วันที่ 24 ธ.ค.2567 เวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา  นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่าจากการเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการประสานงานและเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของประธานรัฐสภาที่ประชุมมีมติว่าสามารถบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสภาได้และเป็นการเปิดทางไปสู่การทำประชามติ 2 ครั้ง ตอนนี้รอเพียงประธานรัฐสภาเซ็นให้บรรจุระเบียบวาระการประชุม ซึ่งคาดว่าร่างดังกล่าวน่าจะพิจารณาในวาระที่ 1 ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้วันที่ 14-15 ม.ค. 2568 ดังนั้นถ้ารัฐสภาเห็นชอบก็จะทำให้เราสามารถจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และกระบวนจัดทำประมติ 2 ครั้งจะประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณ กว่า 3 พันล้านบาท และจะทำให้เป้าหมายของรัฐบาลในการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันการเลือกตั้งปี 2570 มีความเป็นไปได้              

“เมื่อวาน( 23 ธ.ค.) ผมเห็นนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ออกมาบอกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไรก็ไม่ทันปี 2570 แน่ ผมอยากเชิญชวนว่าอย่างเพิ่งยอมแพ้ ผมก็พยามยามอยู่ จึงอยากให้ท่านมาช่วยอีกแรง”นายพริษฐ์​กล่าว        

เมื่อถามว่าเชื่อมั่นว่าจะผ่านหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ถ้าบรรจุก็ถือว่าผ่านด่านแรก ก่อนที่สองคือจะได้เสียงเห็นชอบจากสมาชิกรัฐสภาพอหรือไม่ซึ่งในฝั่งของ สส.ตนหวังว่าไม่มีเหตุอะไรที่จต้องกังวลเพราะการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นคำสัญญาที่รัฐบาลให้ไว้กับประชาชน ดังนั้นก็จะเป็นสิ่งผูกมัด และผูกพันกับ สส.รัฐบาลทุกคนเพราไม่ได้เป็นนโยบายของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่สิ่งเราคงต้องจับตาดูคือสว.จะเห็นชอบ 1 ใน 3 หรือไม่ ซึ่งถ้าคิดว่า สส. กับ สว.ต่างมีความคิดที่แยกจากกันชัดเจน เราก็คงต้องโน้มน้าว สว.แต่ละคนให้มากที่สุด แต่ถ้าเชื่อว่าความจริง ความเห็นต่างระหว่าง สส. และ สว. คือความเห็นต่างเดียวกันกับระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล คนที่จะมีบทบาทสำคัญในการโน้มน้าวพรรคร่วมรัฐบาลที่อาจมีอิทธิพลทางความคิดกับ สว. คือ นายกรัฐมนตรี