เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 19 ธ.ค. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประะสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีการโหวตร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติของพรรคภูมิใจไทยที่แตกต่างจากพรรคร่วมรัฐบาล จะมีปัญหาในการทำงานร่วมกันในอนาคตหรือไม่ ว่า เป็นความเห็นของพรรคภูมิใจไทยที่โหวตอย่างนั้น แต่ภาพรวมของสภาโหวตอีกอย่างหนึ่ง เรื่องนี้เข้าใจว่าจะมีการชะลอไว้ 180 วันและตั้งคณะกรรมาธิการร่วม
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคร่วม แต่การทำงานในสภาไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน จะต้องมีการคุยกันหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจกัน ต้องเอาเหตุผลมาพูดคุยกัน ส่วนเรื่องอื่นๆ จะมีปัญหาตามมาหรือไม่นั้น ตนไม่อยากให้มองแบบนั้น เมื่อถามย้ำว่า จะต้องเคลียร์กันก่อนหรือไม่ เพราะในอนาคตยังมีอีกหลายเรื่องที่จะต้องพึ่งพากัน นายประเสริฐ กล่าวว่า ในสภามีรัฐบาลดูแลอยู่แล้ว ที่จะมีการกำหนดทิศทางในการโหวตในการประชุมสภาแต่ละครั้งว่าจะเป็นไปในทิศทางใดเพื่อความเป็นเอกภาพของรัฐบาล
เมื่อถามถึงกรณีฝ่ายค้านจะมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในปีหน้า แต่พรรคร่วมรัฐบาลยังไม่มีความเป็นเอกภาพจะเป็นปัญหาหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหา การอภิปรายไม่ไว้วางใจมี 2 ลักษณะตามมาตรา 151 และ 152 ของรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องที่ ครม. จะต้องตอบเอง ผู้รับผิดชอบแต่ละกระทรวงจะต้องชี้แจงในสิ่งที่ฝ่ายค้านอภิปราย เรื่องนี้เป็นคนละประเด็น เมื่อถามย้ำว่า ถึงอย่างไรจะต้องเกาะเกี่ยวกันแบบนี้ใช่หรือไม่ เพราะจะต้องยกมือโหวตเพื่อช่วยกัน นายประเสริฐ กล่าวว่า ก็เป็นรัฐบาลเดียวกัน ดังนั้น การทำงานต้องมีการประสานงานกันอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ท่าทีที่แข็งกร้าวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือสมาชิกพรรคเพื่อไทย จะทำให้พรรคภูมิใจไทยอึดอัดในการทำงานหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่มี ความคิดเห็นอาจจะไม่ตรงกันในบางครั้งแต่ไม่ทั้งหมด ส่วนมากในสภาก็โหวตในทิศทางเดียวกัน อาจมีบางเรื่องที่ไม่ตรงกันก็เป็นไปได้
นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องการโหวตเป็นเรื่องของสภา ไม่จำเป็นต้องให้นายทักษิณ หรือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตรนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลมาพูดคุย เพราะการโหวตเป็นเรื่องของสภา มีประธานวิปที่ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้วให้ใช้กลไกที่มีอยู่
เมื่อถามย้ำว่า จะใช้แค่วิปรัฐบาลประสาน ไม่ต้องถึงหัวหน้ามือรัฐบาลใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนตอบแทนไม่ได้ เพราะเมื่อกฎหมายเข้าสู่การพิจารณามีขั้นตอนหลายอย่างเป็นเรื่องของเหตุผลที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องชี้แจงกัน คงไม่ใช่เรื่องชนะคะคานกัน