เมื่อการท่องเที่ยวไทยยังคงดึงดูดความสนใจจากนานาชาติ ด้วยศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงทำให้ล่าสุดเกาหลีใต้จัดงาน K-Travel Innovation Night เพื่อผลักดันให้สตาร์ทอัพชั้นนำด้าน ทราเวลเทค และ อีคอมเมิร์ซ ขยายตลาดในไทย ผ่านกิจกรรมโรดโชว์และบิสซิเนสแมทชิ่ง โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 230 คน จากภาครัฐและเอกชนทั้งสองประเทศ อาทิ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTAA), CP Group, True Digital Park และศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย ซึ่งประสบความสำเร็จในการจับคู่ธุรกิจกว่า 50 คู่
ไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพ
ทั้งนี้ นายคิม ดงอิล รองประธานอาวุโสขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (KTO) กล่าวว่า ความร่วมมือกับไทยนอกจากจะเป็นการขยายตลาดเพิ่ม ยังเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของระบบนิเวศด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากไทยเป็นตลาดศักยภาพที่สามารถรองรับเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากสตาร์ทอัพได้อย่างดีเยี่ยม และความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยผลักดันการท่องเที่ยวและนวัตกรรมของทั้งสองประเทศให้เติบโตไปพร้อมกัน
โดยข้อมูลจาก KTO ระบุว่าจำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปเกาหลีใต้ในปีนี้อยู่ที่ 260,000 คน หรือคิดเป็น 56% ของระดับก่อนโควิด-19 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 320,000 คน ภายในสิ้นปี ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ที่เดินทางมาไทยในครึ่งปีแรกของปี 2567 มีจำนวน 934,983 คน
ซึ่งประเทศไทยยังคงครองอันดับต้น ๆ ในฐานะจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวระดับโลก โดย เว็บไซต์ ยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชันแนล (Euromonitor International) ให้ข้อมูลว่า กรุงเทพมหานคร ได้รับการจัด ให้เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุดในโลกในปี 2024 ด้วยจำนวนกว่า 32.4 ล้านคน พร้อมกับการจัดอันดับจาก Time Out ที่ให้กรุงเทพฯ อยู่ในอันดับ 24 ของเมืองที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งเน้นถึงความหลากหลายของวัฒนธรรม อาหาร และประสบการณ์ท้องถิ่น
ร่วมมือพันธมิตรระดับโลก
อย่างไรก็ตาม นายคิม กล่าวว่า งาน K-Travel Innovation Night ได้ผลักดันให้สตาร์ทอัพชั้นนำด้าน ทราเวลเทค และ อีคอมเมิร์ซ ขยายตลาดในไทย โดยภายในงานมีการนำเสนอแผนธุรกิจจากสตาร์ทอัพเกาหลีจำนวน 9 แห่ง ซึ่งสตาร์ทอัพ 4 รายที่สามารถจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการไทยได้สำเร็จ คือ Gadget Korea ที่นำเสนอโซลูชัน eSIM สำหรับการเชื่อมต่อทั่วโลก ช่วยให้การสื่อสารสะดวกรวดเร็วผ่านการเปิดใช้งานง่ายๆ ด้วย QR Code โดยไม่ต้องใช้ซิมการ์ดแบบเดิม GroundK ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม SaaS-based T-RiseUp ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่งและการเดินทาง ด้วยการติดตามแบบเรียลไทม์ การวิเคราะห์ข้อมูล และระบบอัตโนมัติ ช่วยลดต้นทุนและยกระดับคุณภาพการบริการ ONDA ผู้ให้บริการโซลูชันการจองโรงแรมอันดับ 1 ของเกาหลีใต้ ที่ขยายตลาดสู่ไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความร่วมมือจากพันธมิตรระดับโลก เช่น Seed Mena และ VEStellaLab ที่นำเสนอเทคโนโลยี Vision-AIoT ผ่านระบบ WatchMile Parking System ระบบนำทางที่จอดรถแบบไม่ใช้ GPS ช่วยลดเวลาการหาที่จอดรถได้ถึง 70% ลดต้นทุนการจัดการ 80% และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอกรณีศึกษาความสำเร็จจากบริษัทที่สามารถเข้าสู่ตลาดไทย เช่น LaLastation ที่ร่วมมือกับ SAHA Group ในโครงการ SAHA Digital Ecosystem เพื่อสร้างแพลทฟอร์มอีคอมเมิร์ซของคนไทย โดยใช้ฐานข้อมูลลูกค้ากว่า 18 ล้านราย และผลิตภัณฑ์แบรนด์ชั้นนำกว่า 1,000 รายการ แสดงศักยภาพของไลฟ์คอมเมิร์ซ การถ่ายทอดสดจากอินฟลูเอนเซอร์เสมือนและการสื่อสารหลายภาษาที่ช่วยตอบโจทย์ตลาดไทย ขณะที่ DOWHAT นำเสนอแพลตฟอร์มคลาวด์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโรงแรมด้วยระบบอัตโนมัติ