“นายกฯ”ยอมรับ รู้เรื่อง”กตต.”เรียกให้ไปชี้แจงปม“ทักษิณ”ครอบงำพรรคแล้ว ยังไม่ตัดสินใจจะไปชี้แจงเองหรือส่งตัวแทนไป รอได้รับหนังสือก่อน "อิทธิพร" เผยไม่มีอำนาจสั่ง "ทักษิณ" ให้ข้อมูลคำร้องยุบพรรคเพื่อไทย “ไอติม” ย้ำดินเนอร์พรรคร่วมฝ่ายค้านแจ้งเรื่องซักฟอกรัฐบาล ยืนยันเข้มข้นเหมือนเดิม

เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.67 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. ส่งหนังสือเชิญในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้ไปชี้แจงกรณีมีการร้องเรียนระบุ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำเพื่อไทย ว่า ยังไม่ได้รับหนังสือ แต่ทราบเรื่องแล้ว 

ผู้สื่อข่าวถามว่า  หากได้รับหนังสือแล้ว จะเดินทางไปชี้แจงกกต.ด้วยตัวเอง หรือจะส่งตัวแทนไป นายกรัฐมนตรี  หันมาถามว่า “หนังสือว่าอย่างไร” ผู้สื่อข่าวจึงตอบไปว่า เป็นการเชิญให้หัวหน้าพรรคไปชี้แจง นายกรัฐมนตรี ได้ตอบกลับเพียงสั้น ๆ ว่า “อ๋อ” ก่อนเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที
ด้าน นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีที่ นายสนธิญา สวัสดี  นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้ยื่นหนังสือให้กกต. พิจารณาและวินิจฉัยตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีงานประชุมสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 13-14 ธ.ค.67 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะการให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นวิทยากร ใช้งบประมาณจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองในทางที่ถูกต้องหรือไม่ ว่า เรื่องนี้มีกระบวนการตรวจสอบ เพราะก่อนที่จะทำกิจกรรมด้านใด พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กำหนดให้พรรคการเมืองเสนอกิจกรรมให้กกต.รับทราบก่อน ส่วนเมื่อจัดกิจกรรมแล้วใช้งบประมาณไปเท่าใดนั้นก็ต้องยื่นรายการให้กับ กกต.ทราบ

ทั้งนี้ กกต.จะมีคณะกรรมการตรวจสอบ หากเห็นว่าถูกต้องก็ไม่มีปัญหา ซึ่งรายละเอียดหลังการจัดงานนั้นก็มีขั้นตอนปฏิบัติว่าจะต้องรายงานให้ กกต.รับทราบ ทั้งนี้ในช่วงที่พรรคการเมืองจัดกิจกรรมก็จะมีเจ้าหน้าที่ กกต. ไปร่วมสังเกตการณ์ หากเป็นการจัดกิจกรรมในช่วงไตรมาสใดก็ต้องรายงานที่ประชุมกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองทราบภายในไตรมาสนั้น

สำหรับความคืบหน้าคำร้องยุบพรรคเพื่อไทยกรณีนายทักษิณครอบงำพรรคได้มีการส่งหนังสือเชิญ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ชี้แจงข้อมูลแล้วหรือไม่นั้น นายอิทธิพร ชี้แจงถึงกระบวนการของ กกต. ว่า หากมีการร้องเรียน ก็จะมีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพิจารณาว่าคำร้องมีมูลหรือไม่ จากนั้นเรื่องนี้จะถูกส่งไปยังเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง หากพบมีมูลเลขาฯกกต.ก็จะสั่งให้รวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ รวมถึงเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องให้ถ้อยคำ เมื่อเห็นว่ารวบรวมข้อมูลครบถ้วนแล้ว ก็จะสรุปความเห็น ส่งให้เลขาฯกกต. เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่กกต. ขณะที่การประชุม กกต. เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. พบมี 4 คำร้อง และได้เชิญผู้ร้อง 4 คน ให้ข้อมูล และเชิญผู้ถูกร้องมาให้ข้อมูลด้วย แต่ไม่ทราบว่า มาให้ข้อมูลเมื่อไหร่ อย่างไร


ส่วนนายทักษิณจำเป็นที่จะต้องมาชี้แจงด้วยตนเองหรือไม่ นายอิทธิพล กล่าวว่า กกต. ไม่ได้มีอำนาจในการที่จะสั่งว่าให้ต้องมาให้ข้อมูล แต่เห็นว่าการให้ข้อมูลจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ร้อง รวมถึงพรรคการเมือง

 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงนัดถึงดินเนอร์พรรคร่วมฝ่ายค้านช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ จะมีการหารือในประเด็นใด ว่า การทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านอาจมีความแตกต่างกับพรรคร่วมรัฐบาล ที่ความคาดหวังเรื่องเอกภาพความสอดคล้องของนโยบายมีลักษณะที่ค่อนข้างสูงแต่พอเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน ไม่ได้มีความคาดหวังว่าแต่ละพรรคจะมีจุดยืน ขอร่างกฎหมายต่อนโยบาย หรือแนวทางการทำงานที่เหมือนกัน และที่ผ่านมาการทำงานร่วมกันจำกัดอยู่ในส่วนของขั้นตอนงานธุรการ เช่น แบ่งสัดส่วนเวลาในการ อภิปราย ดังนั้นวันนี้คงจะมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการ และในฐานะแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านจะแจ้ง ถึงความประสงค์ในการเปิดอภิปรายทั่วไป ตามมาตรา 151 เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล

ส่วนบทบาทของฝ่ายค้านที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเบาลง ต่างจากเดิมที่มีความเข้มข้น จะมีการหารือปรับยุทธศาสตร์อย่างไร นายพริษฐ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านอย่างเต็มที่เข้มข้นคู่ขนาน ทั้งการตรวจสอบรัฐบาล ผ่านกลไกของกรรมาธิการ การตั้งกระทู้ถาม แต่เข้าใจว่าคนอยากเห็นบทบาทของการอภิปรายทั่วไปซึ่งในสมัยประชุมนี้จะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ยืนยันได้ว่าเข้มข้นเหมือนเดิม สำหรับบทบาทในการเสนอร่างกฎหมาย ที่เราเสนอไปแล้วกว่า 80 ฉบับ จะเป็นกลไกที่จะทำให้ฝ่ายค้านสามารถกำหนดวาระของสังคมได้ และจะเป็นการดึงให้รัฐบาลมาพูดคุยในประเด็นดังกล่าว เช่นการยื่นร่างพ.ร.บ.กลาโหมที่พรรคเพื่อไทยก็มีการยื่นมาประกบแม้จะถอนออกไปในภายหลัง แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าเป็นการกระตุก ให้รัฐบาลกลับมาคิด

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีส.ส.พรรคไทยสร้างไทยจะยังอยู่ในสถานะฝ่ายค้านอีกจำนวนเท่าใด นายพริษฐ์ กล่าวว่า คงต้องไปสอบถามกับพรรคไทยสร้างไทยเองแต่เห็นว่าจากการลงมติในบางครั้ง ไม่มีความเป็นเอกภาพ ส่วนเสียงของฝ่ายค้านปัจจุบัน พรรคประชาชนมีสส.อยู่กว่า 140 คน เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการใช้กลไกต่างๆ ของสภาในการตรวจสอบรัฐบาลได้ ไม่ได้เป็นปัญหา