ดร.หญิง ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยโพสต์ข้อความผ่าน X ทวิตเตอร์

อยากฝากถึง พรรคประชาชนและ ส.ส.พรรคประชาชน อีกหลายคน  อย่าเพิ่งรีบตีกินโดยไม่ศึกษากฎหมายดีพอ จากกรณี การต่อสัปทานพลังงานหมุนเวียนที่ถูกตั้งคำถามโดยผู้นำฝ่ายค้าน เพราะสิ่งที่คุณทำกำลังส่งผลเสียหายทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในหลายๆเรื่อง  ขอชี้แจงดังนี้ 

ข้อเท็จจริง คือ

oการประชุม กพช. วันที่ 26 พ.ย. นายกฯ ไม่ได้สั่งการ ให้ทุกหน่วยงานเดินหน้าทุกโครงการพลังงานสะอาดตามที่กล่าวอ้าง

นายกฯ เน้นให้เร่งปรับปรุงเกณฑ์การคัดเลือกพลังงานสะอาดเพื่อดึงดูดการลงทุนและลดผลกระทบต่อประชาชน พร้อมย้ำความสำคัญของราคาพลังงานที่มีผลต่อเศรษฐกิจ

และจากคำกล่าวอ้างของ สส. ศุภโชติ (พรรคประชาชน) “…นายกฯ มีอำนาจเต็มในการหยุดยั้งการรับซื้อไฟฟ้าฯ ตามระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าฯ

ถาม? : นายกรัฐมนตรี ทำไมไม่ใช้อำนาจดำเนินการสั่งการ (กพช.) ในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ ต้องดำเนินการสั่งการให้ระงับได้  

ข้อเท็จจริงตามข้อกฎหมาย คือ

ตาม พ.ร.บ. กพช. และ พ.ร.บ. กกพ. รวมถึงระเบียบการรับซื้อไฟฟ้าฯ ข้อ 8-9:

ข้อ 9 ระบุว่า "ให้ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงานเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ และ กกพ. เป็นผู้มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ คำวินิจฉัยของ กกพ. ให้เป็นที่สุด"

ดังนั้น การอ้างว่านายกฯ มีอำนาจเต็มในการหยุดยั้งการรับซื้อไฟฟ้า ไม่เป็นความจริง เพราะอำนาจวินิจฉัยอยู่ที่ กกพ.

“พรรคประชาชน ทำการบ้านไม่พอ” ค่ะ

เพราะ มีข้อกฎหมายที่ชี้คำตอบเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว จากทั้ง พ.ร.บ. กพช. และ กกพ. รวมไปถึงระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ

บทบาทของ กพช. และนายกฯ คือ

นายกฯ ในฐานะประธาน กพช. มีบทบาทกำหนดนโยบาย แต่ไม่มีอำนาจตัดสินใจเชิงปฏิบัติ การดำเนินการใด ๆ ของ กกพ. เป็นอิสระ แม้ต้องปฏิบัติตามกรอบนโยบายที่กำหนดโดย กพช.

และจากข้อมูลที่ตั้งใจสร้างความเข้าใจผิด mislead อย่างชัดเจน เลยก็คือ

การกล่าวว่านายกฯ เป็นประธาน กกพ. และมีอำนาจเหนือ กกพ. สร้างความเข้าใจผิด เพราะ กกพ. เป็นองค์กรอิสระ มีความอิสระในการตัดสินใจนโยบายเชิงปฏิบัติ ซึ่ง นายกฯ แทรกแซงไม่ได้ค่ะ

สรุปแล้ว  การบริหารจัดการเรื่องค่าไฟฟ้าและสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีพลังงานโดยตรง แต่เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่มีอำนาจในการตัดสินใจอย่างเด็ดขาด

และทั้งนี้ #นายกแพทองธาร ก็ได้ย้ำถึงประเด็นนี้ตลอด ตั้งแต่การขอให้เร่งปรับปรุงหลักเกณฑ์คัดเลือกและการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และเรื่องการรับซื้อพลังงานซึ่งนายกได้ให้ข้อสั่งการไปว่าต้องคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก และในช่วงก่อนจบประชุม ก็มีการแสดงความเห็นโดยนายก และรองนายพิชัยว่าต้องทำให้ค่าไฟและค่าส่งถูกลง เพราะไม่งั้นประเทศจะแข่งขันไม่ได้

สุดท้ายค่ะ  และถ้าพรรคประชาชน จะเสนอแนะอะไรรัฐบาล ช่วยกรุณาไปศึกษากรอบกฎหมายและอำนาจหน้า ที่แต่ละหน่วยงานมีอย่างรอบครอบถี่ถ้วนหน่อยนะคะ  หรือฟังที่ ท่านอ.วีระ ธีรภัทร พูดในรายก็ได้นะคะ ดิฉันใน ฐานะ ส.ส.และเพื่อนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทย เรายินดีรับฟังเสมอ ถ้ามันสามารถทำได้ อยู่ในอำนาจไม่ขัดกฎหมาย  เพราะเรื่องการบริหารประเทศจะให้เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนเด็กเอาแต่ใจ คงทำให้ไม่ได้ทุกเรื่อง