สยามรัฐยืนหยัดอยู่บนบรรณภิภพ และสังคมออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม ด้วยปณิธาณ “นิคฺคณฺเห นิคหารหํ ปคฺคณฺเหปคฺคหารหํ” แปลว่า “พึงชมคนที่ควรชม พึงข่มคนที่ควรข่ม” …*…
2 คดีสำคัญในศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งคดีชั้น 14 และคดีดิจิทัลวอลเลต ผลออกมาเป็น “บวก” กับรัฐบาลแพทองธาร แม้ภายใต้บริบทการเมืองที่ความซับซ้อนนั้น จะทำให้เกิด “สมการแปรผัน” สุมไฟการเมืองบนท้องถนนหรือมวลชนเร่งไฟสุมขอนจนม็อบจุดติดหรือไม่...*...
ด้วยอารมณ์ส้ม และเหลือง มีเคืองกับแค้น หากแดงได้ “ไฟเขียว”ผ่านตลอด โดยเฉพาะส้ม ที่ถูกยุบแล้ว ยุบอีก แม้ตอนนี้ ส้มไม่ต้องการเป็นบันไดกวักมือรัฐประหาร แต่อาการที่บรรดาขาประจำไปรวมตัวกันที่ ป.ป.ช. เพื่อเรียกร้องให้เช็กบิลชั้น 14 ไม่ว่าจะเป็น ตัวละครหลักอย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ พิชิต ไชยมงคล แต่ยังมี “หมอวรงค์” นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แก้วสรร อติโพธิ และ ประสาร มฤคพิทักษ์ ไปร่วมวงด้วยอย่างคักคัก …*…
แต่ในจังหวะที่ “ลุงโทนี่”ทักษิณ ชินวัตร อาละวาดไล่ตบพรรคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะเป็นการแซะว่า “หล่อเร็ว” หรือ จวกซ้ำว่าเป็น “อีแอบ” สะท้อนรอยแตกร้าวภายใน ก็เป็นจังหวะนรก ที่ ป.ป.ช.เร่งเครื่องคดีชั้น 14 พอดี ตั้งอนุกรรมการไต่สวน 12 เจ้าหน้าที่รัฐ ถึงจะมีแต่ละดับเจ้าหน้าที่ ที่ก็เชื่อกันว่า ความผิดจะไม่ไปถึง “ลุงโทนี่” ก็ตาม...*...
ส่วนศึกเลือกตั้งท้องถิ่น ที่เครือข่ายสีน้ำเงินในปราจีนบุรี อย่าง “โกทร” สุนทร วิลาวัลย์ ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันฆ่า “สจ.โต้ง” ทำให้บรรยากาศการเมืองท้องถิ่นระอุเดือด “ลุงโทนี่” ที่เผยไต๋ว่าอยากได้ “สจ.จอย” เมีย “สจ.โต้ง” ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย แถมหลุดไอเดียว่า “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร จะนั่งหัวโต๊ะนำทีมปราบผู้มีอิทธิพล ชัดเจนว่ากำลังจะแย่งชิงพื้นที่การเมืองเครือข่ายน้ำเงินในปราจีน ก็อาจจะทำให้ “ลุงโทนี่” คิดสะระตะแล้วว่า มิควรไปปรากฏตัวในงานศพ สจ.โต้งให้ชัดไปกว่านี้...*...
ส่วนในปราจีนคู่แข่งของ “สจ.จอย” ที่แน่ๆคงมีคนของส้ม แต่ขั้วของ “โกทร” หรือเครือข่ายสีน้ำเงินเดิมจะกล้าส่งคนลงไปหรือไม่ ต้องจับตา เพราะคำพูดในคลิปเสียงของ “สจ.โต้ง” ถ้าโกทรส่งคนลงสมัคร ต้องมีคนตายนั้น ยังกึกก้องอยู่แม้วันนี้เจ้าของเสียงจะไม่อยู่แล้วก็ตาม น่าคิดๆ...*...
ขณะที่หนูที่ไม่คิดจะช่วยราชสีห์แล้ว อย่าง “เสี่ยหนู”อนุทิน ชาญวีรกูล วันนี้ ประกาศชัดพรรคภูมิใจไทยไม่มีนโยบายส่งเลือกตั้งท้องถิ่นในนามพรรค โดยให้เหตุผลว่า บางพื้นที่เป็นพี่น้องกัน เขาก็ช่วยเหลือกัน แต่ถ้าสมมุติว่าลงไปช่วย แล้วพี่น้องอยู่คนละพรรคการเมืองกัน เช่นภูมิใจไทยกับเพื่อไทย แม้ว่าอยากจะช่วย แต่ก็เกรงใจพรรคที่สังกัด จึงปล่อยให้เป็นเรื่องของท้องถิ่น ส่งแต่ใจ จะให้ตนไปปราศรัยช่วยคงไม่ได้ เพราะเป็น รมว.มหาดไทย ถ้าเป็นกระทรวงอื่นคงพอไหว ต้องทำตัวเป็นกลาง …*…
ที่มา:ศรพระราม (20/12/67)