ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ประชาชนจะเดินทางไปท่องเที่ยว หรือกลับบ้านไปหาญาติพี่น้อง เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ โดยจะเดินทางในรูปแบบต่างๆ ทั้งทางบก และทางราง ซึ่งในการเดินทางทุกหมวดการเดินทาง หน่วยงานที่กำกับดูแล “กระทรงคมนาคม” ได้เน้นในการดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ทุกคนเดินทางได้อย่างปลอดภัย เพราะมีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก ซึ่งคาดการณ์การเดินทางของประชาชนด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม 2567 - 5 มกราคม 2568 จะมีปริมาณ 2.3 ล้านคน-เที่ยว เพิ่มจากเทศกาลปีใหม่ 2567 คิดเป็น 12.99%
โดย “นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ที่จะถึงนี้คาดว่าจะมีประชาชนและนักท่องเที่ยวเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงสั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) เตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการเดินทางตลอดเส้นทางให้กับประชาชน พร้อมมอบหมาย ทล. ให้โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง “หยุดดำเนินการ” ทั่วประเทศ และคืนพื้นผิวจราจรในช่วงวันที่ 26 ธ.ค. 67 - 2 ม.ค. 68 รวม 8 วัน เพื่อให้ประชาชนเดินทางได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ปรับปรุงซ่อมแซมทางหลวงไม่ให้มีหลุมบ่อ ตรวจสอบไฟฟ้าแสงสว่างและไฟสัญญาณให้เพียงพอ ตัดหญ้า ตัดแต่งกิ่งไม้ และทำความสะอาดป้ายจราจร เพื่อให้เส้นทางอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน 100% สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงคมนาคม ภายใต้แนวคิด “I - SMART” มุ่งสู่เป้าหมาย “การเดินทางสะดวก ปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ” ตลอด 24 ชั่วโมง (ชม.)
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า ได้จัดเตรียมแผนอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายในการเดินทาง ได้แก่ จัดตั้งจุดให้บริการทั่วไทยกว่า 300 แห่ง จุดให้บริการ ทล. 136 แห่ง แบ่งเป็นจุดให้บริการทั่วไป 84 แห่ง และจุดให้บริการพิเศษ (Premium) 52 แห่ง จุดให้บริการตำรวจทางหลวง 205 แห่ง จุดให้บริการสถานีตรวจสอบน้ำหนักและจุดพักรถบรรทุก 92 แห่ง การอำนายความสะดวกและบริการต่าง ๆ อาทิ ห้องน้ำสะอาด 643 แห่ง หน่วยบริการเคลื่อนที่เร็ว 556 หน่วย พร้อมให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ทั้งในส่วนของการเปลี่ยนยางรถยนต์ การเติมน้ำมัน และการซ่อมแซมรถเบื้องต้น
ขณะเดียวกัน ยังเปิดให้ประชาชนทดลองใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน - นครราชสีมา (M6) อย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาปริมาณจราจรจาก ถ.มิตรภาพ ลดเวลาการเดินทาง พร้อมการอำนวยความสะดวกและปลอดภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ปัจจุบันได้เปิดให้ทดลองใช้เฉพาะช่วงปากช่อง – ทางเลี่ยงเมือง
เช่นเดียวกับ “นายมนตรี เดชาสกุลสม” อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) กล่าวว่า เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน อาทิ การจัดตั้งศูนย์ความปลอดภัย หน่วยบริการประชาชนทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จัดเจ้าหน้าที่ประจำการสายด่วน ทช. 1146 ระบบ CCTV ระบบวิทยุสื่อสาร และระบบ Conference ตลอดจนจัดชุดตรวจการณ์เฝ้าระวังอุบัติเหตุอำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ใช้ทาง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสายทาง ติดตั้งสัญญาณไฟวับวาบบริเวณจุดเสี่ยงอันตรายและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามเส้นทางเลี่ยงของกรมทางหลวงชนบทได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146
ขณะที่ “นายจิรุตม์ วิศาลจิตร” อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ได้ขยายเวลารับชำระภาษีรถยนต์ผ่านช่องทางเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru for Tax) ทั้งก่อนและหลังเวลาราชการ ตั้งแต่เวลา 07.30 - 18.00 น. ณ สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 3 มกราคม 2568 นอกจากนี้ ได้จัดกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” โดยร่วมมือกับพันธมิตรภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนให้บริการตรวจความพร้อมของรถยนต์และรถจักรยานยนต์เบื้องต้นก่อนเดินทางกว่า 20 รายการ โดยไม่คิดค่าบริการ เช่น การตรวจระบบเบรก สภาพยาง การทำงานของเครื่องยนต์ ระดับน้ำมันเครื่องและความสกปรกของน้ำมันเครื่อง หม้อน้ำและรอยรั่ว ไส้กรองอากาศ การทำงานของไฟส่องสว่าง และไฟสัญญาณต่าง ๆ เป็นต้น ทั้งนี้สามารถนำรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการของภาคีเครือข่ายที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ได้เตรียมแผนบริหารจัดการเดินรถและเข้าใช้พื้นที่ชานชาลา ณ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 ซึ่งเป็นจุดรับส่งประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งเที่ยวไป - กลับ ให้สามารถจัดรถเข้าสถานีได้อย่างมีประสิทธิภาพ จัดเตรียมรถโดยสารประจำทาง และรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถเสริม 30) ให้เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ตลอดจนเพิ่มจุดจอดรถ บขส. ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สำหรับประชาชนที่จะเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีแดง และจัดโปรโมชัน "ลดค่าโดยสาร Happy New Year 2025 ลด 10% ไปก่อน-กลับทีหลัง” สอบถาม Call center 1490 เรียก บขส. ตลอด 24 ชั่วโมง
และ “นายวีริศ อัมระปาล” ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การรถไฟได้จัดเพิ่มขบวนรถ รวมถึงเจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนอย่างเพียงพอ ไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้างได้แก่ เพิ่มเที่ยวขบวนรถพิเศษ เส้นทางสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ และสายใต้ ไป-กลับ อีกจำนวน 18 เที่ยว สามารถรองรับผู้โดยสารเพิ่มเติมได้อีก 12,000 คน ผู้โดยสารสามารถติดต่อจองตั๋วโดยสารของขบวนรถพิเศษผ่านระบบออนไลน์ D-Ticket หรือสถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ ,มาตรการอำนวยความสะดวกพ่วงตู้โดยสารเพิ่มเต็มหน่วยลากจูง โดย การรถไฟฯ ทำการพ่วงตู้โดยสารของขบวนรถธรรมดา ขบวนรถชานเมือง ให้เต็มหน่วยลากจูงในทุกเส้นทางทั่วประเทศ สามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารได้ไม่ต่ำกว่า 100,000 คนต่อวัน ซึ่งเพียงพอและเชื่อว่าจะไม่มีผู้โดยสารตกค้าง และมาตรการด้านความปลอดภัย กำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดการดูแลผู้โดยสาร ทั้งภายในขบวนรถและสถานีรถไฟอย่างละเอียด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ ตลอดจนมีการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และสารเสพติดของพนักงานทุกคนต้องเป็นศูนย์ก่อนปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงให้มีการจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังความปลอดภัยจากกล้องวงจรปิด CCTV ตามสถานีและบนขบวนรถทั่วประเทศ
ขอให้ทุกคนเดินทางด้วยความปลอดภัย มีความสุขกับคนในครอบครัว และคนที่คุณรัก