลับดังกล่าวได้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าบัญชีดังกล่าว มีการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ข้อมูลที่มีลักษณะอันลามกจริง และประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้หากมีการชำระเงินให้ผู้ต้องหา ทั้งยังเป็นการกระทำในลักษณะเพื่อความประสงค์แห่งการค้า พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 (1) และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (4), (5)


จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายอิทธิพัทธ์ฯ พบว่าเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลโดยการเฝ้าสังเกตพฤติกรรม จนทราบว่าที่อยู่อาศัยของนายอิทธิพัทธ์ฯ คือ อาคารแห่งหนึ่งแถวประชาชื่น-พงษ์เพชร 2 ถนนประชาชื่น แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ จังหวัดกรุงเทพมหานคร


จึงได้ยื่นคำร้องขอหมายค้นต่อศาลอาญา และศาลอนุญาตให้เข้าค้นตามหมายค้น เลขที่ 1162/2567 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2567 หลังจากนั้นจึงได้ทำการเข้าตรวจค้นสถานที่ดังกล่าว พบ นายอิทธิพัทธ์ฯ แสดงตัวเป็นผู้พักอาศัยและครอบครองสถานที่ ผลการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดสิ่งของไว้เพื่อตรวจสอบ
จำนวน 3 รายการ รวบรวมไว้เป็นพยานหลักฐานในคดี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา