กลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ยิ้มออก แนวโน้มขายกุ้งสดจากปากบ่อคึกคักก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ เริ่มมีออร์เดอร์จากพ่อค้าเร่ พ่อค้าขาประจำ ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เข้ามาวันละกว่า 30 ตัน เพื่อเปิดตลาดเรียกลูกค้า เตรียมกุ้งบิ๊กไซส์ไว้จับขายรายละ 2-5 ตันแต่คงไม่เพียงพอจำหน่าย เนื่องจากลดพื้นที่เลี้ยงลงเป็นจำนวนมาก สาเหตุจากอากาศวิปริตกุ้งตาย ต้นทุนการผลิตสูง เรียกร้องรัฐบาลควบคุมราคาพันธุ์ลูกกุ้งและอาหารกุ้ง
วันที่ 17 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการจับกุ้งก้ามกราม สัตว์เศรษฐกิจอันดับหนึ่งของ จ.กาฬสินธุ์ ที่เลี้ยงกันมากในพื้นที่ อ.ยางตลาด อ.เมืองกาฬสินธุ์ กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากชะลอตัวตั้งแต่หลังเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา โดยพบว่ามีทั้งบรรดาพ่อค้าคนกลาง และผู้ประกอบการค้าขายกุ้งก้ามกรามสด ส่งออร์เดอร์เข้ามาจับจองตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อนำไปจำหน่ายค้ากำไร และส่งลูกค้าตามร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ซึ่งเคยทำรายได้ให้กับผู้ประกอบการกลุ่มนี้ เฉพาะในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ถึงรายละหลักแสนบาททีเดียว
นายอาทิตย์ ภูบุญเติม อายุ 54 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกราม บ้านตูม หมู่ 4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า บรรยากาศการค้าขายกุ้งก้ามกราม เริ่มคึกคักมาได้ 2 สัปดาห์แล้ว โดยจะมีพ่อค้าคนกลาง พ่อค้าเร่ ทั้งขาใหม่ ขาประจำ รวมทั้งผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร เอเย่นต์ห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายแห่ง ในภาคตะวันออกเฉียงเกือบทุกจังหวัด รวมทั้ง สปป.ลาว เข้ามาติดต่อ ทั้งวางเงินสดล่วงหน้า และสั่งจองไว้ เพื่อนำไปขายล่วงหน้า เป็นการเปิดตลาดให้ลูกค้า นักท่องเที่ยวได้รู้จักจุดพักขายและร้านอาหาร ที่เปิดบริการเมนูเด็ดจากกุ้งก้ามกรามกาฬสินธุ์ ซึ่งในแต่ละปีจะขายดีมากในช่วงสงกรานต์และปีใหม่ โดยผู้เลี้ยงกุ้งจะเตรียมกุ้งไว้จับขายในช่วงนี้รายละ 2-5 ตัน ตามพื้นที่และตามศักยภาพของแต่ละคน
นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า สำหรับตนได้เตรียมกุ้งก้ามกรามไว้จำหน่ายช่วงปีใหม่ประมาณ 5 ตัน แต่ทุกวันนี้ก็ทยอยจับจำหน่ายทุกวันๆละ 80-100 ก.ก.ตามออร์เดอร์ ราคาจำหน่ายที่ปากบ่อ ก.ก.ละ 250 บาท ขณะที่พ่อค้าคนกลางจะนำไปขายต่อ ก.ก.ละ 280-500 บาท เพิ่มราคาตามระยะทางและขนาดตัวกุ้งที่คัดไซส์ เป็นกุ้งรวมหรือเล็กใหญ่ ซึ่งจะมีราคาแตกต่างกัน ทั้งนี้ จากบรรยากาศการขายกุ้งที่เริ่มคึกคักก่อนถึงเทศกาลปีใหม่ ทำให้ผู้เลี้ยงกุ้งยิ้มได้ ที่จะได้เงินจากการขายกุ้งไปเป็นค่าอาหารกุ้ง ค่าพันธุ์ลูกกุ้งและใช้หนี้ ธกส.
“อย่างไรก็ตาม คาดว่าถึงเทศกาลปีใหม่จริงๆ กุ้งก้ามกรามคงขาดแคลน ไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า เนื่องจากที่ผ่านมาอากาศวิปริต ทั้งร้อนทั้งฝนตก กุ้งปรับสภาพไม่ทันก็ทยอยไปไปเรื่อยๆ นอกจากนี้คุณภาพพันธุ์ลูกกุ้งไม่ค่อยมาตรฐาน มีอัตรารอดต่ำและราคาสูง ตัวละ 0.28-0.32 บาท หากปล่อยเลี้ยงจำนวน 1 แสนตัว ต้นทุนก็ตกเข้าไปแล้ว 28,000-32,000 บาท ให้อาหารประมาณวันละถุงๆละ 20 ก.ก.ราคา 800 บาท ตกเดือนละ 24,000 บาท เลี้ยงได้อายุ 5 เดือนจึงจะได้จับจำหน่าย หมดค่าอาหาร 120,000 บาททีเดียว หรือหากพื้นที่เลี้ยงหลายไร่/บ่อ ก็จะต้องเพิ่มปริมาณพันธุ์ลูกกุ้ง และต้องสิ้นเปลืองต้นทุนมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัว” นายอาทิตย์กล่าว
ทั้งนี้ เมื่อกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามประสบปัญหาดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาหลัก จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาล ช่วยควบคุมราคาพันธุ์ลูกกุ้งก้ามกรามและค่าอาหารกุ้งด้วย เพราะมีการปรับขึ้นเรื่อยๆ เป็นภาระของผู้เลี้ยงกุ้งที่ต้องแบกรับ ขณะที่ราคาขายกุ้งสดที่ปากบ่อยังยืนราคาเดิม ก.ก.ละ 250 บาทมาเกือบ 20 ปีแล้ว เป็นสาเหตุที่พื้นที่กุ้งลดลง จากเดิมเมื่อ 25 ปีที่ผ่านมา มีพื้นที่เลี้ยงใน ต.บัวบาน ต.นาเชือก ต.เขาพระนอน ต.คลองขาม อ.ยางตลาด และ ต.ลำคลอง ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ จำนวนหลายพันไร่ ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่ร้อยไร่ ผู้เลี้ยงกุ้งหลายรุ่น หลายคนต้องล้มเลิกกิจการไป เพราะขาดทุน ซึ่งหากต้นทุนยังไต่ขึ้นไม่มีเพดานจำกัด ดีไม่ดีในอนาคตอาชีพเลี้ยงกุ้งก้ามกราม สัตว์เศรษฐกิจอันดับหนึ่ง และสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัด อาจจะหมดไปอย่างน่าเสียดาย เพราะสู้ต้นทุนไม่ไหว