ธ.ก.ส.บุรีรัมย์ นำเจ้าหน้าที่ออกให้บริการ เพื่ออำนวยความสะดวก ในการตรวจเช็คและเบิกเงินให้กับเกษตรกรชาวนา ที่ได้รับเงินสนับสนุนไร่ละ 1,000 บาท ตามโครงการสนับสนุนค่าบริการจัดการ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2567/68 ถึงที่

 

วันที่ 19 ธ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นายสมยศ โยสาจันทร์ ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำเจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. ออกให้บริการตรวจสอบยอดเงินเข้า และถอนเงิน แก่เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ที่ได้รับเงินสนับสนุนไร่ละ 1,000 บาท ตามโครงการสนับสนุนค่าบริการจัดการ และพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2567/68 ถึงที่  ณ โรงเรียนบ้านตะโก วันครู 2501 อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ 

 

โดยทางสำนักงาน ธ.ก.ส. ได้มีการออกบูธให้บริการอำนวยความสะดวก สำหรับการตรวจเช็คและเบิกเงินให้กับเกษตรกร ได้นำไปใช้จ่ายทันที เพื่อเป็นการเพื่อลดขั้นตอนและลดความยุ่งยากแก่เกษตรกรชาวนา ที่จะนำสมุดบัญชีธนาคาร เดินทางไปตรวจสอบยอดเงินเข้ายัง ธ.ก.ส.สาขาต่างๆ และตรวจสอบกดยอดเงินเข้ายังตู้ เอ.ที.เอ็ม. ที่จะก่อให้เกิดความแออัด ซึ่งได้มีเกษตรกรทั้งในพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ และอำเภอใกล้เคียงเดินทางมาเข้ารับบริการหลายร้อยคน 

ทั้งนี้ ธ.ก.ส. แต่ละสาขา ได้มีการโอนเงินเข้าบัญชี ให้กับเกษตรกรชาวนา ที่มีรายชื่อตามที่กรมส่งเสริมการเกษตรส่งมาให้ ตั้งแต่เวลา 2.00 น.(19ธ.ค.67)เป็นต้นมา ประกอบด้วย สาขากระสัง 8,793 ราย ,สาขาคูเมือง 8,062 ราย ,สาขาแคนดง 3,493 ราย ,สาขาเฉลิมพระเกียรติ 5,495 ราย ,สาขาชำนิ 5,247 ราย ,สาขานางรอง 14,613 ราย ,สาขานาโพธิ์ 5,906 ราย ,สาขาโนนดินแดง 1,555 ราย ,สาขาโนนสุวรรณ 1,773 ราย ,สาขาบ้านกรวด 6,555 ราย ,สาขาบ้านด่าน 3,529 ราย ,สาขาบ้านใหม่ไชยพจน์ 4,272 ราย  สาขาบุรีรัมย์ 8,456 ราย ,สาขาประโคนชัย 9,762 ราย ,สาขาปะคำ 4,262 ราย ,สาขาพลับพลาชัย 6,362 ราย ,สาขาพุทไธสง 8,146 ราย ,สาขาเมืองตลุง 7,916 ราย ,สาขาระกา 6,233 ราย ,สาขาละหานทราย 6,938 ราย ,สาขาลำปลายมาศ 18,486 ราย ,สาขาสตึก 12,790 ราย ,สาขาหนองกี่ 7,645 ราย ,สาขาหนองหงส์ 6,057 ราย ,สาขาห้วยราช 5,217 ราย ,สาขาอิสาณ 12,986 ราย รวมทั้งสิ้น 190,547 ราย เป็นเงิน 1,610,605,657 บาท 50 สตางค์

 

ด้านนายบำเพ็ญ ศิริบุญ เกษตรกรบ้านหนองโสน หมู่ที่ 4 อำเภอเฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า หลังทราบว่าวันนี้จะมีการโอนเงินไร่ละ 1,000 บาท ให้ชาวนาวันนี้ก็รู้สึกดีใจ ประกอบกับที่จังหวัดบุรีรัมย์มีการมาออกหน่วยเคลื่อนที่ให้บริการเลยเลือกมาใช้บริการกับเจ้าหน้าที่ที่บูธบริการเพราะต้องการเช็คยอดว่าเงินเข้าในบัญชีหรือยัง โดยหลังมีการเช็คบัญชีครั้งแรกเงินยังไม่มีการโอนเข้ามา แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้รออีกสักพัก ไม่นานเมื่อทำการเช็คครั้งที่ 2 เงินก็เข้าบัญชีครบตามจำนวนที่แจ้งไว้ ก็ขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้อนุมัติเงินส่วนนี้ออกมาช่วยเหลือชาวนา สำหรับตนเองนั้นตั้งใจว่าจะใช้เงินจำนวนนี้เป็นเงินสำรองสำหรับการทำนาในปีถัดไป จะเอาไว้ซื้อปุ๋ย ซื้อน้ำมันรถไถนา รวมถึงซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ปลูก โดยจะยังไม่ถอนจะเก็บเงินไว้ในบัญชีจนกว่าจะถึงเวลา แต่วันนี้เพื่อน ๆ ที่มาด้วยกันหลายคนก็เลือกที่จะถอนออกมา เพราะมีค่าใช้จ่าย ทั้งค่ารถเกี่ยว ค่าปุ๋ยที่ยังคงค้างร้านค้าและรถเกี่ยวอยู่ รวมถึงบางคนก็นำไปใช้จ่ายในครอบครัว