“รองนายกฯ ประเสริฐ”สั่งเข้ม ป้องกัน-ลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 เผย “คกก.นโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฯ” เห็นชอบเดินหน้ามาตรการ “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” บังคับใช้กฎหมาย จัดการ “เมาแล้วขับ” ขั้นเด็ดขาด

วันนี้ (19 ธันวาคม 2567) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ นโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ครั้งที่ 4/2567 โดยมีนายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค พร้อมด้วย ผู้แทนกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการเข้าร่วมประชุม

 

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568 ภายใต้แนวคิด “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจากการดื่มแล้วขับ เนื่องจาก การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญของการบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ทั้งกับตัวผู้ดื่มและผู้อื่น จากข้อมูลของศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน พบว่า การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2567 มาจากการเมาแล้วขับเป็นสาเหตุการตาย อันดับสอง รองจากความเร็ว ส่วนรถที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คือ รถจักรยานยนต์และจากข้อมูลจากระบบรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ กระทรวงสาธารณสุข (PHER plus) พบว่า จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 (ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.2566 – 4 ม.ค. 2567) มีผู้บาดเจ็บ จำนวน 25,830 ราย และเสียชีวิต 374 ราย สาเหตุจากการดื่มแล้วขับ 4,777 ราย โดยเป็นเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 569 ราย

 

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ในปีนี้รัฐบาลเน้นย้ำมาตรการ “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” อย่างต่อเนื่องดำเนินการตาม 4 มาตรการหลักควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2568 คือ มาตรการขับเคลื่อนแบบบูรณาการ สั่งการและกำกับติดตามการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุ เพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย เตรียมการจัดรณรงค์ประชาสัมพันธ์ โดยขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านค้า ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้แก่เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เด็ดขาด และห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทุกประเภท (โปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม) รวมไปถึงการคัดกรองผู้ดื่มสุรา ณ ด่านชุมชน เพื่อป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงระดับชุมชน และ“ด่านครอบครัว”เน้นย้ำให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานและคนในครอบครัวไม่ให้ดื่มแล้วขับขี่ยานพาหนะ ส่งเสริมบทบาทให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่ด่านชุมชน ดำเนินการเรียกตรวจเพิ่มขึ้น เพื่อสกัดกั้นคนเมาที่ผ่านมา ณ ด่านชุมชน ไม่ให้ขับขี่ยานพาหนะ มีการบังคับใช้กฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเข้มข้น มุ่งเน้นลดอุบัติเหตุทางถนน โดยเฉพาะข้อหา เมาแล้วขับ หากตรวจพบผู้ขับขี่ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนและเข้ารับการรักษา ในโรงพยาบาล มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่ากฎหมายกำหนดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนขยายผลทุกกรณี

 

“นอกจากนี้ตามที่คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติได้มีมติความเห็นชอบ ในการขอยกเว้นสำหรับการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันห้ามขายให้กับการขายในท่าอากาศยานนานาชาตินั้น ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วย ปัจจุบันนายกรัฐมนตรีได้ลงนามในประกาศฉบับดังกล่าวแล้ว อยู่ระหว่างเผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาเพื่อให้มีใช้บังคับต่อไป” นายประเสริฐ กล่าวย้ำ