นายกฯเดินหน้าตั้งทีมปราบมาเฟีย ผู้มีอิทธิพล ปัดตอบพท.ส่ง สจ.จอยลงสมัครชิงนายกอบจ.ปราจีนบุรี อนุทินเผยเหตุยิงที่ปราจีนบุรี ไม่เข้าข่ายผู้มีอิทธิพล แค่เหตุทะเลาะวิวาท คุยเครือข่ายสีน้ำเงินครองแชมป์การเมืองท้องถิ่น ด้าน กกต.ตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งสนามท้องถิ่น 415 คน ประจำการ 76 จังหวัด
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยการประชุมครั้งนี้เลื่อนขึ้นเร็วกว่าปกติ จากเดิมที่จะประชุมเวลา 10.00 น. เนื่องจากเวลา 13.00 น. นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ใน จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รื้อฟื้นเรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพล โดยให้นายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าทีม โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คณะกรรมการจะต้องมีกระบวนการและแนวทางการดำเนินการ ซึ่งคิดว่าจะต้องเริ่มให้เร็วที่สุด เมื่อถามต่อว่าจะเริ่มได้เมื่อไหร่ เพราะการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ค่อนข้างแรง นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบคำถาม
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวส่ง น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน ภรรยา นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือสจ.โต้ง ลงสมัครนายกอบจ.ปราจีนบุรี ในนามพรรคเพื่อไทย นั้น น.ส.แพทองธาร หยุดฟังคำถาม พร้อมตอบว่า อ๋อ ทีละเรื่องๆ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ตาก เพชรบูรณ์ และนายกเทศมนตรีนครบุรีรัมย์ ที่เครือข่ายสีน้ำเงินชนะการเลือกตั้ง ทั้งที่พรรคประกาศไม่สนับสนุนเลือกตั้งท้องถิ่น ว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้สนับสนุนท้องถิ่นในนามพรรค แต่ในส่วนพื้นที่ใดที่เป็นพี่น้องกันเขาก็ช่วยเหลือกัน แม้บางพื้นที่พี่น้องอยู่คนละพรรคกันก็อาจจะเกิดความเกรงใจกันพรรค จึงมีมติไม่สนับสนุนและปล่อยให้เป็นเรื่องท้องถิ่น ไม่ใช่การเมืองใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าผู้สมัครในพื้นที่ก็จะเกิดความสบายใจกันมากกว่า
ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่มีทัพหลวงลงไปสนับสนุน พร้อมย้ำว่าส่งไปแค่ใจ ขณะที่ผมจะลงไปปราศรัยช่วยก็คงไม่ได้ เพราะออกระเบียบกระทรวงมหาดไทย ให้ข้าราชการวางตัวเป็นกลาง
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคภูมิใจไทยจะส่งแค่ใจ แต่พรรคอื่นส่งทัพใหญ่ลงไปช่วยจะทำให้คนที่สังกัดพรรคเสียเปรียบหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า ภูมิใจไทยก็ชนะมาอยู่นะ และก็เป็นแชมป์อยู่นะ หากนับเฉพาะคนที่เกี่ยวข้องและสนิทกับภูมิใจไทย ส่วนจะมีจำนวนกี่พื้นที่จำไม่ได้ แต่ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งอยู่"
เมื่อถามต่อว่า หากเป็นเช่นนี้เครือข่ายพรรคภูมิใจไทยจะหวั่นไหวหรือไม่ เพราะ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประกาศลงช่วยหาเสียง นายกอบจ.พื้นที่ต่างๆ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าคนที่ลงสมัครเขาก็มีพื้นที่ของเขา และคิดว่าไม่เกิดความหวั่นไหวเพราะในทางการเมืองก็ต้องแข่งขันกันไป เพราะหากไม่มีนายทักษิณ ลงไปช่วยก็ต้องมีคนอื่นอยู่ดี และหากมี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ,นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลงไปก็ต้องหวั่นไหวด้วยใช่หรือไม่ หากตกใจง่ายไม่ต้องเล่นการเมือง
เมื่อถามถึงกรณี นายอัครเดช ทองใจสด ครองแชมป์นายกอบจ.เพชรบูรณ์ อีกสมัย และมีกระแสข่าวจะย้ายมา พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯดอยซ์ มีความสนิทสนมกัน แต่ยังไม่มีการคุยเรื่องการเมือง และนายกฯดอยซ์ ก็ยังอยู่ทีม นายสันติ พร้อมพัฒน์ สังกัดพรรคพลังประชารัฐ อยู่ เมื่อถามย้ำว่า นายกฯดอยซ์ มีโอกาสจะย้ายมาอยู่พรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า มันก็มีโอกาสหมดแหละ ซึ่งทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางการเมืองในห้วงเวลานั้น และขณะนี้ยังไม่ถึงการเลือกตั้งใหญ่ขอให้ใจเย็นๆ
นายอนุทิน ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายกฯ เตรียมเดินหน้าปราบปรามผู้มีอิทธิพล ว่า ความจริงแล้วกระทรวงมหาดไทยปฏิบัติมาตลอดอยู่แล้ว กรณีที่เกิดขึ้นที่ปราจีนบุรีคือ เหตุการณ์เกิดขึ้นในบ้านพัก เป็นการทะเลาะวิวาท และบันดาลโทสะ ใครทำอะไรไปก็ต้องรับผลกรรม แต่ถ้าจะออกไปมีเรื่องทะเลาะวิวาทข้างนอก ไม่สามารถทำไม่ได้ และถ้าใครทำไม่ดีก็ต้องถูกขยายผลว่าเกี่ยวพันไปถึงใคร ถ้าเป็นเรื่องผู้มีอิทธิพล เรื่องปืน เรื่องข่มขู่ ก็ต้องเข้าไปจัดการ ซึ่งการปราบปรามผู้มีอิทธิพลครั้งนี้จะดูแลเอง
สำหรับ นายทักษิณจะรื้อฟื้นเหมือนในอดีตที่ให้มีการตั้งศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติด นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าได้นายกฯมาช่วยก็ถือเป็นเรื่องดี เพราะจะมีกลไกตำรวจ ทหาร และความมั่นคงต่างๆ ถือเป็นการบูรณาการที่สมบูรณ์แบบ เพราะกระทรวงมหาดไทย ก็ใช้กลไกของกระทรวง หรือหากเป็นรูปแบบของคณะกรรมการเฉพาะกิจ ก็เป็นเรื่องดี เพราะจะได้คนที่มีอำนาจสั่งการสูงสุดเข้ามา ถือเป็นประโยชน์
ส่วนรายชื่อผู้มีอิทธิพล มีรายชื่อของบ้านใหญ่ปราจีนบุรีอยู่ด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่ามีอิทธิพล มีหลายอย่าง การทำให้ชาวบ้านเชื่อถือ เคารพศรัทธา ก็ถือว่าเป็นอิทธิพล ทุกคนมีอิทธิพลหมด ขึ้นอยู่กับว่าจะไปทำให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมือง หรือทำให้ผู้คนเดือดร้อน ซึ่งกระทรวงมหาดไทย จะปราบอิทธิพลที่ทำให้ผู้คนเดือดร้อน ถ้าทะเลาะวิวาทกันเอง หรือบันดาลโทสะกัน ตรงนี้ไม่อยู่เข่าข่าย แต่ต้องไปดูว่าอาวุธปืน มาจากไหนต้องไปขยายความ ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่แยกแยะออก ว่า ใช้อิทธิพลในการประกอบคุณงามความดี หรือใช้อิทธิพลในการข่มเหงรังแกชาวบ้าน
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด ว่า ขณะนี้เตรียมครบตามแผนการทำงาน ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการจัดอบรมผู้ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่อบรมเตรียมความพร้อมให้กับปลัดอบจ.ทั่วประเทศเมื่อวันที่ 23-25 พ.ย.ที่ผ่านมา อบรมผู้ตรวจการเลือกตั้งไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และวันเดียวกันนี้ จะมีการตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งจำนวน 415 คน ไปปฏิบัติหน้าที่ใน 76 จังหวัด จากนั้นสัปดาห์หน้าจะมีการอบรมวิทยากรเพื่อไปถ่ายทอดแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ให้ครบถ้วนถูกต้องให้กับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 23-25 ธ.ค.67
ส่วนที่จ.ปราจีนบุรีที่มีข่าวความรุนแรง นายอิทธิพร กล่าวว่า เท่าที่เป็นข่าวก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีการร้องเรียนอะไรเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งอบจ.ที่จะมีขึ้น ยังไม่มีคำร้องอะไรเข้ามาสู่สำนักงานกกต.ส่วนกลาง แต่ในแง่การเตรียมการของจังหวัดปราจีนบุรีนั้นมีการขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ตั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว 4 ชุด เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยระหว่างที่จะมีการเลือกตั้ง และขอความร่วมมือสถานีตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรีให้ช่วยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยด้วย