เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 25 ธ.ค. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์กรณีเหตุตำรวจปิดล้อมก่อนวิสามัญผู้ก่อเหตุยิงภรรยาเสียชีวิตในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษสังกัดตำรวจภูธรภาค 1 ได้รับบาดเจ็บ 2 นายว่า เบื้องต้นตำรวจทั้ง 2 นายปลอดภัยแล้ว ตอนนี้ย้ายออกมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยตำรวจ 1 นายถูกยิงที่ต้นขาขวาหนึ่งนัด อีกนายถูกยิงที่ต้นขาขวาและสะโพกโดยกระสุนตัดผ่านเส้นเลือดใหญ่ ตอนนี้ทั้งคู่อาการปลอดภัยดี
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ส่วนผู้ก่อเหตุถูกวิสามัญหลังจากพบว่า ไปหลบซ่อนตัวภายในบ้านที่เป็นพื้นที่จำกัดและยิงตอบโต้เจ้าหน้าที่ โดยเบื้องต้นได้ก่อเหตุยิงภรรยาตัวเองเสียชีวิต ซึ่งหลังจากนี้ต้องไปตรวจสอบประวัติอาชญากรรมว่าเคยต้องโทษหรือไม่ ยืนยันว่า ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษปฏิบัติหน้าที่ตามยุทธวิธี แต่คนร้ายเกิดยิงต่อสู้ออกมา ซึ่งเป็นจุดอวัยวะที่ไม่มีเครื่องป้องกันทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวิสามัญผู้ก่อเหตุ
เมื่อถามว่า ญาติผู้ก่อเหตุคาใจการเข้าปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ผบ.ตร. กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการของกฎหมาย แต่ในรายละเอียด แม้ว่าญาติจะติดใจเหตุการณ์เสียชีวิต แต่ต้องดูเรื่องของการสอบสวน โดยขั้นตอนการสืบสวนยืนยันว่า ไม่มีเอนเอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะตำรวจคงไม่ใช้ปืนยิงที่ขาตัวเองจนบาดเจ็บ ทั้งนี้หลังจากนี้ต้องไปตรวจพิสูจน์เรื่องวิถีกระสุนและเขม่าดินปืน รวมถึงปลอกกระสุนด้วย
“หากตำรวจทำไม่ถูกต้อง ก็ต้องพร้อมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา แต่ผมยืนยันหลังจากได้สอบถามเรื่องดังนี้ไปกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 มั่นใจว่า ตำรวจมีความจำเป็นและต้องปกป้องชีวิตของตัวเองในขณะที่ผู้ก่อเหตุยิงต่อสู้ แต่ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้ก่อเหตุและพร้อมให้ความเป็นธรรม” ผบ.ตร. กล่าว
ผบ.ตร. ยังกล่าวเน้นย้ำและกำชับเรื่องการเข้าปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจว่า ได้กำชับมาโดยตลอดว่าต้องเป็นไปตามยุทธวิธี ส่วนที่เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเป็นจุดที่ไม่มีเครื่องป้องกันนั้น หลังจากนี้จะต้องมีการไปพิจารณาอุปกรณ์ป้องกันเวลาเข้าไปเผชิญเหตุ เพราะเคยมีเหตุลักษณะนี้เกิดขึ้นแล้วหลายครั้ง และมีบางครั้งที่เจ้าหน้าที่เสียชีวิต