เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2567 เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา นายชวาล พลเมืองดี สส.พรรคประชาชน (ปชน.) เขต 3 จ.ชลบุรี กรณีปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า หลังการเลือกตั้งวันที่14 พ.ค.66 นายชวาล กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.2561 มาตรา 67 และมาตรา 155 คือ จงใจยื่นบัญชีรายรับรายจ่ายในการเลือกตั้งไม่ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง

ทั้งนี้ คำวินิจฉัยระบุว่า จากการตรวจสอบบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งของนายชวาล พบว่า นายชวาล ได้แจ้งต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชลบุรี ระบุค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งระหว่างวันที่ 20 มี.ค.66 - 15 พ.ค.66 ผ่านช่องทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "ชวาล พลเมืองดี" จำนวน6,000บาท ในหมวด "ค่าโฆษณาในสื่อต่างๆ" แต่จากการไต่สวนได้ความว่า นายชวาลมีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซึ่งเป็นค่าโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งผ่านช่องทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 9,347.51 บาท โดยพยานคนที่ 1 และคนที่ 2 ของนายชวาล ซึ่งเป็นอาสาสมัคร และผู้ช่วยหาเสียงทำการโฆษณาหาเสียงผ่านทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว ให้ถ้อยคำถึงสาเหตุที่ไม่ได้แจ้งค่าใช้จ่ายดังกล่าวแก่นายชวาล ว่าเกิดจากความหลงลืม และไม่ปรากฏว่านายชวาลได้ติดตามทวงถามถึงค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จากพยานทั้ง 2 คน ประกอบกับ เมื่อเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดชลบุรี ติดต่อให้นายชวาล ดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขจำนวนค่าใช้จ่ายในรายการอื่นๆ ก็ไม่พบว่านายชวาลได้แจ้งค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวเพิ่มเติม กระทั่งถูกแจ้งข้อกล่าวหา

นอกจากนี้ จากการไต่สวนยังรับฟังได้ว่า วันที่ 4 เม.ย.66 นายชวาลได้แจ้งการหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านช่องทางบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ "พรรคก้าวไกล ชลบุรี - Move Forward Party Chonburi" ต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดชลบุรี โดยโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งทั้งสิ้น 5 แคมเปญ มีค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเป็นเงินจำนวน 5,512.46 บาท แต่นายชวาลไม่ได้นำค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มารวมคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง อ้างว่าไม่ทราบถึงค่าใช้จ่ายในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งดังกล่าว โดยพยานคนที่ 1 ของนายชวาล ซึ่งเป็นผู้ดูแลการโพสต์และเผยแพร่นโยบายของผู้สมัคร สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดชลบุรีของพรรค ให้ถ้อยคำว่า สาเหตุที่ไม่ได้แจ้งค่าใช้จ่ายดังกล่าวแก่นายชวาล เพราะหลงลืม และไม่ปรากฏว่านายชวาลติดตามทวงถามทั้งสองกรณี

กกต.จึงเห็นว่า มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า นายชวาลจงใจยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนตามความเป็นจริง ตามที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.2561 มาตรา 67 กำหนดให้ภายใน 90 วันนับแต่วันเลือกตั้ง ผู้สมัครแต่ละคนและหัวหน้าพรรคการเมืองที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายต่อ กกต.ตามแบบที่ กกต.กำหนด หากฝ่าฝืนมีโทษตามมาตรา 155 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี