สกลนคร ตร.รวบ 2 นักบินค้ายา จนมุมคารีสอร์ท พร้อมของกลาง 122,000 เม็ด
วันที่ 20 ธันวาคม 2567 ที่ตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร พล.ต.ต.สมจิตร เหล่ามงคลนิมิต ผบก.ภ.จว. สกลนคร พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.วรวิทย์ นนท์พละ ผกก.สส.ฯพร้อมชุดสืบสวน ร่วมแถลงข่าวหลังจับกุมผู้ต้องหายาบ้า ได้แก่ นายคมณากาฬ หรือไมค์ อายุ 44 ปื ที่อยู่ 131 ม.13 ต.ไร่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร และนายเก่งกาจ หรือเก่ง อายุ 50 ปี ที่อยู่ 210 ม.1 ต.นาขยาด อ.ควนขนุน จ.พัทลุง พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 61 มัดหรือประมาณ 122,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีน้ำตาล ทะเบียน งค xxx ขอนแก่น 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีนำตาล ทะเบียน กต xxxx ขอนแก่น จำนวน 1 คัน สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม
โดยพฤติการณ์ในการจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่านายคมณากาฬ หรือไมค์ และนายเก่งกาจ หรือเก่ง มีพฤติกาณ์เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายยาเสพติด โดยจะอาศัยห้องพักชิดดาวรีสอร์ท ต.พังโคน อ.พังโคน จ.สกลนคร เป็นสถานที่จำหน่ายยาเสพติดและเป็นที่พักยาเสพติด โดยผู้ถูกจับทั้งสองมักจะมีพฤติการณ์ป็นคนส่งยาบ้าหรือนักบิน โดยจะนำยาบ้าไปส่งในบริเวณ จ.กาฬสินธ์ ขอนแก่น อุดรธานี และชัยภูมิซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียง จึงวางแผนเข้าจับกุม เมื่อมาถึงบริเวณห้องพักหมายเลข 5 ได้เข้าตรวจสอบพบนายเก่งกาจหรือเก่งฯ อยู่ภายในห้อง จึงได้แสดงตน และขอทำการตรวจค้นตัว และได้ทำการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของนายเก่งกาจหรือเก่งฯ พบว่ามีข้อมูลการติดต่อนำยาไปส่งให้กับลูกค้าจำนวนหลายๆคน จากการสอบถามทราบว่านายเก่งกาจหรือเก่งฯรับว่าได้ร่วมกันนายคมณากาฬหรือไมค์ฯ สั่งยาบ้ามาจาก สปป.ลาว เมื่อได้ยาบ้าแล้วจะให้นายคมณากาฬหรือไมค์ฯ จะเป็นผู้นำยาบ้าไปทิ้งตามจุดต่างๆให้กับลูกค้า ตำรวจทำการขยายผลจากนายเก่งกาจหรือเก่งฯ โดยให้นายเก่งกาจหรือเก่งฯ ทำการโทรศัพท์สอบถามจากนายคมณากาฬหรือไมค์ฯ ซึ่งได้คำตอบจากนายคมณากาฬหรือไมค์ว่า “ทำธุระเสร็จแล้วจะกลับมาหาที่ห้องพัก”
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม พ.ศ.2567 เวลาประมาณ 16.30 น. ชุดจับกุมที่ซุ่มอยู่ภายในห้องเห็นรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน งค xxx ขอนแก่น บุคคลที่ลงมาจากรถนั้น คือนายคมณากาฬ หรือไมค์ฯ ถือกระเป๋าขนาดใหญ่ลงมาจากรถและได้เดินเข้าภายในห้องหมายเลข 5 จนท. จึงได้แสดงตนเข้าตรวจค้ส พบ ยาบ้าจำนวน 61 มัดหรือประมาณ 122,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าถุงพลาสติกสีน้ำเงิน ซี่งผู้ถูกจับทั้งสองได้ให้ถ้อยคำเพิ่มเติมว่า พวกตนนั้นมีอาชีพเป็นคนนำยาบ้าไปส่งตามจุดต่างๆ (นักบิน) โดยจะได้รับค่าจ้างมัดละ 1,000 บาท โดยนายเก่งกาจหรือเก่งฯ นั้นจะติดต่อราษฎร สปป.ลาวผ่านทาง “Line” และ Messenger Face book ไปรับยาบ้าอยู่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม ครั้งละ 100-200 มัด ไปส่งให้กับผู้ค้าในพื้นที่ จ.สกลนครหรือพื้นที่ใกล้เคียง จึงควบคุมตัวนายคมณากาฬหรือไมค์ฯ นั้นไปตรวจค้นบริเวณบ้านเลขที่ 131 ม.13 ต.ไร่ อ.พรรณานิคม พบ รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน กต xxxx ขอนแก่น จำนวน 1 คัน จอดอยู่บริเวณบ้านดังหลังกล่าว จากการสอบถามนายคมณากาฬหรือไมค์ฯ รับว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของเพื่อนตนเองที่นำมาจำนำไว้กับตนในราคา 20,000 บาทเพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เจ้าพนักงานตำรวจจึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดไว้ เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติด และแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับทั้งสอง ทราบว่า ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 โดยการมีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน กระทำให้เกิดผลกระทบความมั่นคงต่อรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป แล้วจึงได้นำตัว มาที่ กก.สืบสวน. ภ.จว.สกลนคร เพื่อทำการขยายผลหาเครือข่ายยาเสพติด จากนั้นนำตัวและของกลางทั้งหมดให้กับพนักงานสอบสวน สภ.พังโคน จ.สกลนคร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 จำนวน 1,070,000 บาท