เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.67 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า
ผลการลงมติร่างพ.ร.บ.ประชามติ คืออีกรูปธรรมหนึ่งของการเมือง 3 ก๊กที่ผมพูดถึง
ก๊กพรรคเพื่อไทยและก๊กพรรคประชาชนโหวตไปทางเดียวกัน แต่พรรคร่วมรัฐบาลสำคัญโหวตไปอีกทาง ซึ่งตรงกับส.ว.จากกติกาของก๊กอนุรักษ์นิยม
ภาวะแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก และอาจมีให้เห็นอีก แต่ไม่ควรเกิดกับเรื่องแก้รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นวาระประชาชน ที่ทุกพรรคต่างแสดงท่าทีตรงกันว่าต้องมีรัฐธรรมนูญใหม่
ข้อถกเถียงว่าประชามติ 2 ชั้น จะทำให้เกิดความชอบธรรม อ้างง่ายแต่ฟังยาก เพราะกติกานี้มัดมือชกคนไม่ลงคะแนนให้เป็นฝ่ายไม่เห็นด้วย อุ้มเสียงคนนอนบ้านมายัดลงหีบบัตร ทั้งที่ความชอบธรรมของประชามติอยู่ที่การเคลื่อนไหวรณรงค์ได้อย่างอิสระ และตัดสินโดยคะแนนข้างมาก
ส.ว.เกิดจากรัฐธรรมนูญนี้ พรรคการเมืองบางพรรคแนบแน่นกับส.ว. จึงไม่อยากแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ เป็นคำถามในใจคน
รัฐบาลต้องเดินหน้าต่อไป ถึงเดินช้าประชาชนก็เห็นชัดว่าช้าตรงไหน