วันที่ 20 ธ.ค.67 ที่กระทรวงต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายพลพงษ์ วังแพน อธิบดีกรมอาเซียน แถลงถึงการหารืออย่างไม่เป็นทางการแบบขยาย (Extended Informal Consultation) ในระดับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่กรุงเทพฯ ในวันนี้ ซึ่งมีผู้แทนจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วม ประกอบด้วย สปป.ลาว ซึ่งเป็นประธานอาเซียนปัจจุบัน มาเลเซีย ที่จะรับตำแหน่งประธานอาเซียนหมุนเวียนในปี 2568 ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย รวมถึงผู้สังเกตการณ์จากอีก 4 ประเทศ คือ บรูไนดารุสซาลาม อินโดนีเซีย เวียดนาม และกัมพูชา รวมเป็น 9 ประเทศ โดยมี นายมาริษ เสงี่ยมพงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมในฐานะผู้แทนฝ่ายไทย
นายนิกรเดช เปิดเผยว่า จุดประสงค์สำคัญของการประชุมในวันนี้ คือสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านประธานอาเซียน จาก สปป.ลาว สู่มาเลเซีย ให้เกิดความต่อเนื่อง ราบรื่น และปูทางสู่การประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนในเดือนหน้า (ม.ค. 2568) บรรยากาศการประชุมในวันนี้ เป็นไปด้วยดี มีการหารืออย่างตรงไปตรงมา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นสำคัญระหว่างกัน โดยเฉพาะเรื่องฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน (Five-Points Consensus) ต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในเมียนมา รวมถึงประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ในประเด็นฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน นั้น นายพลพงษ์ กล่าวว่าในที่ประชุม ได้มีการหารือเกี่ยวกับฉันทามติ 5 ข้อ ซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ.2021 ว่า ปัจจุบัน สถานการณ์ภายในเมียนมาเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร ประเด็นที่สำคัญ คือ จะทำอย่างไรให้เกิดการปฏิบัติตามฉันทามติ และเกิดประสิทธิภาพ รวมทั้งจะมีช่องทางใหม่ ๆ ที่สอดคล้อง และช่วยส่งเสริมฉันทามติ 5 ข้อ ได้อย่างไร รวมทั้งอาจถึงจุดที่ต้องทบทวน และปรับเปลี่ยนฉันทามติ 5 ข้อ แล้วหรือไม่ แต่ในขณะเดียวกัน ที่ประชุมก็ยังคงเห็นพ้องว่าฉันทามติ 5 ข้อ ยังคงเป็นแนวทางหลักของอาเซียน ที่จะช่วยแก้ไข สนับสนุน การแก้ไขความขัดแย้งภายในเมียนมาได้
ทั้งนี้ จากการตั้งข้อสังเกตว่า ประธานอาเซียน คือ สปป.ลาว และ มาเลเซียที่จะรับช่วงต่อ จะนำประเด็นจากการประชุมในวันนี้ ไปถ่ายทอดต่อเมียนมา ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมการประชุมในวันนี้ หรือไม่ อย่างไรนั้น นายพลพงษ์ กล่าวว่า ในการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า (2568) จะมีผู้แทนจากเมียนมาเข้าร่วม ซึ่งจะได้รับรู้ถึงมุมมอง ของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน โดยเฉพาะที่เข้าร่วมการประชุมในวันนี้ อย่างแน่นอน