รทสช.มึนข่าว 25 ส.ส.จ่อย้ายซบพรรคอื่น ซัดคนปล่อยข่าวไม่หวังดี การันตี 36 ส.ส.ยังแน่นปึ้ก ฝ่ายค้านนัดดินเนอร์วันนี้ ให้จับตากำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล อนุทินลั่นไม่ต้องเคลียร์ใจทักษิณ ปมลาประชุมครม. บอกติดหมอนัดเลเซอร์ ไม่กล้าต่อล้อต่อเถียง ด้านอิทธิพร แจงกำลังสอบอดีตนายกฯครอบงำพรรค 
       
         เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเที่มีคนมาร้องว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำพรรคเพื่อไทย ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีการมาร้องเรียนเมื่อเดือนตุลาคม เหมือนว่าจะมีอยู่ 4 คำร้อง ซึ่งก็เป็นไปตามขั้นตอนการทำงานตามมาตรา 93 เป็นอำนาจหน้าที่ของนายทะเบียน โดยนายทะเบียนก็ได้สั่งให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานดำเนินการในส่วนนี้
       
  นายอิทธิพร กล่าวว่า ความคืบหน้าเท่าที่ทราบก็คือคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน และได้เรียกผู้ร้องทั้ง 4 คน มาให้ถ้อยคำแล้ว และมีหนังสือไปยังสื่อต่างๆ ที่ผู้ร้องกล่าวอ้างถึงให้มาให้ข้อเท็จจริง และมีหนังสือถึงหัวหน้าพรรคให้มาให้ข้อเท็จจริง ชี้แจงในประเด็นที่ถูกกล่าวหาเรียบร้อยแล้ว ส่วนความคืบหน้าก็ต้องขึ้นอยู่กับการดำเนินการในแต่ระดับขั้นตอนต่อไป
        
 สำหรับเรื่องที่นายทักษิณได้มีการจัดงานสัมมนาที่ต่างจังหวัด นายอิทธิพร กล่าวว่า ส่วนนั้นเป็นข่าวที่ปรากฏต่อสาธารณะ หน่วยงานหรือคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานก็มีหน้าที่ที่จะรวบรวมข้อเท็จจริงเอามาประกอบการพิจารณาว่าเรื่องนี้ควรจะมีความเห็นว่าอย่างไร
         
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัดส่วนของพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ต้องมีการเช็กชื่อด้วยหรือไม่ หลัง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลาประชุมเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ถ้าใครติดภารกิจสำคัญก็ต้องลา แต่จริง ๆ แล้วสัปดาห์นั้นไม่มีใครพูดถึงว่าเป็นวันพุธ เนื่องจากวันที่ 10 ธ.ค. เป็นวันหยุดราชการ ปกติจะข้ามไปสัปดาห์หน้า ซึ่งตนเห็นว่าเป็นวันพุธและตนได้นัดหมอที่ รพ.รามาธิบดีไว้ กำลังให้หมอลงเลเซอร์อยู่ ซึ่ง นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ก็โทรมาตามเข้าประชุมครม. เราก็อยากหล่อบ้าง มีคนบอกว่าเราไม่ค่อยหล่อ
      
   ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายทักษิณพูดอาจจะไม่เข้าใจนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ขอให้สื่อช่วยอธิบายให้ท่านเข้าใจด้วย พอไม่เข้าใจก็กลับไปโถมให้หนักเข้าไปอีก เมื่อถามว่า ได้มีโอกาสโทรศัพท์ไปชี้แจงนายทักษิณเป็นการส่วนตัวแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ต้องชี้แจงเพราะข่าวก็เป็นไปหมดแล้ว อย่างที่ตนบอกไว้คือว่ามีไม่กี่คนที่ตนไม่กล้าต่อล้อต่อเถียงด้วย และให้ความเคารพตลอด ไม่ว่าท่านจะพูดอย่างไรก็ตาม ตนก็มีข้อยกเว้น เพราะตนรักของตน ตนเคยดุด่าว่ากล่าวคนรถขับรถ ทุกวันตายไปคนหนึ่ง แล้วก็ยังคงคิดถึงอยู่เลย เพราะไม่มีใครให้ดุ ซึ่งก็ไม่เคยเกลียดเพราะรักมาก
 
ด้าน นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง ส.ส.รวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)  กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่า 25 ส.ส.มีแนวโน้มที่จะย้ายไปสังกัดพรรคโอกาสใหม่ ว่า ไม่ทราบเจตนาของคนที่เอาไปพูดและโจมตีพรรครวมไทยสร้างชาติว่าหวังผลอะไร ส่วนตัวที่เป็น ส.ส.รวมไทยสร้างชาติก็แปลกใจ และเชื่อว่าคนที่ให้ข่าวคงไม่หวังดีกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันได้ว่า ทั้ง 36 ส.ส.ยังรักสามัคคีกันเหมือนพี่น้อง รักและเคารพพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่เคยคิดที่จะออกจากพรรค เพราะได้รับเลือกจากประชาชนในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงขอฝากถึงผู้ที่ไม่หวังดีต่อพรรครวมไทยสร้างชาติว่า พวกเราไม่คิดย้ายออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติแน่นอน
       
  "เห็นข่าวใน TikTok ก็ยังงงว่าเอามาจากไหน โทรถาม ส.ส.หลายๆท่าน ที่อยู่ในพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็งงกันหมด ส่วนตัวผมแล้วไม่มีการย้ายพรรคแน่นอน ยังยืนหยัดอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะเราเกิดมาจากตรงนี้ โตมาด้วยกัน สู้มาด้วยกัน และที่สำคัญประชาชนเลือกเรามาในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ" นายจิรวุฒิ กล่าว
       
  นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม(กธ.) กล่าวถึงความชัดเจนของ 20 ส.ส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา สมัครเป็นสมาชิกพรรค ว่า มีความชัดเจนและคุยกันแล้ว เมื่อระบวนการทางกฎหมายเรียบร้อยก็คงมีการกรอกใบสมัคร ซึ่งเราได้เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว คาดว่าน่าจะเรียบร้อยภายในสัปดาห์นี้ เพราะกำลังประสานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพราะต้องตรวจสอบในระบบดูรายชื่อของแต่ละคนว่าสิ้นสมาชิกภาพแล้วเรียบร้อย ถึงจะเริ่มดำเนินการของฝ่ายเรา
      
   ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนั้นจะมีการปรับโครงสร้างพรรคหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ยังคุยกันคร่าวๆ แต่ยังไม่ได้สรุปลงตัวว่าจะเป็นอย่างไร เพราะถ้าเปลี่ยนตัวคณะผู้บริหารพรรคต้องมีการประชุมใหญ่ เนื่องจากตำแหน่งสำคัญๆต้องเป็นการเลือกตั้งในที่ประชุมใหญ่ จึงต้องมีการเตรียมการ สำหรับการประชุมใหญ่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งปีนี้ไม่ทัน
      
   เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัสจะนั่งเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า เดี๋ยวขอโทรถามก่อน เมื่อถามว่า แต่ร.อ.ธรรมนัสจะมีบทบาทในพรรคแน่นอนใช่หรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า อย่างที่คุยกันก็แน่นอนอยู่แล้วยังไงเราก็ทีมงานเดียวกันที่มาอยู่ด้วยกันก็เป็นเพื่อนส.ส.กันมาทั้งหมด ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ที่ระบุว่ามี 20 ส.ส.บวก 4 แล้ว จะมีมาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ นางนฤมล ตอบว่า ติดตามตอนต่อไป เมื่อถามต่อว่า จะเปิดตัวได้ภายในสัปดาห์นี้เลยหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ถ้าเรียบร้อยก็น่าจะได้ เมื่อถามว่า จะเปิดพร้อมกับที่ทำการพรรคเลย ใช่หรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ถ้าจัดการเรียบร้อยแล้ว จะแจ้งประสานสื่อมวลชน
 วันเดียวกัน นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็น 20 ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐถูกขับออกเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตอนนี้กระบวนการทางกกต.แล้วเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือยัง ว่า โดยกฎหมายบอกว่าวันที่พรรคมีมติจะมีผลทันที แต่ว่าการประชุมต้องเห็นชอบ หมายความว่าองค์ประชุมต้องครบ และในการขับจะต้องมีกรรมการบริหารพรรค และส.ส.ประชุมร่วมกัน มติที่ขับต้อง 3 ใน 4 ซึ่งตรงนี้ไม่มีใครทราบเพราะเป็นเรื่องภายในของพรรค
        
 ถ้าในที่ประชุมเห็นชอบจะมีผลในวันนั้นเลย แต่ถ้าในที่ประชุมไม่เห็นชอบก็จะย้อนกลับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้สำนักงานได้แต่ตามว่าเมื่อไหร่พรรคที่ขับจะทำรายงานการประชุมมาให้ เพื่อที่จะได้ตรวจสอบองค์ประชุมว่าครบหรือไม่ กับสมาชิกที่ถูกขับออกย้ายไปอยู่พรรคใหม่แล้วหรือไม่
    
     นายแสวง กล่าวต่อว่า เท่าที่ตนได้รับรายงานคือสมาชิกที่ถูกขับออกจากพรรคได้มีการไปสมัครพรรคใหม่แล้ว และได้รับการประสานงานว่าจะมายื่นหนังสือว่าเข้าไปอยู่สังกัดพรรคใหม่วันนี้ ซึ่งเป็นสิทธิของเขา เมื่อเขาไปสมัครพรรคใหม่ และพรรคใหม่ได้ยื่นมา ซึ่งไม่ใช่นายก นายข เป็นคนยื่น ทางสำนักงานนายทะเบียนก็จะตรวจสอบและส่งเรื่องว่ามีส.0ส.ที่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งถูกขับไปอยู่สมาชิกพรรคใหม่และส่งหนังสือไปที่สภา ส่วนการตรวจคงามถูกต้อง ต้องรอจากพรรคต้นสังกัด ว่าถูกต้องหรือไม่ ถ้าถูกต้องกฌสมบูรณ์ตั้งแต่วันที่ถูกขับ ต้องรอดูเอกสารตอนนี้อธิบายได้แต่ขั้นตอนและข้อกฎหมายเท่านั้น

 ด้าน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เปิดเผยถึงการนัดพบของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ในวันที่ 18 ธ.ค.นี้ ว่า จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันในสภา โดยมีหัวข้อสำคัญคือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะได้หารือเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เหมาะสม และความคิดเห็นของแต่ละพรรค โดยเน้นย้ำถึงการเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างของพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วย
         
สำหรับความร่วมมือระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า การทำงานของฝ่ายค้านไม่เหมือนกับรัฐบาล พรรคร่วมฝ่ายค้านมีแนวคิดที่แตกต่างกัน แต่ยังคงพยายามทำงานร่วมกัน เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด และคาดหวังว่า จะเห็นการร่วมลงมติในกรณีที่เห็นพ้องต้องกัน เพื่อแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของพรรคฝ่ายค้าน
     
    นายปกรณ์วุฒิ ยังกล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า จะมีหัวข้อที่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่แต่ละพรรคมี พร้อมยืนยันว่า ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเต็มที่ โดยไม่จำกัดเรื่องที่อภิปราย และขอให้นายกรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ถามในสภา โดยเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีที่นายกรัฐมนตรีจะได้ชี้แจงและแก้ข้อวิพากษ์วิจารณ์ แต่หากติดภารกิจ ก็สามารถล็อควันตอบกระทู้ล่วงหน้าได้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อภารกิจอื่นๆ