จัดว่าเป็นเหตุการณ์ช็อกขวัญ สะเทือนใจ ชาวโลกส่งท้ายปีเหตุการณ์หนึ่งเลยทีเดียว
สำหรับ เหตุคนร้ายขับรถยนต์ด้วยความเร็วสูง พุ่งชนผู้คนที่ตลาดคริสต์มาส เมืองมักเดบวร์ก นครหลวงเมืองเอกของรัฐซัคเซิน-อันฮัลท์ ทางตะวันออกของประเทศเยอรมนี ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามวันเวลาท้องถิ่น อันเป็นช่วงที่ประชาชนชาวเยอรมนีจำนวนมาก ถือโอกาสช่วงสุดสัปดาห์ เดินจับจ่ายซื้อสินค้าเพื่อใช้ในระหว่างเทศกาลคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง
โดยเหตุการณ์ข้างต้น ก็ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย ในจำนวนมีเด็กอายุเพียง 9 ขวบรวมอยู่ด้วย 1 ราย ส่วนจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บมีมากกว่า 200 ราย ในจำนวนนี้ 41 ราย มีอาการอยู่ในขั้นวิกฤติ ทำให้คาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะเพิ่มขึ้นอีก
ตามการเปิดเผยของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า เหยื่อที่ถูกรถพุ่งชนบางราย ถูกรถลากไปไกล จนน่าสยดสยองเป็นอย่างมาก
ส่วนคนร้ายผู้ก่อเหตุ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในที่เกิดเหตุ และอยู่ภายในรถยนต์มรณะที่สร้างความสั่นสะเทือนขวัญชาวโลก
จากการสอบสอนบื้องต้นพบว่า คนร้ายเป็นชายชาวซาอุดีอาระเบีย อายุ 50 ปี ชื่อ “ตอหลิบ จาวัด อัล-อับดุลโมห์เซน” เข้ามาพำนักอาศัยอยู่ในเยอรมนีมาตั้งแต่ปี 2006 (พ.ศ. 2549) ประกอบอาชีพเป็นจิตแพทย์
ตามสอบสวน สืบสวน คาดว่า จิตแพทย์ตอหลิบผู้นี้ น่าจะมีแรงจูงใจในการก่อเหตุมาจากการที่ไม่พอใจต่อนโยบายเกี่ยวกับการจัดการผู้อพยพของทางการเยอรมนี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการปฏิบัติต่อผู้ลี้ภัยจากซาอุดีอาระเบียที่อพยพเข้ามาในเยอรมนี
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของทางการเยอรมนี ยังคงต้องดำเนินสืบสวนสอบสวนต่อไปเพื่อหาสาเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุที่แน่ชัด ซึ่งถ้าเป็นไปได้ก็คือการให้นายตอลิบเปิดปากรับสารภาพออกมาเลย โดยการสอบสวนสืบสวนเบื้องต้น ก็มาจากการเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับการโพสต์ข้อความในสื่อสังคมออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดียของนายตอหลิบเองเป็นประการสำคัญ
โดยจากการเข้าไปสืบสวนผ่านโซเชียลมีเดียวของเขา ก็พบว่า นายตอหลิบ โพสต์ข้อความต่อต้านศาสนาอิสลามอย่างรุนแรงหลายครั้ง แม้ว่าตัวของเขาเองจะเป็นมุสลิมก็ตาม ซึ่งที่เขาต่อต้านก็เป็นสถานการณ์ทางศาสนาอิสลามในซาอุดีอาระเบีย ประเทศบ้านเกิดของเขานั่นเอง นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า นายตอหลิบ มักจะโพสต์โดยกล่าวอ้างว่า เขาเป็นนักเคลื่อนไหวในการให้ความช่วยเหลือต่อผู้อพยพลี้ภัยชาวซาอุดีอาระเบีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้ความช่วยเหลือต่อสตรีที่ลี้ภัยออกมาจากซาอุดีอาระเบีย
ทั้งนี้ จากผลสืบสวนเบื้องต้น ก็ทำให้พบว่า นายตอหลิบ ดูจะมีปัญหากับทางการซาอุดีอาระเบียไม่น้อยเหมือนกัน
ถึงขนาดถูกทางการซาอุดีอาระเบีย เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวในโลกโซเชียลมีเดีย หรือสื่อสังคมออนไลน์ อย่างใกล้ชิด
โดยมีรายงานจากทางการซาอุดีอาระเบียว่าเคยเตือนเรื่องความเคลื่อนไหวของนายตอหลิบผู้นี้ เพราะโพสต์ข้อความลงบนเว็บไซต์แพลตฟอร์ม “เอ็กซ์ (X)” หรือ “ทวิตเตอร์” เดิมที่ส่อไปในทางว่าเป็นผู้มีหัวรุนแรงหลายครั้ง ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาความรุนแรง คุกคามความสงบสุข และความมั่นคงได้
นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า นายตอหลิบ ก็ไม่พอใจต่อการปฏิบัติที่ผู้ลี้ภัยชาวซาอุดีอาระเบียได้รับจากเยอรมนีด้วยเหมือนกัน อันเป็นผลจากการดำเนินนโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพเข้าเมืองของทางการเยอรมนียุคนี้
จากเหตุผลข้างต้น เจ้าหน้าที่ทางการเยอรมนี จึงระบุเบื้องต้นว่า แรงจูงใจในการก่อเหตุสะเทือนขวัญทั้งต่อชาวเยอรมนี และชาวโลกดังกล่าว
โดยการสะเทือนใจในเยอรมนีนั้น นอกเหนือจากประชาชนชาวเมืองเบียร์ ตลอดจนทางการรัฐบาลเบอร์ลิน ที่บริหารปกครองประเทศ ที่ออกมาแสดงปฏิกริยาเศร้าโศกเสียใจไว้อาลัยต่อเหยื่อในเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ปรากฏว่า ทางกลุ่มผู้มีแนวคิดแบบฝ่ายขวา รวมไปถึงพวกขวาจัด ต่างออกมาแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อเหตุการณ์ข้างต้นอย่างชนิดไม่ผิดอะไรกับราดน้ำมันบนกองไฟให้เปลวไฟลุกโชติช่วงกันเลยทีเดียว
ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทางกลุ่มฝ่ายขวา ก็ปลุกระดมจนสามารถรวมตัวชุมนุมกัน ก่อนเดินขบวนไปตามท้องถนนสายต่างๆ ในเมืองมักเดบวร์ก นครที่เกิดเหตุ พร้อมมีสัญลักษณ์ของทางกลุ่มฝ่ายขวา ซึ่งแนวควาคิดชาตินิยม อนุรักษ์นิยม สัญจรไปพร้อมกับทางกลุ่มฯ ที่เดินขบวนไปด้วย เพื่อเป็นการบ่งบอก ก่อนจุดกระแสต่อต้านผู้อพยพต่างชาติในเยอรมนีขึ้น ด้วยการให้ส่งผู้อพยพเหล่านี้ออกนอกประเทศไปเลย
นอกจากนี้ ก็ยังเรียกร้องให้รัฐบาลเบอร์ลิน ทางการเยอรมนี พิจารณาทบทวนในการดำเนินนโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพต่างชาติเหล่านี้เสียใหม่
ในความเคลื่อนไหวของกลุ่มฝ่ายขวาในเยอรมนีจากกรณีนี้นั้น นอกจากทางกลุ่มจะจัดชุมนุมประท้วง เดินขบวนเรียกร้องไปตามท้องถนนแล้ว ทางปีกการเมืองของฝ่ายขวาอย่างนายติโน ชรูปัลลา ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคทางเลือกสำหรับเยอรมนี ซึ่งมีแนวคิดและแนวนโยบายแบบขวาจัด ก็ได้ถือโอกาสนี้ไปร่วมไว้อาลัยแด่เหยื่อในเหตุรถยนต์พุ่งชนที่ตลาดคริสต์มาสในเมืองมักเดบวร์กในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
โดยเมื่อกล่าวถึงเหตุการณ์คนร้ายที่เป็นผู้อพยพต่างด้าว เป็นชาวตูนิเซียอพยพ ใช้วิธีขับรถบรรทุกด้วยความเร็วสูง พุ่งชนผู้คนในตลาดคริสต์มาส กรุงเบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี เมื่อปี 2016 (พ.ศ. 2559) ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 49 ราย
เหตุการณ์ในครั้งนั้น จาการสืบสวน สอบสวน ทราบว่าชายคนร้าย คือ นายอานิส อัมรี มีความเชื่อมโยงกับขบวนการก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรง “รัฐอิสลาม” หรือ “ไอเอส” หรือที่หลายคนเรียกว่า “ไอซิส” ที่กำลังเป็นขบวนการก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรงที่โด่งดังระดับแถวหน้าของโลกในช่วงเวลานั้นอีกด้วย
ทั้งนี้ เมื่อกล่าวถึงการปลุกกระแสของฝ่ายขวา ลากเลยไปถึงขวาจัด หรือขวาตกขอบในเยอรมนี ดูจะน่าเกรงขามมิใช่น้อย จากการได้รับการตอบรับจากประชาชน จนทางพรรคทางเลือกเพื่อเยรมนี ชนะเลือกตั้งระดับรัฐเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายนที่เพิ่งผ่านพ้นมานี้เอง