“นายกฯอิ๊งค์” งงข่าวยุบสภา มาจากไหน ยันไม่เคยได้ยินใครพูด “มนพร”ยันรัฐบาลให้ความสำคัญสภา รัฐมนตรีทุกคนพร้อมตอบกระทู้งานที่รับผิดชอบ บอกอยากทำงานครบเทอม “พีระพันธุ์” เมินถูกตั้งฉายา “พีระพัง” เผยมีผลงาน สวนสื่อใครแก้ปัญหาได้เร็วกว่าบ้าง ด้าน"ราชทัณฑ์" แจงกรณีพักการลงโทษปมป่วยทิพย์ชั้น 14 เป็นตามหลักเกณฑ์ตามกฎหมายกำหนด ยันไม่เลือกปฏิบัติ
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.67 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวกรณีฝ่ายค้านเรียกร้องให้ไปตอบกระทู้ในสภา นายกฯ จะมีเวลาไปตอบกระทู้หรือไม่ ว่า เมอร์รี่คริสต์มาส เมื่อถามว่า กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีปราศรัยที่จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ว่ารัฐบาลไม่ยุบสภา จะอยู่ครบเทอม แนวทางเป็นแบบนั้นหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ยังไม่เห็นมีใครพูดเรื่องยุบสภา จึงงง ว่ามาได้อย่างไร
นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะรัฐมนตรีประสานวิปรัฐบาล กล่าวว่า กระทู้ถามสดวันที่ 26 ธ.ค. จะมีกระทู้ถามสดของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงแรงงาน และกระทรวงคมนาคม โดยรัฐมนตรี เตรียมพร้อมที่จะตอบกระทู้สดอยู่แล้ว เป็นกระทู้ที่ถามรัฐมนตรี ไม่ใช่ถามนายกฯ ส่วนที่ฝ่ายค้านเตรียมตั้งกระทู้ถามเรื่องค่าไฟนั้น กระทู้สดเรื่องนี้น่าจะเลื่อนไปในสัปดาห์หน้า เมื่อถามว่า รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับงานสภาฯใช่หรือไม่ นางมนพร กล่าวว่า ใช่ เมื่อถามที่เกี่ยวข้องกับเรื่องแต่ละกระทรวง จะมีรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงเป็นผู้ไปตอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ประสานพูดคุยกับนายกฯ ในเรื่องการตอบกระทู้อย่างไรบ้าง นางมนพร กล่าวว่า นายกฯ พยายามจัดสรรเวลา หากเกี่ยวกับเรื่องของกระทรวงใด นายกฯจะมอบหมายให้รัฐมนตรีไปตอบเชื่อว่ารัฐมนตรีพร้อมตอบ เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่นายทักษิณระบุจะไม่มีการยุบสภา นางมนพร กล่าวว่า รัฐมนตรีและส.ส.คงไม่มีพรรคไหนอยากให้ยุบสภา ในขณะที่เราได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชนจะพยายามทำงานให้ดีที่สุดจนครบเทอม เมื่อถามย้ำว่า จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่น รัฐบาลทำงานเพื่อประชาชนใช่หรือไม่ รมช.คมนาคม กล่าวว่า เป็นการสร้างความเชื่อมั่นเพราะประชาชนเลือกมา หวังว่าสส.หรือรัฐบาล จะทำงานให้พวกเขาครบ 4 ปี
ด้าน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายาให้เป็น “พีระพัง” ว่า ตนไม่ได้อ่าน แต่ประชาชนได้ชี้แจงแทนตนเองหมดแล้ว ดังนั้น จึงไม่โกรธ และไม่ได้สนใจ เพราะแทบจะไม่มีเวลาทำงานอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่ได้รับฉายา “พีระพัง” อาจเป็นเพราะแก้ไขปัญหาด้านพลังงานล่าช้าหรือไม่นั้น นายพีระพันธุ์ ย้อนถามสื่อมวลชนกลับว่า มีใครแก้ปัญหาได้เร็วกว่าตนเองหรือไม่ และ 1 ปีที่ผ่านมา ตนก็มีผลงาน ก่อนที่สื่อมวลชนจะถามเช่นนี้ ต้องถามก่อนว่ามีใครทำได้เร็วกว่าตน และกระบวนการต่างๆ ไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของตนเอง ซึ่งถ้าทุกอย่างอยู่ภายใต้การดูแลของตนเองพรุ่งนี้ก็สามารถประกาศได้ ดังนั้น อยากให้เร็ว จะต้องแก้กฎหมาย แก้ระบบ และมีกฎหมายเข้าสภา
“ภายใต้การดูแลของผมทุกอย่างจะถูกลง ประชาชน และประเทศชาติ จะได้ประโยชน์มากขึ้น รวมถึงจะสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ลดต้นทุนการผลิตสินค้าให้ประชาชน”
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า วันก่อนมีสื่อมวลชนกล่าวถึงตนว่าไม่เข้าร่วมประชุมสภา ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ซึ่งตนเองไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ และสื่อมวลชนน่าจะฉลาดกว่านี้ส่วนกังวลจะมีม็อบมากดดันเรื่องการแก้ไขปัญหาพลังงานหรือไม่นั้น ตนไม่กังวล เพราะพรรคทำเพื่อประชาชนได้ประโยชน์
วันเดียวกัน กรมราชทัณฑ์ เผยแพร่เอกสาร โดยระบุว่า "จากกรณีที่ เว็ปไซต์ไทยโพสต์ ได้มีการเผยแพร่ข่าว พาดหัว 10 กรณีคอร์รัปชันแห่งปี 2567 ป่วยทิพย์ชั้น 14 โกงซ้อนโกง โดยมี ดร.มานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โพสต์ข้อความ พาดพิงกรณีลดโทษพักโทษมอบอภิสิทธิ์ให้นักโทษคดีโกงชาตินั้น
กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า การพักการลงโทษเป็นระบบการบริหารโทษประการหนึ่งที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้ต้องขังที่ถูกจำคุกมาแล้วระยะเวลาหนึ่ง และผ่านกระบวนการในการพัฒนาพฤตินิสัย มีความประพฤติดี มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไม่มีความเสี่ยงที่จะกระทำความผิดซ้ำ ได้มีโอกาสกลับไปใช้ชีวิตในสังคม อันเป็นการเตรียมความพร้อมทั้งด้านอาชีพ ครอบครัว การปรับตัว ตลอดจนการวางแผนอนาคต ก่อนที่จะครบระยะเวลาต้องโทษ และกลับคืนสู่สังคม ทั้งนี้ ในระหว่างพักการลงโทษนั้น ผู้ต้องขังจะต้องปฏิบัติตัวตามเงื่อนไขในความควบคุมดูแลของกรมคุมประพฤติจนกว่าจะพ้นโทษตามหมายจำคุกของศาล แต่หากผิดเงื่อนไข ก็จะถูกนำตัวกลับไปคุมขังยังเรือนจำต่อไป
กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการบริหารโทษตามแนวทางดังกล่าวมาตั้งแต่พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2479 จนมาสู่ พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นฉบับปัจจุบัน สำหรับข้อกล่าวอ้างที่ว่า จำคุกน้อยปล่อยตัวไวนั้น ขอเรียนว่าผู้ต้องขังทุกรายได้รับการพิจารณาจากคณะทำงานในชั้นเรือนจำ และเสนอต่อคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ ที่ประกอบด้วย หน่วยงานภายนอกหลายหน่วยงาน โดยดำเนินการตามหลักเกณฑ์และข้อกำหนดภายใต้พระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. 2560 กฎกระทรวงกำหนดประโยชน์ของนักโทษเด็ดขาดและเงื่อนไขที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการลดวันต้องโทษจำคุกหรือการพักการลงโทษและได้รับการปล่อยตัวต้องปฏิบัติ พ.ศ. 2562 และฉบับที่ (2) พ.ศ. 2564 อย่างเสมอและเท่าเทียมกัน
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการลงโทษจำคุกตามหมายจำคุกล่าสุด กล่าวคือ ผู้ต้องขังที่จะได้รับการพิจารณาการพักการลงโทษ กรณีปกติ จะต้องจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 และเหลือโทษจำคุกไม่เกิน 2-5 ปี ส่วนผู้ต้องขังที่จะได้รับการพิจารณาพักการลงโทษกรณีพิเศษ เช่น เจ็บป่วยหรือสูงอายุ 70 ปี ต้องจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ดังนั้น การพิจารณาการพักการลงโทษ จึงได้ดำเนินการตามกฎ กติกา ที่ไม่สามารถเลือกปฏิบัติ หรือเอื้อประโยชน์ให้กับผู้หนึ่งผู้ใดได้
กรมราชทัณฑ์ ขอยืนยันว่าการดำเนินการที่ผ่านมาเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ และชอบด้วยกฎหมาย มิได้เอื้อสิทธิประโยชน์ หรือเลือกปฏิบัติต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใด
สำหรับความเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณ ใช้เวลาส่วนตัวพักผ่อนอยู่กับครอบครัวในวันคริสต์มาส ที่บ้านพักอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากเดินสายหาเสียงขึ้นเวทีปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของ นายพิชัย เลิศอดิศร ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 2 วัน 4 เวที โดยวันนี้นายทักษิณมีกำหนดเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในช่วงบ่าย แต่ช่วงเช้าได้ใช้เวลาส่วนตัวที่บ้านพักกับ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ผู้เป็นน้องสาว
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายทักษิณจะเดินทางกลับมาช่วยนายพิชัยหาเสียงที่จังหวัดเชียงใหม่อีกครั้งในช่วงโค้งสุดท้ายช่วงปลายเดือนมกราคม 2568 โดยจะหาเสียงพบปะกับประชาชนในโซนเชียงใหม่ตอนบน ทั้งอำเภอฝาง อำเภอแม่อาย อำเภอเชียงดาว รวมถึงจะเดินสายปราศรัยช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครนายก อบจ. ของพรรคเพื่อไทย จังหวัดเชียงรายด้วย