“รัฐบาล” เร่งโอนเงินเยียวยาน้ำท่วม 9,000 บาทรอบแรก ภายในสิ้นปีนี้ ขณะที่ “บิ๊กอ้วน” สั่งการศปช. เตรียมพร้อมรับมือพายุปาบึก ฝนตกรอบใหม่

วันนี้ (24 ธันวาคม 2567) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าตามที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยโดยเฉพาะการลงทะเบียนจ่ายเงินเยียวยาครัวเรือนละ 9,000 บาท นั้น ล่าสุดนายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้รายงานว่ามีพื้นที่ประสบอุทกภัยที่เข้าหลักเกณฑ์ ตามที่ ครม.กำหนดมีประชาชนมายื่นขอรับเงินช่วยเหลือแล้วมากกว่า 7 แสนครัวเรือน โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่และมีผู้ประชาชนที่ผ่านการตรวจสอบสิทธิ์แล้วหลักข่ายเกณฑ์ได้รับเงินเยียวยาจำนวน 1,978 ครัวเรือน ซึ่งคาดว่าจะสามารถโอนเงินเข้าบัญชี ผู้ประสบภัยรอบแรกได้ภายในเดือนธันวาคมนี้

 

“ตามที่ ครม. กำหนด คือ ประชาชนในพื้นที่ จ.ชัยนาท บุรีรัมย์ สมุทรสาคร และสิงห์บุรี จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในห้วงวันที่ 20 พ.ค. – 2 พ.ย. 67 และประชาชน ในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคใต้ กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ ตรัง พัทลุง ยะลา สงขลา สตูล และสุราษฎร์ธานี จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในห้วงวันที่ 3 พ.ย. 67 เป็นต้นไปเท่านั้น นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้จังหวัดได้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนให้จัดเตรียมเอกสารหลักฐานเพื่อลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือ ทั้งแบบ Onsite ยื่นด้วยตนเอง ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ประสบภัย และแบบ Online ผ่านเว็บไซต์ www.flood67.disaster.go.th” นางสาวศศิกานต์ กล่าว

 

พร้อมกันนี้ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม(ศปช.) ได้รับทราบ ประกาศแจ้งเตือน ฉบับที่ 7 เรื่องพายุโซนร้อนปาบึกจากกรมอุตุนิยมวิทยา เมื่อเวลา 11.00 น.ว่าพายุเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งเวียดนามก่อนอ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ และส่งผลให้หลายพื้นที่ เกิดฝนตกช่วง 25 – 26 ธันวาคมนี้ จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือกับฝนที่จะตกลงมาอีกรอบ โดยเฉพาะพื้นที่ประสบอุทกภัยเดิมหากจะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ก็สามารถใช้กำลังคนและเครื่องจักรกลที่ช่วยบรรเทาสถานการณ์ได้อย่างต่อเนื่อง โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร 1,686 นาย พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ 1,195 หน่วย พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนทันทีที่เกิดสถานการณ์