วันที่ 25 ธ.ค.2567 ที่รัฐสภา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) พร้อมสส.พรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงว่า วันนี้(25 ธ.ค.)พรรคร่วมไทยสร้างชาติ ยื่นร่างกฎหมายที่ไม่เคยมีในประเทศไทย เข้าสภาฯ คือกฎหมายส่งเสริมสนับสนุนให้ใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงแดด หรือ“โซลาร์รูฟท็อป” เพื่อช่วยเหลือปลดล็อคค่าครองชีพของประชาชนในการลดค่าไฟฟ้า เนื่องจากที่ผ่านมา ทุก 4 เดือน จะต้องมีการปรับราคาค่าไฟฟ้าทุก ๆ 4 เดือน เพราะไฟฟ้าไทยยังต้องใช้เชื้อเพลิงมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต ราคาจึงต้องขึ้นกับตลาดโลก และพบว่า การให้ประชาชนหลุดพ้นจากค่าไฟที่แพง จึงต้องสนับสนุนให้ประชาชนใช้พลังงานจากแสงแดด แต่การติดตั้งของประชาชนในประเทศยังยุ่งยากด้านกฎหมาย มีราคาแพง มีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเกี่ยวพัน ใช้เวลานานในการดำเนินการขออนุญาต ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ร่วมกับกระทรวงพลังงานดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงมั่นใจว่า ประชาชนจะสามารถใช้ราคาไฟฟ้าที่ถูกขึ้น และจะส่งผลให้สินค้าอื่น ๆ ถูกขึ้นด้วย เนื่องจาก ราคาไฟฟ้าซึ่งเป็นต้นทุน มีราคาถูกลง
เมื่อถามว่า เห็นฉายา “พีระพัง”ที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายาให้หรือยัง โกรธหรือไม่ นายพีระพันธ์ุ กล่าวว่า ตนไม่ได้อ่าน แต่ประชาชนได้ชี้แจงแทนตนเองหมดแล้ว ดังนั้นจึงไม่โกรธ และไม่ได้สนใจ เพราะแทบจะไม่มีเวลาทำงานอยู่แล้ว เรื่องพรรณนี้ตนไม่สนใจ
เมื่อถามว่าการที่ได้รับฉายา “พีระพัง”เป็นเพราะแก้ไขปัญหาด้านพลังงานล่าช้าหรือไม่ นายพีระพันธุ์ ได้ย้อนถามสื่อมวลชนกลับว่า “แล้วมีใครแก้ปัญหาได้เร็วกว่าผมหรือไม่ และ 1 ปีที่ผ่านมา ผมก็มีผลงาน ก่อนที่สื่อมวลชนจะถามเช่นนี้ ต้องถามก่อนว่า มีใครทำได้เร็วกว่าผม”
เมื่อถามว่าประชาชนมั่นใจได้ใช่หรือไม่ว่าจะใช้พลังงานถูกลงนายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ยืนยันว่า ภายใต้การดูแลของตน ทุกอย่างจะถูกลง ประชาชน และประเทศชาติ จะได้ประโยชน์มากขึ้น รวมถึงจะสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ลดต้นทุนการผลิตสินค้าให้ประชาชน
“วันก่อนมีสื่อมวลชนกล่าวถึงผมว่า ไม่เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เพราะผมไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้เนื่องจากไม่ได้เป็นสส. สื่อมวลชนน่าจะฉลาดกว่านี้” นายพีระพันธุ์ กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า กฎหมายกว่าจะผ่านออกมามักจะมีความล่าช้า นายพีระพันธ์ุ กล่าวว่า มันไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของตนคนเดียว ถ้าอยู่ในมือตนคนเดียวพรุ่งนี้เสร็จแล้ว แต่ระบบมันเป็นอย่างนี้ หากอยากจะให้เราตามใจเราก็ต้องแก้ระบบ แก้รัฐธรรมนูญ ขึ้นตอนคือต้องมีกฎหมายเข้าสภาให้ได้ก่อน ที่สำคัญตอนนี้เราร่างเสร็จแล้ว หลังจากนี้เป็นเรื่องของประธานสภาฯ ที่จะบรรจุระเบียบวาระให้สามารถหยิบยกขึ้นมาได้ทัน ดังนี้นตรงนี้อย่าถามตน ต้องไปถามประธานสภาฯ
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาบหรือไม่ นายพีระพันธ์ุ กล่าวว่า ตนด็พูดมาตลอด ในรัฐบาลก็มีนายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่เป็นวิปรัฐบาล และตัวแทนพรรคร่วมไทยสร้างชาติ ร่วมเป็นวิปด้วย ซึ่งได้รับการแจ้งว่า ทางนายชูศักดิ์ ได้สอบถามว่ากฎหมายนี้ไปถึงไหนแล้ว
เมื่อถามว่ากังวลถึงปัจจัยภายนอกที่จะให้กฎหมายนี้ล่าช้าหรือไม่ เช่น ม็อบ นายพีระพันธ์ุ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะตนทำสิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์ แล้วม็อบจะไม่เอาหรือ แล้วจะมาทำม็อบอะไร