เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 นพ.สุภโชค เวชภัณฑ์เภสัช รักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 2 กล่าวถึงความคืบหน้าการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมอหิวาตกโรคที่ระบาดในเมืองชเวโก๊กโก่ ประเทศเมียนมา ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับชายแดนไทย จ.ตาก ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยสถานการณ์ จึงมอบหมายให้ตนพร้อมกับ นพ.วิชาญ บุญกิติกร ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตาก และผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด ลงพื้นที่ร่วมกันเพื่อประเมินสถานการณ์และติดตามมาตรการเฝ้าระวังป้องกันและควบคุมโรคในเขตเศรษฐกิจพิเศษชเวโก๊กโก่ ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1-21 ธันวาคม 2567 พบผู้ป่วยรวม 132 ราย เสียชีวิต 2 ราย ส่วนใหญ่ร้อยละ 39 เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และเกือบทั้งหมดเป็นสัญชาติเมียนมา ส่วนในประเทศไทย ล่าสุดพบผู้ป่วยอหิวาตกโรคเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลแม่สอดจำนวน 4 ราย เป็นชาวเมียนมา 2 ราย และคนไทย 2 ราย โดยตรวจพบเชื้อ Vibrio Cholerae O-1 Ogawa ซึ่งเป็นสายพันธุ์เดียวกับที่ระบาดในเมียนมา

“จากการสอบสวนโรคเบื้องต้นในผู้ป่วยชาวเมียนมา 2 รายแรก พบว่าทั้งคู่ได้ซื้ออาหารจากร้านเดียวกัน เมื่อตรวจเชิงรุกด้วย Rectal Swab พบผลบวกในคนไทย 1 ราย ที่นั่งรับประทานอาหารด้วยกันแต่ไม่มีอาการส่วนผู้ป่วยชาวไทยอีก 1 ราย ไม่มีประวัติเชื่อมโยงกับ 3 คนแรก สันนิษฐานว่าน่าจะรับประทานอาหารที่นำมาจากเมียวดี” นพ.สุภโชคกล่าว

นพ.สุภโชคกล่าวต่อว่า โรงพยาบาลแม่สอดได้เตรียมความพร้อมเรื่องการดูแลรักษา โดยแยกจัดบริการผู้ป่วยท้องเสียโดยเฉพาะทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน จัดทำแผนรองรับกรณีมีผู้ป่วยท้องเสียรุนแรงจำนวนมากตามมาตรฐานการป้องกันโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล จัดทำแนวทางการรักษาและการค้นหาเชิงรุกให้กับสาธารณสุขในพื้นที่และบุคลากรทางการแพทย์ที่จะดูแลผู้ป่วยท้องเสียทั้งในและนอกโรงพยาบาล โดยแพทย์เฉพาะทางโรคติดเชื้อ เตรียมพร้อมยาปฏิชีวนะและน้ำเกลือ รวมถึงความพร้อมของห้องปฏิบัติการ

ทั้งนี้ ในการลงพื้นที่ได้ตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาและน้ำดื่มในพื้นที่ พร้อมทั้งกำชับให้ปฏิบัติตามมาตรฐานน้ำประปาและให้คำแนะนำในการปรับปรุงคุณภาพน้ำประปาเพื่อยกระดับความมั่นใจให้กับประชาชน และได้สั่งการให้มีการตรวจสอบน้ำดื่มและน้ำแข็งตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและสร้างความมั่นใจด้านสุขอนามัยแก่ผู้บริโภค และในการตรวจเยี่ยมตลาดสด ได้ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการและประชาชนให้ช่วยกันดูแลสุขอนามัย น้ำสะอาด และระบบสุขาภิบาลที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งสั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขอำเภอและจังหวัด เข้มงวดมาตรการป้องกันอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังได้ตรวจสอบจุดผ่านแดนและกระบวนการคัดกรองผู้เดินทาง โดยกำชับมาตรการที่ด่านอาหารและยาและด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในพื้นที่